ประกันมะเร็ง สำหรับผู้หญิงธรรมดา
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเงินเก็บที่ออมมาทั้งชีวิตต้องหมดไป เพราะมะเร็งร้ายก้อนเดียว
ประกันมะเร็ง Double Cancer
คุ้มครอง 2 เท่า โรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ (ยกเว้นมะเร็งผิวหนัง) พร้อม เงินช่วยเหลือรายเดือน อันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรงมะเร็งนาน 6 เดือน
ไม่กระทบเงินเก็บยามฉุกเฉิน
คุ้มครองสูงสุด 1,500,000 บาท
ผ่อน 0%
ตารางความคุ้มครองประกันมะเร็ง
| ความคุ้มครอง | จำนวนเงินเอาประกัน | ||
| แผน1 | แผน2 | แผน3 | |
| 1. โรคมะเร็งทุกชนิดทุกระยะ (ยกเว้นมะเร็งผิวหนัง) | 500,000 | 1,000,000 | 1,500,000 |
|
2. ผลประโยชน์เพิ่มเติม กรณีโรคมะเร็งที่ตวจพบในข้อ 1 เป็นโรคมะเร็ง ดังนี้ 2.1 หากตรวจพบมะเร็งมดลูก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ |
500,000 | 1,000,000 | 1,500,000 |
| 2.2 เงินช่วยเหลือรายเดือนอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง (จำนวน 6 เดือน) | 20,000 ต่อเดือน | 30,000 ต่อเดือน | 40,000 ต่อเดือน |
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องและอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงช่วยให้เราปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาตรงตามวัตถุประสงค์ความต้องการของท่าน โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy) , นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy Policy) และ แจ้งการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ปิด
ปิด
เอกสารขอความยินยอม
หนังสือยินยอมให้เก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด
และ บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด
(สำหรับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ)
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ("พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด, บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า (“บริษัท”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพื่อแจ้งให้ท่านทราบในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้ทราบเกี่ยวกับรายละเอียด และวัตถุประสงค์ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตลอดจนสิทธิ์ตามกฎหมายของ ข้าพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้าพเจ้าเข้าใจดีว่าบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าแก่บริษัทฯและ/หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทฯ และ/หรือ หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานเอกชน และ/หรือบุคคลอื่นใด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวต่อไปนี้
ข้าพเจ้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้อ่านและรับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของบริษัทฯ แล้วและขอให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของข้าพเจ้า ที่มีอยู่กับบริษัทได้ภายใต้ข้อกำหนด เงื่อนไข นโยบายและวัตถุประสงค์ดังต่อ่ไปนี้
ข้อ 1. ข้อมูลที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยบริษัทฯ ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาได้แก่
(1) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุ และบ่งบอกตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม เช่นชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ ที่อยู่ เพศหมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน อีเมล ไลน์ไอดี ชื่อในการใช้งาน เฟสบุ๊ก (Facebook) หรือ รูปถ่าย เป็นต้น
(2) ข้อมูลด้านการทำธุรกิจ หมายถึง ข้อมูล หรือสิ่งใด ๆ ที่แสดง ออกมาในรูปแบบเอกสารแฟ้มรายงานหนังสือ การบันทึกภาพนิ่งการบันทึกภาพ เคลื่อนไหวหรือเสียงการบันทึกโดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับการ ดำเนินธุรกิจของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้และ/หรือ
(3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอันได้แก่ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรมและข้อมูลที่แสดงอยู่ในเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนเป็นต้น โดยเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ถูกต้อง เป็นปัจจุบันและมีคุณภาพจะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ตามหนังสือนี้เท่านั้น และบริษัทฯ จะดำเนิน มาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน
ข้อ 2. ความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้บริษัทฯเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการใช้บริการของข้าพเจ้าได้และยินยอมให้บริษัทส่งโอนใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลในบริษัทฯ และ/หรือบริษัทฯอื่นๆ ในเครือเดียวกัน ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องตามสัญญา คู่ค้า พันธมิตรทางการค้าและธุรกิจ ผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอก เช่น ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัทฯ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติ การ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น หรือการดำเนินการตามกฎหมายหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงิน ผู้รับโอน สิทธิเรียกร้องทั้งในประเทศและต่างประเทศตามความจำเป็น โดยมีวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล คือ
(1) เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผล การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ วิเคราะห์ข้อมูล ปรับปรุงคุณภาพ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงการบริการภายหลังอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ เช่น การจัดการข้อเรียกร้อง และ/หรือ ใช้สิทธิ ฯลฯ เป็นต้น
(2) เพื่อนําเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งเพื่อการปรับปรุง พัฒนา และเพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญากับบริษัท และเพื่อการติดต่อสื่อสาร ในการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัท การติดต่อประสานงาน การโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือการให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ฯลฯ เป็นต้น
(3) เพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท ฯลฯ เป็นต้น
(4) เพื่อตรวจสอบรายการที่อาจบ่งชี้ถึงการทุจริต
(5) เพื่อประโยชน์ในการยืนยัน หรือระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(6) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการระหว่างข้าพเจ้ากับบริษัท
(7) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ
