วิธีรักษาอาการนิ้วล็อคของมนุษย์เงินเดือน
- เมื่องอนิ้ว หรือยืดนิ้วจะรู้สึกดังกึก
- เกิดอาการนิ้วแข็งในตอนเช้า
- มีความรู้สึกตึง และเหมือนมีอะไรนูนขึ้นมาตรงโคนของนิ้วที่ล็อค
- เกิดอาการนิ้วล็อคเมื่องอนิ้ว ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อยืดนิ้วแบบกะทันหัน
- เกิดอาการนิ้วล็อคเมื่องอนิ้ว และยืดกลับมาไม่ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น นิ้วล็อคถือเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่องอนิ้ว แล้วไม่สามารถทำงานยืดนิ้วให้ตรงได้ ซึ่งเกิดจากปลอกเอ็นกล้ามเนื้อที่นิ้วอักเสบ ส่งผลให้เอ็นและกล้ามเนื้อภายในไม่สามารถทำการยืดหดได้ รวมถึงทำให้มีอาการนิ้วล็อคยืดตรงไม่ได้ ส่วนมากจะเกิดกับนิ้วโป้ง นิ้วกลาง หรือนิ้วนาง รวมถึงสามารถเกิดพร้อมกันหลายนิ้ว และอาจเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ข้างได้เช่นกัน
สำหรับบุคคลที่เสี่ยงประสบกับปัญหานิ้วล็อค ได้แก่…
ผู้หญิง : มีโอกาสเกิดอาการนิ้วล็อคมากกว่าผู้ชาย
ผู้สูงอายุ : เกิดจากการที่ใช้งานสะสมเป็นเวลานาน อีกทั้งทำให้เส้นเอ็นเสื่อมอีกด้วย
นอกจากนี้ผู้ที่ป่วยโรคเบาหวาน ก็มีความเสี่ยงเกิดอาการนิ้วล็อคได้เช่นกัน
อาการนิ้วล็อคมี 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 : มีอาการเจ็บบริเวณฝ่ามือ แต่นิ้วมือสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ระยะที่ 2 : ปลอกเส้นเอ็นตีบแคบลง ทำให้เคลื่อนไว้มือลำบาก อีกทั้งเวลางอนิ้วจะมีอาการสะดุด แต่สามารถงอได้
ระยะที่ 3 : เวลากำมือจะมีอาการค้าง ไม่สามารถเหยียดนิ้วมือออกได้
ระยะที่ 4 : ปลอกเอ็นตีบและคบมาก ทำให้เอ็นผ่านจุดคอดไม่ได้ ส่งผลให้กำมือไม่ลง
- การถือของ หรือแบกของที่มีน้ำหนักมากเป็นเวลานาน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ้วล็อค รวมถึงการใช้อุปกรณ์ที่ต้องออกแรงกด หรือกิจกรรมต่างๆ ก็มีความเสี่ยงทำให้นิ้วล็อคเช่นกัน
- ผู้ที่สูบบุหรี่ก็มีความเสี่ยงเกิดนิ้วล็อคได้! โดยนิ้วที่มักเกิดขึ้นคือนิ้วโป้ง เนื่องต้องใช้จุดไฟแช็ดบ่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยช่วงอายุที่พบบ่อยคือ อายุ 40-60 ปี
- มักเกิดกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เป็นโรคเกี่ยวกับการอักเสบบริเวณเนื้อเยื่อ อาทิ โรคเบาหวาน, โรคเกาต์, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคการกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ และโรคอะไมลอยด์โดซิส
ตามข้อมูลของโรงพยาบาลพญาไทได้บอกถึงวิธีรักษาอาการนิ้วล็อคเอาไว้ ดังนี้
พักการใช้มือ : ควรพักการใช้มือในการออกแรง หรือยกของหนัก รวมถึงงดกิจกรรมที่ต้องใช้มือประมาณ 3-4 สัปดาห์
ประคบร้อนหรือเย็น : สามารถทำการรักษาเบื้องต้นด้วยการประคบร้อน หรือประคบเย็น โดยจะช่วยให้อาการนิ้วล็อคดีขึ้น แนะนำให้ทำในช่วงเช้าจะได้ผลดีที่สุด
ใส่อุปกรณ์ดามนิ้ว : การใส่ Splinting หรือ อุปกรณ์สำหรับดามนิ้วจะช่วยให้นิ้วตรง ไม่งอหรือเหยียดเกินไป รวมถึงช่วยให้ได้พักนิ้วอีกด้วย ในกรณีที่มีอาการนิ้วล็อคช่วงเช้า แพทย์จะให้ใส่ที่ดามนิ้วในตอนกลางคืน ป้องกันไม่ให้นิ้วเกร็ง หรืองอในระหว่างที่นอนหลับ
ออกกำลังกาย : การออกกำลังกายเบาๆ มีส่วนช่วยให้นิ้วเคลื่อนที่ได้ปกติ
รักษาด้วยยา : ยาต้านอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่สามารถบรรเทาอาการบวมบริเวณปลอกหุ้มเอ็นนิ้วได้
รักษาด้วยการศัลยกรรม : หากการรักษาด้วยยาไม่ได้ผล อีกหนึ่งวิธีที่สามารถรักษาได้คือการรักษาด้วยการศัลยกรรม และรักษาด้วยวิธีการแพทย์แบบอื่น
นอกจากมนุษย์เงินเดือนที่
ทำงานออฟฟิศจะเสี่ยงเป็นโรคนิ้วล็อคแล้ว บุคคลอื่นๆ ก็มีโอกาสประสบกันปัญหานี้ได้เช่นกัน เพราะการเล่นโทรศัพท์ หรือเล่นเกมเป็นเวลานานติดต่อกัน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของอาหารนิ้วล็อค! หากพบอาการผิดปกติ พี่หมีแนะนำให้รีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหนักถึงขั้นรักษายาก! นอกจากนี้การทำประกันสุขภาพก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนไม่ควรละเลย ให้ความคุ้มครองโรคออฟฟิศซินโดรมอย่างนิ้วล็อคด้วย เนื่องจากจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายยามเมื่อคุณเจ็บป่วยได้อย่างครอบคลุม โดยประกันสุขภาพ TQM เป็น
ประกันภัยสุขภาพมนุษย์เงินเดือน ที่ให้การคุ้มครองสูงสุด 400,000 บาท ผ่อน 0% ไม่ต้องสำรองจ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่เบอร์ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง
READ MORE :