ขับรถกระบะ ควรทำประกันภัยรถยนต์แบบไหน
article created at icon29/08/62

|

อ่านแล้ว 85 ครั้ง

ขับรถกระบะ ควรทำประกันภัยรถยนต์แบบไหน

ขับรถกระบะ ควรทำประกันภัยรถยนต์แบบไหน คุ้มค่าที่สุด ?

     ปัจจุบันรถกระบะได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากมีสมรรถนะที่แข็งแรง อีกทั้งเหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทยที่มีฝนตกชุก และมักเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องขับรถฝ่าน้ำท่วมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ รถกระบะคือยานพาหนะที่ตอบโจทย์มากที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถบรรทุกของได้ในปริมาณที่มากกว่ารถเก๋งอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังวางแผนซื้อรถกระบะ แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อดีหรือไม่ เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น พี่หมีมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีของรถกระบะมาบอกครับ
 
การเลือกทำประกันรถกระบะ ทำแบบไหนได้บ้าง
 
1. มีพื้นที่สำหรับบรรทุกของที่มากกว่ารถเก๋ง
2. มีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยประหยัดน้ำมัน
3. มีกำลังแรงม้าที่ดี มาพร้อมระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ
4. ห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวาง โดยมีให้เลือกทั้งแบบตอนเดียว แบบสี่ประตู และแบบแค็ปเปิด
5. มีรูปแบบที่ยกสูงกว่ารถธรรมดา จึงทำให้สามารถมองเห็นทางเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน
6. มีระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยรอบคัน
7. ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก
8. มีระบบกระจายแสงเบรกคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งระบบควบคุมความเร็วทางลาดชัน ที่สามารถช่วยป้องกันการลื่นไหลได้ดี
 
(จากเรื่อง "ข้อดี ทำไมเราต้องเลือกรถกระบะ?" เว็บไซต์ Chobrod)
 
     หากใครที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเดินทางท่องเที่ยวตามป่าเขา หรือมีของที่ต้องบรรทุกในจำนวนมากแทบทุกวัน รถกระบะถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ควรพิจารณาครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่คนมีรถยนต์ไม่ควรละเลยเป็นอันขาดคือ การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ที่จะช่วยให้การคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำหรับรถกระบะสามารถทำประกันภัยรถยนต์ได้ทั้งแบบชั้น 1, 2+, 2, 3+ และ 3 ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และความพึงพอใจของเจ้าของรถยนต์ โดยประกันรถยนต์แต่ละประเภทให้ความคุ้มครองต่างกัน ดังนี้
 
ประกันภัยรถกระบะ มำแบบไหนได้บ้าง
 
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 : เป็นประเภทประกันที่ให้ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
- คุ้มครองเมื่อเกิดเหตุรถชนทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองในกรณีผู้โดยสารเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร จากอุบัติเหตุทางรถยนต์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งคนขับ และผู้โดยสาร
- คุ้มครองเมื่อรถยนต์สูญหายจากการถูกโจรกรรม
- คุ้มครองในกรณีรถยนต์เกิดไหม้
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุน้ำท่วม
- ให้การคุ้มครองเรื่องประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิต
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 : พร้อมให้การคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ รวมถึงคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์ หรือทรัพย์สินสูญหาย อีกทั้งให้การคุ้มครองแก่ร่ายงกาย และความเสียหายจากไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ : ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมทั้งรถของผู้เอาประกัน และรถคู่กรณี อีกทั้งให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์สูญหาย หรือเกิดเหตุไฟไหม้อีกด้วย ถือเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากให้ความคุ้มครองสูง ในราคาที่ไม่แพง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 : ให้ความคุ้มครองต่อชีวิต และทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ :  ให้ความคุ้มครองต่อชีวิต และทรัพย์สินของคู่กรณี และคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุชนกับพาหนะทางบก
 
     ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประกันแต่ละประเภทให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไข และข้อยกเว้นต่างๆ รวมถึงความคุ้มครองที่จะได้รับ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ โดยที่ TQM มีประกันภัยรถยนต์สำหรับรถกระบะ มาพร้อมเบี้ยเริ่มต้น 4 บาทต่อวัน และผ่อน 0% โดยสามารถเลือกความคุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง  
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : Chobrod 
 
READ MORE : 
 
 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

TQM Bear
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
TQM Logo
TQM Logo

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

facebook
line
youtube
twitter
TQM Application
TQM IOS Application
TQM Android Application
ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเลขที่ 0105540084143

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยเลขที่ ว00019/2546

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล
TQM Application
TQM IOS Application
TQM Android Application
แชทกับเรา