เลี้ยวหลบรถเป็นเหตุ โดนมอเตอร์ไซค์ชนท้าย
article created at icon18/05/61

|

อ่านแล้ว 261 ครั้ง

เลี้ยวหลบรถเป็นเหตุ โดนมอเตอร์ไซค์ชนท้าย

เลี้ยวหลบรถ
โดนมอเตอร์ไซค์พยศชนท้ายยับ

 

    คน 3 ชีวิต รถยนต์ 2 คัน มอเตอร์ไซค์ 1 คัน ต้องมาพัวพันกับปัญหารถชนน่าปวดหัว ใครคือคนผิด ใครคือผู้บริสุทธิ์...ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
 
    ลุงชาติขับรถเชื่องช้าในเลนซ้ายสุด เขาไม่ได้ขับรถทางไกลมาเป็น 10 ปี มาได้ครึ่งทางจู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาซะงั้น จึงตัดสินใจจอดพักรถข้างทาง ห่างจากปากซอยประมาณ 300 เมตร
 
ใครผิด
 
    สาลี่ สาวโก๊ะมือใหม่หัดขับ กำลังขับรถเก๋งตามหลังลุงชาติมาติดๆ พอเห็นรถข้างหน้าหยุดจอดริมทาง เธอจึงเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อเบี่ยงรถออกเลนข้างๆ
 
ใครผิด
 
    หารู้ไม่ว่าอีกเลนหนึ่ง พายุ หนุ่มเลือดร้อนกำลังขับมอเตอร์ไซค์พุ่งตรงมาด้วยความเร็ว
 
ใครผิด
 
    และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! เมื่อพายุเห็นรถสาลีเปลี่ยนเลนแต่เบรคไม่ทัน จึงชนเข้ากับท้ายรถสาลี่อย่างจัง
 
ใครผิด
 
    โชคดีที่พายุห้อยพระดีจึงไม่ได้เจ็บอะไรมาก แต่ด้วยความโกรธ เขาเดินมาเคาะกระจกรถสาลี่เพื่อจะได้ออกมาเคลียร์กัน แต่สาลี่กลัวจนลนลาน เธอล็อคประตูและไม่ยอมลงจากรถ เธอไม่อยากมีเรื่องชกต่อยกับใคร
 
ใครผิด
 
    ลุงชาติที่เห็นเหตุการณ์ไม่สู้ดีจากที่เหนื่อยๆก็หลับไม่ลง เขาคิดว่าตนอาจมีส่วนผิดที่จอดรถข้างทางเช่นนี้ จึงเข้ามาไกล่เกลี่ย
 
ใครผิด
 
    ...จากนั้นไม่นาน สาลี่ค่อยๆรวบรวมสติก่อนลงจากรถเพื่อเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับลุงชาติและพายุ เจ้าหน้าที่ประกันภัยรับฟังอย่างสุขุม พลันไขข้อสงสัยที่อยู่ในใจทุกคน 
 
ใครผิด
 
    เจ้าหน้าที่ประกันภัยทำหน้าขรึมแล้วพูดต่อ
 
ใครผิด
 
    เจ้าหน้าที่ประกันภัยพยักหน้าและกล่าวต่อ
 
ใครผิด
 
    พายุ หนุ่มเจ้าอารมณ์ของเราเงียบไปซักครู่ ก่อนจะยอมรับผิดแต่โดยดี
 
ใครผิด
 
    สุดท้ายเหตุการณ์ชนอลเวง ก็ทำให้ทุกคนหันมาสนใจความปลอดภัยบนท้องถนนกันมากขึ้น
 
ใครผิด
 
สรุป
   
    ในกรณีที่ลุงชาติ จอดรถห่างจากทางเข้าซอยถึง 300 เมตร และจอดรถยนต์ในช่องทางเดินรถซ้ายสุด ไม่มีความผิดแต่อย่างใด 
   
    ส่วนกรณีของรถยนต์สาลี่ และมอเตอร์ไซค์พายุ กรณีดังต่อไปนี้แบ่งได้เป็นสองกรณี
    1) หากพายุขับรถมอเตอร์ไซค์ชนส่วนหน้า หรือ ส่วนข้างของรถยนต์สาลี่ การวินิจฉัยความรับผิดจะต่างไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากกรณีดังกล่าวจะเป็นเรื่องของการที่รถยนต์สาลี่เปลี่ยนเลนโดยประมาท กล่าวคือไม่หยุดรอ แล้วเปลี่ยนช่องทางเดินรถเมื่อปลอดภัย เนื่องจาก มาตรา 36 วรรค 4 ของพรบ. จราจรทางบก พ.ศ.2522  กำหนดไว้ว่า ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณด้วยมือและแขน ไฟสัญญาณหรือสัญญาณอย่างอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าหกสิบเมตร จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าสาลี่ต้องเปิดไฟออกขวาไปยังเลนที่สองและรีบตบไฟซ้ายเพื่อเข้าซอย จากข้อเท็จจริงนี้คาดเห็นได้ว่า ระยะที่พายุจะเห็น รถยนต์ของสาลี่ ไม่ถึงระยะ 60 เมตรตามที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น หากเป็นกรณีนี้คุณสาลี่ ต้องรับผิดต่อคุณพายุ 
    2) การที่พายุขับมอเตอร์ไซค์ ชนท้ายรถยนต์ของสาลี นั้น อาจจะถือได้ว่าพายุขับขี่โดยประมาทเนื่องจาก พรบ.จราจรทางบกพ.ศ. 2522 กำหนดไว้ใน มาตรา 40 ว่าผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างรถคันหน้าพอสมควรในระยะที่จะหยุดรถได้โดยปลอดภัยในเมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของพายุไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ถือว่าพายุไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างพอสมควร เพราะฉะนั้น พายุต้องรับผิดต่อสาลี่
    ในกรณีนี้จึงสรุปว่าพายุ เนื่องจากเป็นฝ่ายขับชนท้ายรถของสาลี่ มีความผิดใน พรบ.จราจรทางบกพ.ศ. 2522 กำหนดไว้ในมาตรา 40
 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

TQM Bear
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
TQM Logo
TQM Logo

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

facebook
line
youtube
twitter
TQM Application
TQM IOS Application
TQM Android Application
ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเลขที่ 0105540084143

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยเลขที่ ว00019/2546

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล
TQM Application
TQM IOS Application
TQM Android Application
แชทกับเรา