มอเตอรไซค์เปลี่ยนเลน ชนรถยนต์ ใครผิด?

 

ในวันที่อากาศร้อนระอุเหมือนผู้คนได้ซ้อมตกนรก บังเอิญขับมอเตอร์ไซค์มากับบังอรแฟนสาวที่นั่งกอดเอวซ้อนท้าย โต้ลมยามบ่ายด้วยความเร็วดั่งสปีดโบ้ทโต้คลื่นสึนามิ ในเลนช่องทางด่วนวิภาวดีรังสิต ทั้งที่มีป้ายห้ามมอเตอร์ไซค์วิ่ง ด้วยเหตุผลเพราะเลนนี้...ลมมันเย็น

 

ยิ่งบังอรกอดรัดเอวบังเอิญแน่นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งได้ใจ ขับมอเตอร์ไซค์ฉวัดเฉวียดเหมือนโดนมดคันไฟกัดแต่ไม่อาจเกาได้ โชว์พลังเครื่องยนต์แรงระดับเสือชีตาร์วิ่งล่าเหยื่อให้แฟนสาวดู

 

ขณะบังเอิญเหยียบคันเร่งสุดทีน พิสุทธิ์หนุ่มรูปหล่อพ่อรวยเจ้าของรถเก๋งคันโก้เลนท์ข้างๆ ผู้มีกิ๊กสาวสุดเซ็กซี่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถกลับขับด้วยความเร็วกำลังดีตาม มาตราฐาน

ภาพตัดมาที่บังเอิญ บังอร และมอเตอร์ไซค์ที่ยังคงวิ่งด้วยความไวสูง บังเอิญกำลังคึกคะนองเรียกร้องฟ้าฝนได้ที่ ฉับพลันตาซ้ายเหลือบไปเห็นเลนท์ข้างๆ ที่โล่งโปร่งสบายเป็นช่องแคบมะละกา เขาจึงสะกิดนิ้วโป้งซ้ายลงบนปุ่มเลี้ยว เอี้ยวตัว บิดล้อตามแรงโน้มถ่วงไปทางซ้ายในระยะประชิด โดยหารู้ไม่ว่าจะเฉี่ยวชนรถเก๋งของพิสุทธิ์

 

 

ตู้ม!!! รถเก๋งของพิสุทธิ์เสยท้ายมอเตอร์ไซค์บังเอิญเข้าให้อย่างจัง ไม่ทันได้ระวังตัวถูกคนชั่วเฉี่ยวชน ตัวบังเอิญและบังอรถูกแรงชนดีดมอเตอร์ไซค์พาทั้งคู่ทะยานกลางอากาศ แล้วกลิ้งหลุนๆ ลงสู่พื้นยางมะตอยอย่างสวยงาม ล้อมอเตอร์ไซค์หมุนจนคนที่ผ่านมาได้เห็นอยากจอดรถอาเจียน

ราวกับปาฏิหาริย์ ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรมาก ข้อมือซ้น หัวโน มีแผลถลอกตามแขนขาเลือดซิบพอประมาณ เมื่อโฉมวิไลได้สติหลังจากหัวกระแทกหน้ารถจนปูดโปนและเกือบต้องทำดั้งใหม่ รีบจะลงไปเอาเรื่อง แต่พิสุทธิ์ฉุดข้อมือไว้ทัน ขอออกไปทำตัวหล่อจบปัญหานี้เอง
 

พอบังเอิญลุกขึ้นได้ก็เข้าไปพยุงแฟนสาวแล้วลูบคลำมอเตอร์ไซค์สุดรักเพราะกลัว ว่าค่าซ่อมจะเสียหายหลายแสน พิสุทธิ์เห็นทั้งคู่ปลอดภัยจึงเดินเข้ามาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ส่วนโฉมวิไลเห็นท่าว่าพิสุทธิ์จะใจดี จึงไม่วายลงจากรถตามมาเอาเรื่อง
 

 

เสียงแสบแก้วหูของโฉมวิไลที่กำลังสาดน้ำลายด่าบังเอิญดังสนั่นถนน ก่อนที่หน้าของบังเอิญจะชุ่มไปดวยน้ำลาย พนักงานสอบสวนก็มาทันเวลาพอดี รีบลงจากมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าชาร์ตและแนะนำให้พิสุทธิ์ที่ดูมีสติกว่าบังเอิญ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุดังกล่าว และช่วยจัดการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกหมู่เหล่าเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเป็นช่องทางด่วนที่รถสัญจรราวกับอยู่บนสนามแข่ง



 

พนักงานสอบสวนแทบกุมขมับเมื่อได้ยินประโยคบอกเล่าราวกับบทละครภาคค่ำ การจราจรรอบๆ ก็เริ่มติดขัด อยากทราบเรื่องราวของเหตุการณ์ครั้งนี้จะได้แก้ไขและชี้ถูกผิดโดยเร็ว จึงรีบถามต้นสายปลายเหตุจากทั้งพิสุทธิ์และบังเอิญ
 

 

พิสุทธิ์และบังเอิญต่างเล่าให้พนักงานสอบสวนฟังถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นตามจริง โดยเฉพาะเรื่องที่พิสุทธิ์เห็นว่าบังเอิญขับมอเตอร์ไซค์ในเลนช่องทางด่วน ทั้งที่ไม่ควร ก่อนจะเลี้ยวมาชนรถของเขาแบบกระทันหัน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและเห็นสมควรว่า บังเอิญที่ขับมอเตอร์ไซด์ในเลนช่องทางด่วน ซึ่งมีป้ายห้ามมอเตอร์ไซด์วิ่ง แล้วเปลี่ยนช่องทางเดินรถในระยะกระชั้นชิดเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนกับรถยนต์ของ พิสุทธิ์ เป็นฝ่ายผิด
เพราะบังเอิญขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สิน ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และขับรถฝ่าฝืนป้ายสัญญาณจราจร ไม่ปฏิบัติตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ที่ระบุว่า

ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถ

(1) ในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ
(2) ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
(3) ในลักษณะกีดขวางการจราจร
(4) โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน
(5) ในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมชาติ หรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่การปลอดภัย
(6) คร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องเดินรถ เว้นแต่เมื่อเปลี่ยนช่องเดินรถ เลี้ยวรถ หรือกลับรถ
(7) บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควรเว้นแต่รถลากเข็นสำหรับทารก คนป่วย หรือคนพิการ
(8) โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือเดือดร้อนของผู้อื่น

 

อ่านบทความของ ทีคิวเอ็ม เกี่ยวกับ ใครผิด!? ทั้งหมด