(8) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ อันจะเกี่ยวข้องระหว่างข้าพเจ้ากับบริษัทในอนาคต โดยเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือนโยบายของบริษัท
โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือตามความจำเป็นทางเทคนิคเท่านั้น
ข้อ 3. ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าจากแหล่งอื่นได้ เช่น จากส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ เก็บข้อมูลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่างๆ หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ตาม
ข้อ 4. วิธีการเพิกถอนความยินยอมและผลการเพิกถอนความยินยอม การไม่ให้ความยินยอม ข้าพเจ้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งตามหนังสือฉบับนี้ โดยข้าพเจ้าจะแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือและบริษัทฯอาจขอทราบถึงเหตผุลแห่งการนั้น การเพิกถอนความยินยอมของข้าพเจ้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ยินยอมแก่บริษัทไปแล้วก่อนหน้านั้น ในกรณีที่การเพิกถอนความยินยอมเกิดผลกระทบต่อสิทธิ์ หรือหน้าที่ใด ๆ ของข้าพเจ้าข้าพเจ้ายอมรับผลกระทบที่เกิดจากการนั้นแต่เพียงผู้เดียว ในกรณีที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการใดๆ ในอนาคตที่มีผลทำให้การให้ความยินยอมตามหนังสือฉบับนี้จะต้องเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไข เพี่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ข้าพเจ้ายินดีที่จะให้บริษัทฯ ใช้ความยินยอมเดิมได้ ข้าพเจ้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ยินยอมให้บริษัทฯ จะยังเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบตามกฎหมาย หรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวตนตัวบุคคลไม่ได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
จึงขอยืนยันและให้ความยินยอมสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ข้อ 5. ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามที่ปรากฏในเอกสารและ/หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้กับบริษัทนี้
5.1 ในกิจกรรมการประมวลผล (การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย) ข้าพเจ้ามีความประสงค์ให้บริษัทฯ ประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อมูลในการติดต่อสื่อสาร ข้อมูลในการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือการสินค้าให้บริการ ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของข้าพเจ้า (บริษัท มีความจำเป็นที่ต้องจัดเก็บตามกฎหมาย ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมในข้อนี้ บริษัทอาจจะปฏิเสธในการให้บริการกับท่านได้) ข้าพเจ้ามีความประสงค์ดังนี้
5.2 เพื่อเป็นการแจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น ประชาสัมพันธ์และสิทธิพิเศษผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท ตลอดจนเพื่อการปรับปรุง พัฒนา และเพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ไม่ว่าจะเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือยุติความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ไปแล้วก็ตาม ( สิทธิประโยชน์ของท่านในการทราบข้อมูลดังกล่าว ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมในข้อนี้ ท่านอาจจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าวได้)
ข้อ 6. ข้าพเจ้าเข้าใจเป็นอย่างดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่บริษัท จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายที่บริษัทกำหนด มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากข้าพเจ้าไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายการให้บริการได้ ในกรณีดังกล่าว ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัทฯ ปฏิเสธการให้บริการ หรือสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องอื่นใด ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ข้อ 7. ความรับผิดชอบในข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่ข้าพเจ้านำมาอ้างอิงในการใช้บริการหรือเอกสารประกอบ ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าที่จะต้องขอความยินยอมจากบุคคลที่ข้าพเจ้านำมาอ้างอิง
ข้อ 8. ผู้ใช้บริการสามารถเพิกถอนความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล โดยแจ้งให้ทางบริษัททราบผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง โดยการเพิกถอนคำยินยอมนี้ จะไม่ส่งผลต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมก่อนหน้า
ข้อ 9. ข้าพเจ้า ยินยอมให้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า ในกรณีจำเป็นอื่นๆ เช่น การปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ การปฏิบัติตามคำร้องขอจากหน่วยงานรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย การตอบสนองต่อความปลอดภัยของบุคคลหรือสาธารณะ การพิจารณาคดี การดำเนินคดี การสืบสวน สอบสวน และเรื่องทางกฎหมายอื่นๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง การตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย การบังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการของบริษัทฯ เป็นต้น
ข้อ 10. นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัทฯ อาจจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ชื่อ-นามสกุล และข้อมูลการติดต่อของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การส่งเนื้อหา (ทางไปรษณีย์ อีเมล โทรศัพท์ และ/หรือด้วยวิธีการอื่นๆ) เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ผ่านการแนะนำของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายและการสื่อสารการตลาดทางตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของเรา ข้อมูลทางการตลาด คำแนะนำและข้อมูลในเรื่องต่างๆ โดยในการดำเนินการดังกล่าวนี้ บริษัทฯ อาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อการดำเนินการใดๆ เพื่อให้บริษัทฯบรรลุวัตถุประสงค์
ข้อ 11. สามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้
บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด
ที่อยู่ : เลขที่ 123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด
ที่อยู่ : เลขที่ 123/3 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
เบอร์โทรศัพท์ : 02-119-8537 ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
Email: dpo@tqm.co.th
DPO-00-01-FM-001 Rev.02
ข้าพเจ้าผู้สมัคร/ผู้ใช้บริการได้อ่าน และเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นโดยตลอดแล้ว และตกลงให้ความยินยอมให้ บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด และ บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น