อัตราค่าปรับไม่คาดเข็มขัด

   

    นอกจากยุคนี้จะต้องรัดเข็มขัดเรื่องใช้จ่ายแล้ว เข็มขัดนิรภัยก็ต้องคาดด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นถูกตำรวจจับเสียค่าปรับแน่ๆ เพราะนับตั้งแต่ดีเดย์วันที่ 5 เมษายน 2560 เจ้าหน้าตำรวจเค้าจะคุ้มเข้มตามนโยบายคสช. จับจริงปรับจริงในกรณีที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถแท็กซี่และรถตู้โดยสาร ซึ่งหลายๆคนอาจจะได้ยินข่าวกันบ้างแล้ว พี่หมีขอขยายในรายละเอียดให้เข้าใจกันแบบชัดเจนแจ่มแจ้ง จะได้ระวังได้ถูกต้องครับ

 

    อัตราค่าปรับเริ่มที่ 100 สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท 

    สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะมีโทษปรับ โดยอัตราค่าปรับจะต่างกันไปตามประเภทรถที่จดทะเบียนอ้างอิงตามพ.ร.บ.รถยนต์อัตราค่าปรับสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร  รถกระบะ รถแท็กซี่ปรับไม่เกิน 500 บาท ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร

ส่วนรถที่จดทะเบียนตามพ.ร.บ.ขนส่ง ได้แก่ รถตู้โดยสารสาธารณะ รถโดยสารขนาดใหญ่ เช่น รถทัวร์รวมไปถึงรถบรรทุกสินค้าจะมีอัตราค่าปรับที่สูงคือปรับไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน

 

    ไม่ใช่แค่ในกรณีไม่คาดเข็มขัด แต่ไม่ติดตั้งก็จับ

    ข้อนี้อ้างอิงตาม พ.ร.บ.รถยนต์ปี 2522 โดยรายละเอียดจะแบ่งแยกไปตามประเภทรถยนต์ 4 กลุ่มดังต่อไปนี้ครับ 

 

     กลุ่มที่ 1 คือกลุ่มรถเก๋ง รถแท็กซี่ รถลีมูซีน รถกระบะ 4 ประตู 

 ถ้าจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค. 2531-1 ธ.ค. 2553 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่นั่งคนขับและที่นั่งตอนหน้า  แต่ถ้าจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค. 2554 จะต้องมีเข็มขัดทุกที่นั่ง 

    กลุ่มที่ 2 คือรถตู้ส่วนบุคคล จดทะเบียนเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน 

จดทะเบียนตั้งแต่ 1 เม.ย. 2555 จะต้องมีเข็มขัดทุกที่นั่ง

    กลุ่มที่ 3 คือรถปิคอัพ รถสองแถว ที่มีด้านหลังเป็นที่นั่งและที่บรรทุก 

กฎหมายระบุว่าส่วนกระบะใช้เพื่อบรรทุกสิ่งของและสัตว์ ห้ามไม่ให้มีคนนั่งและบังคับให้มีเข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งคู่หน้า 

    กลุ่มที่ 4 คือรถสี่ล้อเล็ก หรือรถกะป๊อ 

จดทะเบียนตั้งแต่ 1 เม.ย. 2555 บังคับให้ติดตั้งในตำแหน่ง 2 คนหน้า 

 

    รู้แบบนี้แล้วอย่าละเลย ขับขี่หรือโดยสารรถยนต์เมื่อไหร่ คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพราะนอกจากจะไม่เสียค่าปรับแล้ว ยังจะทำให้คุณปลอดภัยทุกครั้งที่เดินทางด้วย ที่เตือนเพราะพี่หมีหวังดีอยากให้เดินทางกันโดยสวัสดิภาพทุกเส้นทางครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1490329104

http://news.thaipbs.or.th/content/261400

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/748747