ดราม่าจราจร
ทุบรถช่วยคนป่วย เกือบซวยคนป่วยเอาเรื่อง
จ่าตุ๋ย (นามสมมุติ) ขับรถออกตรวจตามปกติ บังเอิ๊ญไปเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด!
ฝูงซอมบี้ เอ้ย! แก๊งพี่วินกำลังมุงทุบกระจกรถกันจ้าละหวั่น
ด้วยหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จ่าตุ๋ย จึงออกโรง ช่วยเจ้าของกระบะที่กำลังโดนรุม เพราะคิดว่ามีปัญหาเฉี่ยวชนแล้วเคลียร์กันไม่ได้
ชะเอ๊ย! เหตุการณ์โอ้ละพ่อซะอย่างนั้น
พอชะเง้อดูในรถ ลุงเจ้าของรถกำลังกระตุกเลย โถ่ว พ่อวินทั้งหลายกลายเป็นพลเมืองดี อย่างนี้พี่ตำรวจว่าไงจ๊ะ
มัวแต่ใช้มือทุบลุงเจ้าของรถได้ตายจริงแน่ จ่าตุ๋ยเลยสั่งแก๊งพี่วินให้ไปเอาหินมาทุบกระจกรถบัดเดี๋ยวนี้
ในที่สุด! คุณพี่เจ้าของรถก็รอดจ้า ฝั่งจ๋าตุ๋ยแอนด์เดอะแกงค์ก็โล่งใจกันยกใหญ่
สุดท้ายคดีพลิกซะอย่างนั้น…พอรู้ว่ากระจกรถโดนทุบแตก คุณลุงก็ออกอาการเก้วกาด ทั้งด่า ทั้งอาละวาดใส่จ่าตุ๋ยและแก๊งพี่วินเสียกระเจิง
แล้วอย่างนี้ “การทุบรถเพื่อช่วยคนป่วยถือเป็นความผิดทางกฎหมาย” ไหม?
กรณีนี้ เป็นการนิรโทษกรรมในทางละเมิด คือ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแต่กฎหมายบัญญัติ ยกเว้น ให้ผู้กระทำไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือให้รับผิดโดยจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ถือว่าเป็น “การกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อป้องกันภยันตราย ตามกฎหมาย มาตรา 450 สิทธิในการช่วยเหลือตนเอง (Self help)การกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อป้องกันภยันตราย (ละเมิดด้วยความจำเป็น)
มาตรา 450 วรรค 2* ถ้าบุคคลทำบุบสลายหรือทำลายทรัพย์สิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายอันมีแก่เอกชนโดยฉุกเฉินผู้นั้นจะต้องใช้คืนทรัพย์นั้น
ทำละเมิดต่อทรัพย์ที่เป็นภัยต่อเอกชน ไม่ถือเป็นนิรโทษกรรมดังนั้นให้ใช้คืนทรัพย์ เช่น “พังประตูเข้าไปช่วยคนที่ติดอยู่ในบ้านที่กำลังไฟไหม้ ต้องใช้ราคาประตู”
การคืนทรัพย์ ถ้าทรัพย์ยังคงสภาพที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าของหรือไม่ ถ้าไม่ ก็ต้องใช้ราคาทรัพย์แต่จะเรียกดอกเบี้ยไม่ได้หรือความเสียหายอื่น ๆ ไม่ได้
การช่วยเหลือผู้อื่นถือเป็นเรื่องดี หากเจอกรณีจำเป็นและเร่งด่วนแบบนี้ก็ควรช่วยเหลือกัน แม้ว่าอาจจะโดนเจ้าของรถวีนเหวี่ยงใส่ แต่หากคุยกันเข้าใจ คดีแบบนี้ก็สามารถยอมความกันได้ครับ ยกเว้นว่าจะมีการทำร้ายกายกัน อย่างนั้นอาจจะต้องมีคนรับผิดไปตามกฎหมาย