14 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แดนอาทิตย์อุทัย
จัดกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปตะลุยญี่ปุ่นกับพี่หมีกัน! ฤดูใบไม้ร่วงนี้ จะมีอะไรน่าสนใจไปกว่า “โมมิจิ” เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ตามไปดูความงามที่รังสรรค์โดยธรรมชาติกันเลย~
ใครมีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้บ้าง ขอเสียงหน่อยคร้าบ~
พี่หมีบอกเลยว่าช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ เป็นช่วงที่เหมาะเจาะที่สุดสำหรับการชม 紅葉 (โมมิจิ) หรือ “ใบไม้เปลี่ยนสี” ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเองครับ ป่าผลัดใบในญี่ปุ่นจะค่อยๆ เปลี่ยนสีสันจากเขียวไปสู่เหลือง ส้ม และแดงตามลำดับ เรียกได้ว่าเป็นความงามจากธรรมชาติที่โรแมนติกมากๆ เลย
โดยปกติแล้ว ไม้ผลัดใบจะค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนสีไล่จากภูมิภาคฮอกไกโดด้านบน ลงสู่โทโฮคุ คันโต คันไซ และคิวชูตามลำดับ และจะเป็นสีส้ม-แดงทั่วประเทศญี่ปุ่นในช่วงกลางตุลาคมถึงกลางธันวาคม ว่าแล้วพี่หมีชวนไปดูกันทีละภูมิภาคเลยดีกว่าครับว่ามีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีงามๆ ที่ไหนบ้าง
1. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัน (Daisetsuzan National Park)
กลางก.ย. - ปลายก.ย.
อุทยานไดเซ็ทสีซันนี้ได้รับการกล่าวขานจากคนญี่ปุ่นว่าเป็นที่ที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนทุกที่ในญี่ปุ่นเลยล่ะครับ เป็นอุทยานที่ทั้งใหญ่และอุดมสมบูรณ์มากๆ แอบกระซิบว่าที่นี่มีแหล่งน้ำพุร้อนกลางแจ้งให้เพื่อนๆ สามารถไปดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติกันได้อีกด้วย
2. ลานสกีนานาชาติซัปโปโร (Sapporo Kokusai Ski-jo)
24 ก.ย. - 10 ต.ค.
แม้จะขึ้นชื่อว่าลานสกี แต่ช่วงที่หิมะยังไม่ตกนั้นจะมีกระเช้าวิ่งให้บริการพาเพื่อนๆ ชมเทือกเขาที่งดงามด้วยภาพใบไม้กำลังผลัดสี ขึ้นไปจนถึงสถานีบนยอดเขา นอกจากจะเห็นภูเขาที่เต็มไปด้วยไม้ผลัดใบแล้ว ยังสามารถมองเห็นทะเลได้อีกด้วยล่ะครับ โดยจะเสียค่าใช้จ่ายขึ้นกระเช้า 1,100 เยน สำหรับรอบไป-กลับ ส่วนเด็กประถมจะลดครึ่งราคา และเด็กเล็กขึ้นชมฟรีครับ
3. ทะเลสาบโทวาดาโกะ (Towadako Lake)
กลางต.ค. - ปลายต.ค.
โทวาดาโกะเป็นทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยภูเขาสองลูก เพื่อนๆ สามารถขึ้นเรือท่องเที่ยวเพื่อชมทัศนียภาพของใบไม้ที่เปลี่ยนสีบนภูเขารอบทะเลสาบ เรียกได้ว่างดงามมากๆ แถมยังมีรูปสลักสาวงามที่เป็นสัญลักษณ์ของทะเลสาบแห่งนี้ให้เพื่อนๆ ได้ไปถ่ายรูปกัน รวมถึงมีน้ำพุร้อนให้ไปแช่กันอีกด้วยคร้าบ
4. น้ำตกอากิอุโอทากิ (Akiu Otaki Falls)
กลางต.ค. - ต้นพ.ย.
อากิอุโอทากิ เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่างดงามมากเป็นพิเศษในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเลยล่ะครับ ใบไม้หลากสีจะล้อมรอบน้ำตกที่มีความสูงกว่า 55 เมตร เกิดเป็นภาพที่สวยงามละลานตามากๆ โดยต้นไม้ผลัดใบที่ขึ้นชื่อของสถานที่นี้ก็หนีไม่พ้นแปะก๊วยและเมเปิ้ล สองตัวแทนฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ยิ่งขับให้บรรยากาศของน้ำตกโดดเด่นยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว
5. เทือกเขาซาโอ (Zao Mountain)
กลางต.ค. - ปลายต.ค.
