วัย 40+ ต้องระวังโรคอะไรบ้าง

     สำหรับวัย 40 อัพนั้นร่างกายและจิตใจก็เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่มักเกิดจากโรคแห่งความเสื่อม คือเป็นโรคที่ต้องใช้ระยะเวลาสะสมมานาน ในระยะแรก ๆ จะไม่ค่อยแสดงอาการ ไม่ว่าจะเป็น อ้วนง่าย ผิวมีริ้วรอย อ่อนเพลียไม่สดชื่น เหนื่อยง่าย ความจำลดลง กระดูกพรุน วันนี้ พี่หมี TQM มาพร้อม 5 โรคที่วัย 40+ ต้องระวัง ไปดูกันครับมีโรคอะไรบ้าง

1. โรคหลอดเลือดสมอง 

     คือ ภาวะที่ทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย ซึ่งความผิดปกติของหลอดเลือดสมองที่ทำให้สมองขาดเลือด แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (ischemic stroke) และ หลอดเลือดสมองแตก (hemorrhagic stroke) ส่งผลให้สมองสูญเสียการทำหน้าที่จนเกิดอาการของอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

อาการโรคหลอดเลือดสมอง

• ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
• กล้ามเนื้อที่หน้าอ่อนแรง ปากเบี้ยว ไม่สามารถยิงฟันหรือยิ้มได้
• ตามัว มองเห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก หรือตาบอดข้างเดียว
• แขนหรือขาอ่อนแรง ซีกใดซีกหนึ่ง ยกไม่ขึ้น
• เดินเซ ทรงตัวลำบาก

 2. โรคหลอดเลือดหัวใจ

     เกิดจากการเสื่อมของผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ และพบมากในกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะเมื่ออายุมากขึ้นจะพบว่าหลอดเลือดหัวใจจะเสื่อมสภาพ จากการที่มีคอเลสเตอรอลสะสมเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดหลอดเลือดแดงตีบแคบ หรืออุดตัน และอาจทำให้เสียชีวิตได้

อาการโรคหลอดเลือดหัวใจ

• ปวดเค้นที่บริเวณหัวใจ มีอาการเจ็บหนักๆ เหมือนมีอะไรมาทับหน้าอก
• มีอาการเหนื่อย หายใจหอบนอนราบไม่ได้ แน่นอึดอัด หายใจเข้าไม่เต็มปอด
• หน้ามืดคล้ายเป็นลม คลื่นไส้อาเจียน 
• หมดสติหรือหัวใจหยุดเต้น

3. โรคข้อเสื่อม

     ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุ เกิดจากการเสื่อมตามอายุขัยส่วนใหญ่ เกิดกับข้อใหญ่ๆ เช่น ข้อสะโพก ข้อเข่าและข้อกระดูกสันหลัง ตามปกติภายในข้อประกอบไปด้วยเยื่อบุข้อ น้ำไขข้อ และกระดูกอ่อนผิวข้อ หากกระดูกอ่อนผิวข้อเหล่านี้ถูกทำลาย จะส่งผลให้กระดูกใต้ต่อกระดูกอ่อนผิวข้อสัมผัสกัน กล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อถูกยืดเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดตามมา

อาการโรคข้อเข่าเสื่อม

• เจ็บปวด เมื่อขยับข้อต่อ
• ข้อต่อบวม ข้อฝืด หรือ ตึงข้อขณะเคลื่อนไหว
• ความสามารถในการใช้งานข้อเข่าลดลง

4. โรคเบาหวาน

     เป็นโรคที่เซลล์ร่างกายมีความผิดปกติในขบวนการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน ส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เมื่อน้ำตาลไม่ได้ถูกใช้จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าระดับปกติ ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงของ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคไต  และโรคของระบบประประสาท

อาการของโรคเบาหวาน

• ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืน มดขึ้นปัสสาวะ
• หิวน้ำบ่อย
• ผิวแห้ง
• มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า
• เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ
• สายตาพร่ามัว ตาแห้ง

5. โรคความดันโลหิตสูง

     เป็นภาวะที่มีระดับความดันโลหิตสูงเรื้อรัง มีค่าตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป ซึ่งคนปกติจะมีค่าความดันโลหิตประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ปัจจุบันความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคที่ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งรวมทั้งหลอดเลือดที่สมองและไตด้วย

อาการโรคความดันโลหิตสูง

• ในบางคนที่เป็นความดันโลหิตสูงอยู่หลายปี อาจไม่มีอาการใดๆ
• ปวดหัว หรือเวียนหัว
• เหนื่อยง่าย
• อาจมีอาการของโรคแทรกซ้อน  เช่น อัมพาต หรือ มีภาวะหัวใจวาย