ขับรถชนของหลวง ต้องจ่ายให้หลวง หรือจ่ายให้ประกัน ?
ปัจจุบันรถยนต์ เป็นยานพาหนะที่จำเป็นในการเดินทาง เรียกได้ว่าแทบทุกครัวเรือนนั้นต้องมี "รถยนต์" เพราะสะดวกในการเดินทางมากกว่ารถสาธารณะทั่วไป อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว แต่สังเกตหรือไม่ว่าส่วนใหญ่แล้วรถที่มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ คือรถยนต์ส่วนตัวเช่นเดียวกัน
อุบัติเหตุ ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่มักเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะเกิดแบบมีคู่กรณี หรือ ไม่มีคู่กรณี เช่น การขับรถหลับใน หักหลบสุนัขหรือสิ่งของ มีหลายเหตุการณ์ที่มีอุบัติเหตุในการขับรถชนข้าวของริมถนนให้เสียหาย อย่าง ชนเสาไฟฟ้า ชนหลักกันโค้ง ชนราวสะพาน ชนเสาสัญญาณไฟ เป็นต้น โดยสิ่งของเหล่านี้ถือเป็นทรัพย์สินของหลวง ที่หากเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับความเสียหายแล้วต้องมีผู้รับผิดชอบ
เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นจากการ
ขับรถชนเสาไฟฟ้า ที่จะสามารถเห็นได้บ่อยครั้งตามข่าวหรือสื่อต่างๆ หลายคนคงสงสัยว่า หากขับรถชนของหลวง ต้องจ่ายให้หลวงไหม หรือต้องจ่ายให้ประกัน แล้วสามารถเคลมประกันด้หรือไม่ มีความคุ้มครองในส่วนไหนบ้าง วันนี้พี่หมีมีคำตอบครับ...
การขับรถชนของหลวงเสียหายส่วนใหญ่จะมีหน่วยงานที่เป็นส่วนรับผิดชอบ เช่น หากคุณขับรถชนเสาไฟฟ้า หักโค่น หรือได้รับความเสียหาย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของหลวงต้องมีการเข้ามาดูแล อย่างเช่น ชนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เจ้าของทรัพย์สินก็จะปรับค่าเสียหายค่าเสาไฟฟ้า และความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น โดยจะมีการส่งเป็นใบแจ้งหนี้มาให้ค่าเสียหายจะอยู่ที่เท่าไหร่บ้างนั้นต้องมารอลุ้นกัน
ซึ่งในส่วนนี้หากคุณขับรถชนของหลวง หรือ สมบัติของทางราชการ ไม่ว่ากรณีใดๆ คุณต้องทำการชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด แต่หากคุณมีประกันรถยนต์ ชั้น 1 คุณสามารถให้บริษัทประกันเป็นผู้ชดใช้ในส่วนของค่าเสียหายได้ ไม่ว่าจะในกรณีการเคลมส่วนของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย (ตามวงเงินคุ้มครองที่กำหนด) และ กรณีของทรัพย์สินภายนอก (ของหลวงที่เสียหาย ตามวงเงินคุ้มครอง) แต่หากค่าเสียหายเกินวงเงิน คุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือเองเช่นเดียวกัน
สิ่งที่ควรรู้จากประกัน ในกรณีชนของหลวง คือ
• หากทำ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 บริษัทประกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของค่าเสียหายทั้งหมด ไม่ว่าจะชนอะไรก็ตามซึ่งต้องขึ้นอยู่กับวงเงินตามกรมธรรม์ที่ระบุ
• สำหรับ
ประกันชั้น 2 ทางบริษัทประกันจะไม่ได้รับผิดชอบทั้งหมด โดยส่วนนี้คุณต้องรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งภายในสัญญาและกรมธรรม์จะมีระบุอย่างชัดเจนว่าคุณต้องรับผิดชอบส่วนไหน และบริษัทประกันต้องจ่ายในส่วนไหนบ้าง
สำหรับประกันอื่นๆ นั้น คุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง เพราะไม่ได้อยู่ในส่วนของความคุ้มครองของประกันภัย ดังนั้นทุกการขับขี่ควรพึงระวังในเรื่องความปลอดภัยให้มากๆ เพราะจะทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้ หรือ หากอยากป้องกันความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ พี่หมีก็ขอแนะนำว่าควรเลือกทำในส่วนของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ส่งผลดีต่อตัวคุณและรถยนต์ของคุณมากกว่า และถ้าจะให้ดีที่สุด "ซื้อประกันผ่านโบรกเกอร์เพื่อให้ได้เบี้ยที่ถูกกว่าการซื้อโดยตรง แบบนี้ก็จะได้รับความคลุมครองอย่างคุ้มค่าที่สุด" สนใจปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร 1737 หรือค้นหาราคาประกันที่กล่องด้านล่างได้เลยครับ
READ MORE :