อยากลดน้ำหนัก ใช้สิทธิประกันสังคม

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในประเทศไทยมีอาหารการกินหลากชนิด ทั้งของคราว และของหวาน ที่มาพร้อมความอร่อยจนแทบไม่สามารถหยุดปากได้ ซึ่งหากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ควบคู่กับการออกกำลังกาย และใส่ใจเลือกสิ่งที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย ก็สามารถมีความสุขกับการกินได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่อาจเพิ่มขึ้น แต่! หากรับประทานอาหารที่มีความมัน หรือของหวานที่มากเกินพอดี หรือทานแทบทุกวัน ก็มีส่วนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนหน้าตกใจ และมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน! โดยมีผลสำรวจได้ระบุเอาไว้ว่า คนไทยเป็นโรคอ้วนอับดับ 2 ของอาเซียน ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน ที่อาจเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิต!

 

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอ้วน มีดังต่อไปนี้

 

1. เกิดจากการตามใจปาก กินจุบกินจิบ รวมถึงรับประทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน เนื้อ หรือของหวานมากเกินไป จึงทำให้เกิดการสะสมเป็นปไขมันในร่างกาย

2. เกิดจากสาเหตุรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ร่วมถึงการทานมื้อดึก

3. เกิดจากการไม่หมั่นออกกำลังกาย จึงทำให้ไขมันสะสมอยู่ในร่างกาย                

4. เกิดจากการผิดปกติภายในร่างกายของท่อมไร้ท่อ ทำให้เกิดไขมันบริเวณแขน ขา และหน้าท้อง

5. มีความเครียด  หรือความกังวลใจ แล้วใช้การรับประทานมาเป็นตัวช่วยในการเยียวยา

6. เกิดความรู้สึกหิวตลอดเวลาทานเท่าไหรก็ไม่อิ่ม

7. เกิดจากกรรมพันธุ์ โดยร้อยละ 80 หากพ่อหรือแม่เป็นคนอ้วน ก็มีโอกาสร้อยละ 4 ที่ทำให้ลูกอ้วนได้เช่นกัน

 

 

โดยคนอ้วนมีลักษณะที่แตกต่างกัน และมีความเสี่ยงเกิดโรคร้าย ดังนี้

อ้วนแบบลูกแอปเปิ้ล

มีลักษณะลงพุง เอวใหญ่กว่าสะโพก ซึ้งเกิดจากการมีไขมันในช่องท้อง และอวัยวะภายใน ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอย่างโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

อ้วนแบบลูกแพร์

มีลักษณะสะโพกใหญ่ โดยมีไขมันอยู่บริเวณสะโพก และน่อง ทำการลดน้ำหนักได้ค่อนข้างยาก แต่มักเกิดโรคแทรกซ้อนได้น้อย

อ้วนทั้งตัว

มีลักษณะลงพุง สะโพกใหญ่ มีไขมันกระจายอยู่ทั่วร่างกาย มีความเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนหลายชนิด รวมถึงโรคที่เกิดจาดน้ำหนักตัวมากเกินไป อีกทั้งส่งผลให้หายใจลำบากเพราะมีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก

 

โรคที่มักมาพร้อมกับความอ้วน ได้แก่…

โรคเบาหวาน

ถือเป็นความเสี่ยงในอันดับต้น ๆ ของคนที่เข้าข่ายเป็นโรคอ้วน โดนสาเหตุมาจากอินซูลินที่หลั่งจากตับอ่อนออกฤทธิ์ไม่ดี ทำให้เกิดภาวะต่อต้าน เนื้อเยื่อตอนปลายตอบสนองได้น้อยลง จึงทำให้เบตาเซลล์ไม่ทำงาน ส่งผลให้ไขมันในเลือดสูง และเกิดโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญในร่างกาย

 

โรคหัวใจ

มีความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด อันเนื่องมาจากมีไขมัน และคอเลสเตอรอลสูง รวมถึงมีไขมันสะสมในร่างกายปริมาณมาก จึงทำให้หลอดเลือดหนา หลอดเลือดแดงตีบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้น้อย และมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย

 

กรดไหลย้อน

เกิดจากความดันในช่องท้อง และความดันในกระเพาะอาหารสูง ส่งผลให้กรด และอาหารที่กำลังย่อยไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร

 

ประจำเดือนผิดปกติ

ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินจะทำให้ผิวหนังเปลี่ยนเซลล์ไขมันเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดการหลั่งเฮอร์โมน FSH (Follicle Stimulating Hormone) และ LH (Luteinizing hormone) ซึ่งทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ

 

โรคข้อเสื่อม

ผู้ที่มีน้ำหนักเกินเวลาเดินแต่ละครั้งจะเกินแรงกดกระแทกที่ข้อเข้า รวมถึงบริเวณข้อเข้ามีไขมันมาก จึงไปทำลายกระดูกอ่อน ส่งผลให้เกิดอาการข้อเข้าเสื่อมได้

 

ปัสสาวะเล็ด

เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และกระเพาะปัสสาวะหย่อนยาน ที่ทำให้ปัสสาวะเล็ด

 

ภาวะหยุดหายใจ

เกิดจากไขมันสะสมบริเวณผนังลำคอ จึงทำให้แคบลง และเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ

 

 

     หากคุณเข้าข่ายเป็นโรคอ้วน หรือมีความกังวลว่าเกรงว่าจะมีโรคแทรกซ้อนที่มาพร้อมกับไขมันส่วนเกิน พี่หมีแนะนำให้ไปตรวจสุขภาพ เพื่อหากพบโรคที่เสี่ยงอันตรายจะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที ทางที่ดีควรควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินป้องกันการเกิดโรคอ้วน โดยในกรณีที่ต้องลดน้ำหนักโดยคำสั่งของแพทย์ สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่ม แต่หากต้องการลดน้ำหนักด้วยตัวเอง โดยที่ไม่เกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาที่แพทย์เป็นคนสั่ง จะไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ครับ โดยที่ TQM มีประกันสังคมสำหรับมนุษย์เงินเดือน “TQM สร้างสุข ชุมชนไทย แผน ทำงานสบายใจ” ที่พร้อมให้การคุ้มครองสูงสุด 5 แสนบาท เบี้ยประกันเพียง 999 บาทต่อปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ขอบคุณข้อมูลจากเรื่อง : ส่องโรคแทรกซ้อนที่ซ่อนอยู่ในความอ้วน bangkokhospital 

 

READ MORE : 

 

►  9 โรคร้ายที่พบบ่อยในผู้หญิงสูงอายุ

►  เห็นหวานๆ แบบนี้ แต่มันร้ายนะคะ

►  7 อาหารดี กินแล้วไม่มีเป็นหวัด