ซาโอโดดเด่นด้วยเทือกเขาที่ถอดตัวเป็นแนวยาวในแถบตะวันออกเฉียงเหนือครับ เส้นทางที่เปิดให้ขึ้นกระเช้าไปชมใบไม้เปลี่ยนสีนั้น เพื่อนๆ สามารถใช้เส้น “ซาโอ-เอโดะไลน์” ซึ่งเชื่อมจังหวัดมิยางิและยามางาตะเข้าด้วยกัน เป็นเส้นทางที่สามารถเห็นใบไม้แดงได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ที่ซาโอยังมีน้ำพุร้อนท้องถิ่นชื่อดังหลายแห่งให้ได้ใช้บริการกันอีกด้วย
6. บันได อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai Azuma Skyline)
กลางต.ค. - ปลายต.ค.
บันได อาซุมะ สกายไลน์ คือชื่อของเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลยล่ะ ในระยะทาง 29 กม. ที่เชื่อมตั้งแต่แหล่งน้ำพุร้อนทากายุไปจนถึงภูเขาทสึจิยุนั้น เพื่อนๆ จะได้เห็นความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ทอดยาวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่าสวยเหมือนภาพวาดเลยล่ะครับ
7. น้ำตกริวซุ (Ryuzu Waterfall)
กลางต.ค. - ปลายต.ค.
ชื่อของน้ำตกอาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่หากบอกว่าน้ำตกนี้ตั้งอยู่ในเมือง “นิกโก” ละก็ เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นเคยแน่นอนใช่มั้ยครับ เพราะเป็นเมืองที่จัดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกของญี่ปุ่นเลย ในตัวเมืองเองก็มีแหล่งชมใบไม้แดงหลายแห่ง แต่จุดที่พี่หมีอยากแนะนำก็คือ “น้ำตกริวซุ” ที่กระแสน้ำไหลแยกออกเป็นสองทางเหมือนหัวมังกร เป็นจุดที่จะสามารถชมได้ทั้งความอลังการของน้ำตกและสีสันของใบไม้นานาพันธุ์เลยล่ะ
8. สวนสาธารณะเมย์จิจิงงู ไกเอง (Meiji Jingu Gaien)
กลางพ.ย. - ปลายพ.ย.
ไปโตเกียว ใครๆ ก็ต้องรู้จักสวนสาธารณะที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเมย์จิแน่นอน ด้วยบรรยากาศแสนร่มรื่นภายใน ทำให้ “สวนเมย์จิจิงงู ไกเอง" เป็นจุดหมายปลายทางของใครต่อใครที่ไปเที่ยวเมืองหลวงของญี่ปุ่น หากมีโอกาส อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปเดินเล่นในสวนนี้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกันครับ เพราะสองข้างทางนั้นจะรายล้อมไปด้วยต้นแปะก๊วยที่ผลัดใบเป็นสีเหลืองอร่าม งดงามสว่างไสวสุดๆ แถมเดินทางไปก็ยังง่ายมาก ห้ามพลาดเลยทีเดียว
9. ที่ราบสูงชิราคาบะ (Shirakaba Highland)
กลางต.ค. - ปลายต.ค.
ที่จริงแล้วนางาโนะเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีภูเขาและที่ราบสูงมากมาย จึงเป็นแหล่งเล่นสกีฤดูหนาวยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นเลยล่ะครับ แต่นอกจากฤดูหนาวแล้ว ในฤดูใบไม้ร่วงเอง นางาโนะก็เป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน สำหรับที่ราบสูงชิราคาบะนี้ มีจุดชมใบไม้แดงเด่นๆ อยู่ที่ทะเลสาบทาเตชินาโกะ และภูเขาทาเตชินะ โดยมีลิฟท์ให้บริการขึ้นไปถึงด้านบน สวยอย่าบอกใครเลยล่ะครับ
10. ทะเลสาบคาวางุจิโกะ (Kawaguchi Lake)
ต้นพ.ย. - ปลายพ.ย.
เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่ชาวไทยน่าจะคุ้นเคยกัน กับ “ทะเลสาบคาวางุจิโกะ” สถานที่ชมภูเขาไฟฟูจิชื่อดัง ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นก็เป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากๆ อีกที่เหมือนกันนะครับ แถบทะเลสาบดังกล่าวมีต้นเมเปิ้ลเยอะมากๆ ทำให้เมื่อผลัดใบจะเป็นสีแดงฉาน ตัดกับสีของทะเลสาบและฟูจิ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการจัดเทศกาลชมใบเมเปิ้ล มีการประดับไฟในยามค่ำคืนอีกด้วย
11. อาราชิยามะ (Arashiyama)
กลางพ.ย. - ปลายพ.ย.
สำหรับเหล่าผู้ที่เป็น “โมมิจิการิ” หรือคนที่สนใจในการตามล่าชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่นนั้น เชื่อได้เลยว่าที่อาราชิยามะนี้เป็นจุดหมายการชมใบไม้เปลี่ยนสีอันดับหนึ่งในใจอย่างแน่นอนเลยครับ เพราะมีชื่อเสียงมากๆ เรื่องความสวยงาม หลายคนไม่พลาดที่จะถ่ายรูปต้นเมเปิ้ลสีแดงที่บริเวณสะพานโทเง็ทสึเคียว โดยมีภูเขาอาราชิยามะเป็นฉากหลัง ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนๆ ยังสามารถตระเวนไปตามวัดต่างๆ ในเกียวโตเพื่อชมใบไม้แดงได้อีกด้วย
12. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
กลางพ.ย. - ปลายพ.ย.
จัดเป็นวัดที่ขึ้นชื่อที่สุดในเมืองนาราเลยทีเดียวครับ มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ให้เข้าไปสักการะ ส่วนด้านหน้าวัดเป็นสวนสาธารณะที่มีใบไม้เปลี่ยนสี ไฮไลท์ก็คือที่นี่มักจะมีน้องกวางเดินเข้ามาให้เราถ่ายรูปด้วยล่ะ เป็นธรรมชาติสุดๆ เลย
13. ศาลเจ้าโคโตฮิระงุ (Kotohira-gu Shrine)
กลางพ.ย. - ปลายพ.ย.
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในตัวภูเขาโซซุ โดยผู้มาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 800 ขั้น ระหว่างทางเดินนี่แหละครับที่เพื่อนๆ จะได้สัมผัสบรรยากาศความงามของใบเมเปิ้ลสีแดง จุดเด่นของที่นี่คือ ในวันที่ 10 พ.ย. ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลชมใบไม้แดงตามอย่างที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ น่าสนใจมากๆ ครับขอบอก
14. น้ำพุร้อนอุนเซ็น (Unzen Onsen)
ปลายต.ค. - ต้นพ.ย.
กระโดดข้ามมาที่คิวชูกันบ้าง ที่อุนเซ็นนี้โดดเด่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมากครับ เพราะมีต้นไม้ที่ผลัดใบเปลี่ยนสีกว่า 150 ชนิด ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามละลานตามากๆ ราวกับชมทุ่งดอกไม้เลยทีเดียว นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อนแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ ทำให้มีที่พักรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หากมีโอกาสห้ามพลาดเลยครับผม!
ฮันแน่~ เก็บข้อมูลเยอะขนาดนี้ เริ่มอยากไปกันแล้วใช่ไหมล่ะครับ ว่าแล้วก็แพ็คกระเป๋าให้พร้อม แล้วอย่าลืมทำ ประกันเดินทาง กันไว้
-
คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน สูงสุด 2 ล้านบาท
-
ครอบคลุมแม้ไฟลท์ยกเลิกหรือตกเครื่อง
-
วีซ่าไม่ผ่าน คืนเงิน 100%
-
คุ้มครองด้วยบริษัทประกันชั้นนำ
เท่านี้ก็อุ่นใจตลอดทั้งทริป จะไปพบรักกับใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนก็หายห่วง! เพื่อนๆ สามารถสอบถามทุกเรื่องประกันเดินทางกับพี่หมี
TQM ได้ที่
Live Chat หรือติดต่อ
Call Center 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยคร้าบ
10/11/60
