ผ่อนดาวน์บ้าน แล้วกู้ธนาคารไม่ผ่าน

กู้ไม่ผ่าน! กลุ้มใจจังจะได้เงินคืนไหม?

     ในโลกนี้มีสินค้าที่ผู้ซื้ออาจจะไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสด นั่นก็คือ “อสังหาริมทรัพย์” อย่าง บ้าน คอนโด และที่ดิน เป็นต้น ซึ่งการซื้อขายด้วยวิธีผ่อนดาวน์นั้นเกิดได้ 2 กรณี อย่างแรกก็คือโครงการดังกล่าวยังสร้างไม่เสร็จ และสองคือผู้กู้ยังไม่มีเงินก้อนเต็มจำนวนมาซื้อ จึงต้องทำสัญญาซื้อขายและเอาไปขอสินเชื่อยื่นกับธนาคารให้มาค้ำประกันไว้ ส่วนเงินเดือนเท่าไหร่ที่จะกู้บ้านหรือออกรถได้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะซื้อทรัพย์สินนั้นในราคาเท่าไหร่นั้นเอง

 

 

ในกรณีที่กู้ไม่ผ่านต้องมาวิเคราะห์หลายอย่างว่าเกิดขึ้นจากอะไร?
5 สาเหตุที่อาจทำให้กู้คอนโดไม่ผ่าน

 

1) ผู้ขอสินเชื่อยังไม่มีข้อมูลกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ อธิบายให้ฟังง่าย ๆ ก็คือยังไม่มีประวัติการขอสินเชื่ออื่น ๆ มาก่อน จึงทำให้ทางธนาคารไม่สามารถดูประวัติการชำระหนี้ย้อนหลังได้

2) รายได้ของผู้ขอสินเชื่อนั้นไม่เพียงพอกับการยื่นกู้ (ซึ่งข้อนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการยื่นกู้ร่วมกับบุคคลอื่น)

3) ความสามารถในการชำระหนี้ไม่เพียงพอ มีรายจ่ายต่อเดือนมากเกินไป

4) ผู้ยื่นกู้อาจจะเคยมีประวัติค้างชำระหนี้ย้อนหลังอยู่ใน 36 เดือนที่ผ่านมา (คือเคยค้างชำระหนี้โดยที่สามารถตรวจสอบได้)

5) ไม่เข้าเงื่อนไขบางประการของธนาคาร   

 

ขั้นตอนการกู้สินเชื่อบ้าน.. ถ้ากู้ไม่ผ่านแล้วต้องทำอย่างไร?

 

 

Step ที่ 1 ผ่อนดาวน์มานานแล้วแต่ก็กู้ไม่ผ่าน

การกู้ไม่ผ่านมีหลายกรณี ทางโครงการบ้านจัดสรรจึงมักออกโครงการให้ผ่อนดาวน์นานประมาณ 12 – 24 เดือน จึงทำให้นักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งสร้างเครดิตให้กับตัวเองก็สามารถยื่นกู้ได้ ระหว่างนี้ที่ผ่อนดาวน์ ก็สามารถสร้างประวัติรายได้จากรายรับต่อเดือน แล้วก็เก็บสลิปเงินเดือนไว้ สร้าง Statement ให้ดูมียอดค่าใช้จ่ายให้คำนวณภาระความสามารถในการชำระหนี้ได้อยู่ในระดับดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วระยะเวลา 12 – 24 เดือนก็มีโอกาสกู้ผ่านแล้ว

 

Step ที่ 2 ตรวจสอบสัญญาว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า?

โดยปกติแล้วโครงการมาตรฐานเขาจะคืนเงินจองดาวน์ให้กับลูกค้า แต่บางสัญญาสามารถเขียนตามกฎหมายให้แปลความได้ว่าจะไม่คืนถ้าผู้ซื้อนั้นทำผิดสัญญาบางประการ โดยที่คุณต้องไปดูว่าการที่ธนาคารไม่ให้สินเชื่อ ถือว่าผิดสัญญาหรือเปล่า? ในขั้นตอนนี้อาจจะต้องปรึกษาผู้รู้ทางกฎหมายมาช่วยดูสัญญาด้วย

 

Step ที่ 3 หากสัญญาระบุว่าไม่คืนเงินล่ะ? ให้ขอผ่อนปรนดาวน์ต่อไป แล้วยื่นกู้กับแบงก์ใหม่

ปัจจุบันนี้การกู้ไม่ผ่านถือว่าโอกาสน้อยมาก ๆ เพราะคุณสามารถยื่นกู้พร้อมกันทีละหลายธนาคารได้เลย รอบแรกส่วนใหญ่จะผ่านสักธนาคารหนึ่ง แต่หากไม่ผ่านจริง ๆ ต้องสอบถามกับทางธนาคารว่าเป็นเพราะด้วยเหตุผลอะไร จะได้กลับมาปรับปรุงการเดินบัญชี และหลายรายสามารถขอสินเชื่อได้ใหม่ใน 4 – 6 เดือน ซึ่งระยะนี้ทางโครงการจะยืดเวลาผ่อนดาวน์ให้คุณไปอีก

 

เหตุผลเดียวที่จะทำให้กู้ไม่ผ่านแล้วต้องเดินเรื่องขอคืนเงินก็คือตัวผู้กู้มีประวัติค้างชำระหนี้ขึ้นอยู่ในฐานระบบบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติหรือเปล่า? ถ้ามีก็ควรจะเปลี่ยนชื่อในสัญญาเป็นชื่อของบุคคลในครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติค้างชำระมาก่อน ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีฐานรายได้เพียงพอ (มีความสามารถในการชำระหนี้ และหากใช้ชื่ออื่นเป็นผู้กู้ร่วมจะยิ่งผ่านง่าย)

Step ที่ 4 หากสัญญาระบุว่าไม่คืนเงินล่ะ? ให้ขายดาวน์ให้คนอื่น

หากเป็นโครงการบ้านที่มีผู้สนใจอยู่มากคุณสามารถขายดาวน์ให้แก่คนอื่นได้ ถ้าอยากปล่อยได้เร็วก็ต้องออกค่าโอนต่าง ๆ ให้กับทางผู้ซื้อรายใหม่ด้วย จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนอยู่มาก แต่ก็ยังดีกว่าเสียเงินดาวน์ก้อนใหญ่ไปอย่างสูญเปล่า

 

     ในกรณีที่สัญญาระบุว่าจะคืนเงินโอนนั้น ผู้กู้ก็จะโล่งอก เก็บเงินไว้ก่อนเพื่อข้อยื่นซื้อที่อื่นใหม่ได้ แต่หากกู้ไม่ผ่าน ก็ต้องดิ้นรนหาวิธีเจ็บตัวได้น้อยที่สุด สุดท้ายนี้ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าการดาวน์คอนโดแล้วกู้ไม่ผ่าน ฟันธงได้หรือไม่ว่าโครงการบ้านต้องคืนเงินเลย เพราะมีเงื่อนไขในสัญญาที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดีหากคุณมีข้อสงสัย สามารถปรึกษากับหน่วยงานที่ชื่อว่า สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ได้เลย โทร.021439767 กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา

 

READ MORE : 

 

►  ประกันอัคคีภัยไหนคุ้มสุด คุ้มครองทั้งบ้านและทรัพย์สินภายใน

►  ประกันคุ้มครองน้ำท่วมบ้าน ไฟไหม้บ้านไหม

►  ทำความรู้จักกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยมาตรฐาน