ผ่อนปรนเฟส4 ที่ไหนเปิดเพิ่ม ที่ไหนยังปิดอยู่

 

     เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายคนตั้งตารอว่าจะมีการยกเลิกเคอร์ฟิวเมื่อไหร่ ซึ่งล่าสุดมีข่าวดี! ศบค. แถลงมติที่ประชุม อนุมัติผ่อนคลายระยะ 4 เป็นเวลา 15 วัน เริ่ม 15 มิ.ย. 63 โดยกิจการและกิจกรรม ที่อยู่ในกลุ่มสีแดง (ความเสี่ยงสูง) เตรียมพิจารณาให้เปิดได้บางส่วน ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันครับ

 

 

     นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน (โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) ได้เผยถึง ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องการเสนอเพื่อพิจารณาสถานที่และกิจกรรมที่ผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายในระยะที่ 4 เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นฉบับร่างที่ออกมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย. 63) โดยมีมติที่ประชุม ศบค. ที่สำคัญ คือ

• ยกเลิกเคอร์ฟิว การห้ามออกนอกเคหสถาน มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.
• แต่ควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ

สำหรับ มาตรการผ่อนคลายระยะ ที่ 4 มีมติที่ชัดเจน ดังนี้

 

1. ผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่โรงเรียน สถานศึกษา หน่วยงานราชหาร หน่วยงานในกำกับของรัฐ ในโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนกวดวิชา สามารถเปิดได้ ขณะที่หน่วยงานของกระทรวงศึกษา ประกาศให้เปิด 1 ก.ค.63 ขณะที่หน่วยงานราชการในการอบรม สัมมนานั้น สามารถทำได้
2. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิต
   • การจำหน่ายเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ให้นั่งดื่มได้ ไม่รวมสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ด้วยความมีระเบียบ แต่ให้งดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เนื่องจากทำให้เกิดการใกล้ชิด ซึ่งให้ปฏิบัติตามมาตรการหลัก และลงทะเบียนผ่านแอปฯ ไทยชนะ ในส่วนของบุฟเฟต์ ยังงดตักอาหารส่วนกลางด้วยตัวเอง
   • สถานพัฒนาเด็กประถมวัย ศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กรายวัน หรือสถานดูแลผู้สูงอายุรายวัน ซึ่งอนุญาตให้มีการไป กลับ ได้แล้ว แต่กำหนดให้เด็กมีความห่างระหว่างกัน โดยมีครูพี่เลี้ยง หรือพี่เลี้ยงเด็ก เป็นคนดูแล ซึ่งผู้ดูแลต้องผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาเด็กปฐมวัย และการป้องกันควบคุมโรค
   • ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ คิดเกณฑ์ 4 ตร.ม./คน จัดเลี้ยง จัดอีเวนต์ คอนเสิร์ต อนุญาตให้มีได้ แต่ต้องลดความหนาแน่น มีระเบียบ เกณฑ์ 5 ตร.ม./คน
   • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลอง กรณีการเข้าเป็นกลุ่ม เข้าเป็นรอบ ต้องมีการกำกับดูแล
   • ขนส่งสาธารณะทุกประเภท รถเมล์ รถไฟ รถโดยสารระหว่างจังหวัด ฯลฯ อาจให้นั่งติดกันได้ 2 ที่นั่งเว้น 1 ที่นั่ง โดยจำกัดจำนวนไม่เกิน 70% ของความจุผู้โดยสารมาตรฐาน
3. กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย และสันทนาการ

• กองถ่าย รายการโทรทัศน์ รวมทุกแผนกไม่เกิน 150 คน มีผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน และว่าการใส่ face shild อย่างเดียวไม่ช่วยอะไร แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย
• สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา ออนเซ็น อบไอน้ำแบบรวม ยกเว้น อาบอบนวด ยังไม่ได้
• สวนสนุก สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำสาธารณะ ยกเว้นบ้านบอล โดยคิดเกณฑ์ 8 ตร.ม./คน
• สนามกีฬากลางแจ้ง โรงยิม สถานออกกำลังกาย สามารถเล่นได้หมด รวมถึงกีฬาที่มีการแข่งขัน แต่ห้ามมีผู้ชม และห้ามจัดส่งเสริมการขาย
• ตู้เกม เครื่องเล่นยอดเหรียญในห้าง ยกเว้นร้านเกมนอกห้าง ยังไม่สามารถเปิดได้

 

     ทั้งนี้ การทดลองยกเลิกการประกาศใช้เคอร์ฟิวทั่วประเทศ จะถูกใช้เป็นเวลา 15 วัน แต่ยังคงบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ เพื่อจะทดลองว่าประชาชนจะรับได้กับการมี พ.ร.ก ฉุกเฉิน แต่ยกเลิกเคอร์ฟิวและจะใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่ โดยจะไม่มีด่านความมั่นคง ไม่มีการกำหนดเวลาเข้าออกเคหสถาน เพราะต้องการให้ประชาชนเห็นว่าเมื่อมีมาตรการผ่อนคลายสูงสุด จะเป็นเช่นไร หลังจากนั้นก็จะฟังเสียงตอบรับจากประชาชนและสังคมอีกครั้ง

 

 

     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในไทยจะดีขึ้น มีการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว และเปิดกิจการ สามารถทำกิจกรรมได้มากขึ้น เราก็ไม่ควรชะล้า การ์ดอย่าตก! สวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ กินร้อนช้อนกลาง และปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด แต่นอกเหนือจากดูแลตัวเองแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรมีคือ ประกันสุขภาพ ที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจ ทำไว้หายห่วง แถมไม่กระทบเงินเก็บ เพราะมีประกันช่วยดูแลเรื่องค่ารักษา ประกันสุขภาพ เบี้ยเริ่ม 20 บ./วัน คุ้มครองสูงสุด 400,000 บาท  คุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 สนใจคลิกที่นี่เลย หรือโทร 1737 ปรึกษาพี่หมีได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

READ MORE :