เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 137 ครั้ง
เย็นวันหนึ่งขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังกระซิบกระซาบถึงสถานการณ์บ้านเมืองกันอย่าง เงียบๆ เหมือนกลัวใครจะได้ยิน ประชาหนุ่มผู้รักอิสระ บิดมอเตอร์ไซค์คู่ใจลัดเลาะไปตามถนนอย่างเร่งรีบราวกับแต่ละวินาทีที่ผ่านไปมีค่า มากกว่าทองคำตอนขึ้นราคา
ขณะที่ประชาขับมอเตอร์ไซค์เลาะซ้าย ปาดขวา เหมือนพระเอกหนังประเภทแรงเร็วทะลุนรก อีกด้านหนึ่งประยุทธ์ก็ขับรถมาด้วยความเร็วระดับมาตรฐานประมาณ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมอารมณ์ดีผิวปากเป็นเพลงตามประสาคนมีดนตรีในหัวใจ
ระหว่างที่ประยุทธ์กำลังเพลินเพลงเสียงผิวปากตัวเอง ก็แอบเหลือบมองนาฬิกา ก่อนจะเห็นว่าเหลือเวลาอีก 10 นาที จะถึงเวลาที่เขาต้องจัดรายการวิทยุประจำสัปดาห์ ประยุทธ์รู้สึกว่าเวลาเดินเร็วกว่าที่คิดจนเอามือทาบอกด้วยความตกใจ ประยุทธ์คิดว่าคงไปไม่ทันแน่ๆ จึงตัดสินใจเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วจาก 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะประยุทธ์เร่งรีบจนหน้ามืดตามัว
ภาพตัดมาที่ประชาซึ่งกำลังบิดมอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปตามช่องว่างเล็กๆ ระหว่างรถยนต์ ประชารู้ดีจากประสบการณ์ว่าเขาจะเดินทางโดยสวัสดิภาพ แต่โชคร้ายที่ประชาประมาทเกินไปไม่ทันเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ขณะที่ประชาเอี้ยวตัวไปทางขวาเพื่อจะทะยานไปเลนที่ว่างอยู่ หารู้ไม่ว่ามีรถของประยุทธ์กำลังบึ่งมาด้วยความเร็วเกินกว่าใครจะหยุดยั้ง
โครม!!! และแล้ว...รถของประยุทธ์ก็สัมผัสมอเตอร์ไซค์ของประชาด้วยความรุนแรงเกินกว่าคำว่ากระแทกกระทั้น! ประชาลอยคว้างกลางอากาศเหมือนบินได้อย่างนก มอเตอร์ไซค์กลิ้งไถลจากจุดเกิดเหตุไกล 100 เมตรด้วยความเร็วระดับทำลายสถิติโอลิมปิค ด้านประยุทธ์นั่งนิ่งอึ้งอยู่หลังพวงมาลัย และคิดว่าจะไปต่อหรือหยุดดี
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ประชาที่ก่อนหน้านี้ลอยเหมือนนกก็ร่วงลงสู่พื้นเหมือนนกบิกหัก พอตัวสัมผัสพื้นก็ถลาและไถลไปตามพื้นถนนด้วยทักษะยิมนาสสติกลีลาที่เพิ่งได้มาอย่างไม่คาดฝัน จนคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตะลึงงัน ขณะที่ประยุทธ์มองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า เพราะมัวแต่ครุ่นคิดว่าจะหยุดแค่นี้หรือไปต่อดี?
หลังจากประชาหยุดโชว์ยิมนาสติกลีลาบนถนน ประยุทธ์ก็คิดได้ว่าภาระเบื้องหน้านั้นใหญ่หลวงนัก เพราะแฟนๆ รายการกำลังรออยู่ ด้วยเหตุนี้ ประยุทธ์จึงรีบบึ่งรถไปยังจุดหมาย แล้วทิ้งประชาไว้เบื้องหลัง แต่ก่อนจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ ประยุทธ์ได้ยกมือไหว้ขอโทษประชา และหวังให้เขาอโหสิกรรมอยู่ในใจ
ประชานอนหงายแน่นิ่งมองท้องฟ้ายามเย็น เพราะเจ็บจนขยับไม่ไหว ส่วนคนอื่นๆ ในบริเวณที่เกิดเหตุก็เริ่มเดินเข้ามามุงดูประชา เหมือนเขาเป็นตัวประหลาด มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ถามว่า เขายังหายใจอยู่ใช่ไหม? ฟังดูเหมือนจะหวังดี แต่น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความกระสันอยากได้อะไรบางอย่าง ก่อนที่อะไรๆ จะเกิดขึ้น พนักงานสอบสวนที่เพิ่งมาถึง ก็แหวกกลุ่มคนที่รุมล้อมเข้ามาหาประชา
ประชาเล่าว่า ก่อนที่เขาจะเหินออกมาจากมอเตอร์ไซค์ จำได้ว่าขณะกำลังเปลี่ยนเลน มีรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งพุ่งตรงมาชน...เปรี้ยง!!! ประชาจำได้เท่านี้
พนักงานสอบสวนเห็นท่าประชาน่าจะตอบอะไรไม่ได้มากกว่านี้ จึงหันไปถามคนที่เห็นเหตุการณ์ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร จนได้รู้ว่าประชาขับรถเข้ามาอีกเลน ก่อนที่รถที่วิ่งทางตรงซึ่งอยู่ในเลนของตัวเองจะวิ่งมาชน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะสรุปว่าอุบัติเหตุเกิดจากมอเตอร์ไซค์ของประชาที่ขับเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน แต่ประยุทธ์ซึ่งเป็นคนขับรถชนแล้วหนี ดังนั้น จึงสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าประยุทธ์เป็นฝ่ายผิด เนื่องจากกฎหมายระบุว่า กรณีขับขี่รถในทางและก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตาม กรณีหลบหนีหรือไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้สันนิษฐานไว้ว่าเป็นผู้ กระทำความผิด
ถ้าให้ดี ขอแนะนำประยุทธ์-ผู้ขับขี่รถยนต์ ควรติดต่อขอมอบตัวและแจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเพื่อประโยชน์ในการสู้คดี หากประยุทธ์พิสูจน์ได้ว่า ประชาขับเปลี่ยนเลนตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิดจนเกิดเหตุเฉี่ยวชน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพในขณะเกิดเหตุ พยานที่แวดล้อมในเหตุการณ์
ประยุทธ์ ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 72 (หลบหนี) เท่านั้น ส่วนประชา-ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มีความผิดฐานขับขี่รถโดยประมาท ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 36 และมาตรา 43
อ่านบทความของ ทีคิวเอ็ม เกี่ยวกับ ใครผิด!? ทั้งหมด
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *