ประกันภัยรถยนต์ แต่ละประเภท ต่างกันยังไง

ประกันภัยรถยนต์มีมากกว่าประกันชั้น 1 แต่มีประกันชั้น 2 ชั้น 3 ฯลฯ คำถามคือประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทนั้นต่างกันอย่างไร แล้วเหมาะกับใครบ้าง?

1. ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
:
มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ทั้งความสูญหายและเสียหายต่อตัวรถจากอุบัติเหตุทุกกรณี ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดจากคนอื่น หรือผู้ขับขี่ หรือไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด อย่างไร ใครทำ และที่ไหนก็ตาม

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับ...
- รถใหม่ป้ายแดง และรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี
- ผู้ขับขี่มือใหม่ไร้ประสบการณ์
- รถที่ใช้งานหนัก หรือใช้งานเป็นประจำ


2. ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 พิเศษ / 2+ (ประกันภัยประเภท 5)
:
มีความคุ้มครองรองลงมา โดยยังคุ้มครองกรณีรถสูญหาย หรือความเสียหายจากไฟไหม้รถ แต่ต่างจากประกันภัยชั้น 1 เนื่องจากไม่คุ้มครองความเสียหายทั่วๆ ไปที่เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การชนกับยานพาหนะทางบก

ประกันภัยประเภท 2 + เหมาะกับ...
- รถที่ไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้ เนื่องจากอายุเกินกำหนด
- รถที่ใช้งานเป็นประจำแต่จอดในพื้นที่เสี่ยง
- รถที่ไม่มีที่จอดในที่มีรั้วรอบขอบชิด เช่น จอดหน้าบ้าน ริมถนน หรือมีความจำเป็นต้องจอดตามที่สาธารณะเป็นประจำ

3. ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 พิเศษ / 3+ (ประกันภัยประเภท 5)
:
มีความคุ้มครองต่ำที่สุด คุ้มครองเฉพาะความเสียหายของทรัพย์สินคู่กรณี และความเสียหายของตัวรถเฉพาะกรณีที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบก ไม่คุ้มครองการถูกไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายทั่วๆ ไป ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือคู่กรณี

ประกันภัยประเภท 3+ เหมาะกับ...
- รถเก่าที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป
- รถที่ใช้งานเป็นประจำ จะดีกว่าไหม ถ้ารถเราถูกชน แต่มีประกันภัยให้ความคุ้มครองโดยไม่ต้องตามเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีด้วยตัวเอง

4. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
:
เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เริ่มไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุม คือให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี ไม่มีวงเงินซ่อมรถของผู้เอาประกัน แม้จะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยมีคู่กรณีก็ตาม

ประกันภัยประเภท 3 เหมาะกับ...
- เจ้าของรถที่ต้องการป้องกันความเสียหายจากการขับรถไปชนคันอื่น โดยยอมรับที่จะจ่ายค่าซ่อมรถของตัวเองไม่ว่ากรณีใดๆ

อ่านบทความของ ทีคิวเอ็ม เกี่ยวกับ ประกันภัย I Get ทั้งหมด