คนขับกระบะต้องรู้ไว้ แบบไหนโดนใบสั่ง
รถยนต์ หรือรถกระบะ มีลักษณะภายนอกที่ต่างกัน เพราะสร้างมาด้วยวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่ต่างกัน พอนำมาใช้งานต่างกัน กฎหมายที่จะออกมาควบคุมก็ย่อมจะแตกต่างกันไปด้วยครับ วันนี้พี่หมีขอเอาใจคนที่ใช้กระบะโดยเฉพาะ! มาดูกันว่าข้อห้ามที่เจาะจงเกี่ยวกับคนใช้รถกระบะนั้น มีอะไรบ้าง
การดัดแปลงต้องเป็นไปตามกฎหมาย
เพราะรถกระบะมักจะถูกนำไปใช้ในการขนส่งและบรรทุก เจ้าของรถจึงมักเลือกใช้วิธีการต่อเติมรถกระบะเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งตามกฎหมายแล้วการต่อเติมเหล่านั้นสามารถทำได้นะครับ แต่จำเป็นจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายระบุไว้ คือ การดัดแปลงแก้ไขสภาพรถยนต์จะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือแบบที่ต้องแจ้งการแปลงสภาพกับนายทะเบียนกรมขนส่ง กับแบบที่ไม่ต้องแจ้ง รายละเอียดแตกต่างกันดังนี้ครับ
1. แบบที่ต้องแจ้ง เป็นการแก้ไขสภาพของตัวรถ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งให้ผิดไปจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ จะทำนำเอกสารไปแจ้งและแก้ไขรายการในเล่มทะเบียนกับกรมขนส่งให้เรียบร้อย ได้แก่ การเปลี่ยนเครื่องยนต์ , สีรถ , ติดตั้งโครงหลังคา , เปลี่ยนเชื้อเพลิง , เพิ่มระบบรองรับน้ำหนัก เช่น เพลา แหนบ เป็นต้น หากไม่แจ้งก่อนจะถือเป็นความผิดครับ
2. แบบที่ไม่ต้องแจ้ง การติดตั้งอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรลบาร์ , บันไดขึ้น-ลง , สปอยเลอร์ , กันชน หรือ อุปกรณ์ขนจักรยาน นั้นไม่จำเป็นต้องแจ้ง เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถาพไปจากเดิม และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น
ทั้งนี้การต่อเติมที่อยู่นอกเหนือจากนี้ไปแล้วผิดกฎหมาย ห้ามทำโดยเด็ดขาดก็มีนะครับ สามารถศึกษาต่อได้ที่นี่เลย
การดัดแปลงรถที่ผิดกฎหมาย
โดยสารให้ถูกกฎลดอุบัติเหตุ
หลังจากมีการถกเถียงกันอย่างหนักเรื่องการโดยสารส่วนกระบะ ล่าสุดมีการปรับกฎหมายให้สามารถใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์(ฉบับที่17 )พ.ศ.2557 แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็แนะนำว่า หากจำเป็นต้องบรรทุกคน ให้บรรทุกได้ไม่เกิน6คน และติดตั้งราวจับยึดหรือเข็มขัดนิรภัยเท่าที่ทำได้ รวมถึงใช้ความเร็วได้ไม่เกิน80กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยครับ
หากเป็นป้ายแดง ต้องทำข้อบังคับรถป้ายแดง
ดังที่หลายๆ คนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วครับว่า รถยนต์ใหม่จะมี
ข้อบังคับการขับขี่รถป้ายแดง(สามารถคลิกอ่านได้ครับ) ที่ต่างจากรถป้ายปกติ เพราะถือว่ากระบวนการในการขึ้นทะเบียนยังไม่เสร็จสิ้น รถกระบะก็ต้องทำตามข้อบังคับเหล่านี้เพราะถือเป็นรถป้ายแดงเช่นกัน
อย่างกรณีที่มีหนุ่มขับรถกระบะป้ายแดงขนของย้ายบ้านแล้วโดนเจ้าหน้าที่ปรับก็มีสาเหตุมาจากเจ้าตัวใช้รถป้ายแดงที่มีข้อบังคับห้ามขับข้ามจังหวัดในช่วงกลางคืน ไม่ใช่เพราะน้ำหนักในการบรรทุก เพราะจริงๆ แล้วกฎหมายระบุให้รถกระบะ 4 ล้อ บรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 1,100 กิโลกรัม ซึ่งน่าจะเพียงพอกับการขนย้ายของในบ้านบนกระบะต่อครั้งแล้วล่ะครับ
จากนี้ไปต้องระวัง! ดูแลความเรียบร้อยของรถคุณให้ดี จะไม่ถูกจับจนเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาเลย แล้วอย่าลืมพี่หมีแนะนำให้ทำประกันชั้น 1 ไว้ ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมเรื่องประกันสามารถโทรมาสอบถามได้ที่ Call Center 1737 พี่หมี Stand by 24 ชม.เลย