รู้ลึกเรื่อง "ยาง"
ก่อนขับรถลุยฝน
"ยาง" เป็นส่วนที่ต้องแบกรับน้ำหนักรถทั้งคันไว้และสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ดังนั้นการเลือก ยาง ให้เหมาะกับการใช้งานจึงสำคัญมาก เพราะนั่นหมายถึง ความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะ ‘ฤดูฝน’ ที่พื้นสัมผัสกับผิวถนนไม่เหมือนกับฤดูอื่น พี่หมีเลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆ เช็คสภาพยางและเลือกยางให้พร้อมรับกับความแปรปรวนของสภาพอากาศเมืองไทยครับ
ก่อนอื่นมารู้กันก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุช่วงหน้าฝน
● ขับเร็ว ทำให้ควบคุมรถลำบาก
● สภาพถนนทรุดโทรม เป็นหลุมบ่อ หรือดินโคลน เมื่อผสมกับน้ำจะทำให้ถนนลื่นกว่าปกติ
● อาการเหินน้ำ (Aquaplaning) เพราะถนนมีน้ำขัง ทำให้ยางไม่สัมผัสกับพื้นถนน มีแรงเสียดทานไม่พอที่จะควบคุมรถ จากน้ำที่หนุนอยู่ใต้พื้นยาง
เห็นไหมครับว่า ถ้ายางอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างมาก พี่หมีอยากแนะนำว่าถ้าเพื่อนๆ อยากได้ยางช่วยเพิ่มแรงเสียดทานในช่วงหน้าฝน ก็ควรเลือกยางที่มีดอกยางละเอียด เรียงตัวแบบทิศทางเดียว มีร่องลึกอย่างน้อย 3 มม. จะช่วยในการควบคุมการทรงตัว และช่วยรีดน้ำได้ดี
ที่สำคัญอย่าลืมสังเกต ความเสื่อมของยาง ด้วย ถ้าเริ่มรู้สึกว่าเนื้อยางเริ่มแข็งกระด้าง ระยะเบรกยาวขึ้น และรถไม่ค่อยเกาะถนน ให้รีบเข้าอู่เปลี่ยนก่อนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น นอกจากนี้ยังควรเช็ค …
● ความดันลมยาง ต้องเติมลมยางให้พอดีหรือมากกว่าปกติ 1-2 ปอนด์ ในช่วงหน้าฝน เพื่อให้หน้ายางแข็งและรีดน้ำได้ดี
● ดอกยาง มีส่วนช่วยกรุยทาง และรีดน้ำได้ดี ควรสังเกตโดยใช้เหรียญสอดไปในร่องเพื่อดูความลึก ซึ่งอย่างน้อย 1.5 มม. และไม่ควรปล่อยให้สะพานยางตื้นขึ้นมาจนเสมอกับผิวยาง
● เนื้อยาง เช็คได้ด้วยวิธีการสังเกตและลองจิกเล็บลงไปในเนื้อยาง ควรมีเนื้อนิ่มถึงจะใช้ได้ ไม่แข็งเป็นขุย แตกร้าว หรือบิ่น
พี่หมีขอแนะนำให้เพื่อนๆ เปลี่ยน ‘ยาง’ ทุกๆ 4 - 5 ปี หรือทุก 50,000 - 80,000 กม. และควรเลือกขอบยางและคุณภาพให้เท่ากับของเดิมที่มากับรถ เพื่อประสิทธิภาพที่เหมาะกับการใช้งานครับ อาจเพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งชึ้นด้วยการเลือกทำ
ประกันชั้น 1 คุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินสุดคุ้มค่าในราคา 7500 บาท ถ้าเพื่อนๆ สนใจถามพี่หมีได้ที่
Live Chat หรือต่อสายตรง
Call center 1737 ได้ตลอด 24 ชม. เลยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก