26/07/60

|

อ่านแล้ว 218 ครั้ง

รถชนเคลมยังไง

 

รับมือเหตุโกลาหล...เมื่อรถชนกัน

 
    ใครก็รู้ว่ารถชนต้องเรียกประกัน!  แต่เรียกยังไง ต้องบอกอะไรกับประกันบ้าง นอกจากโทรตามประกัน ต้องทำอะไรอีกไหม ใจเย็นๆ ไว้นะครับ ขั้นตอนที่ควรทำตอนรถชนแบบง่ายๆ ใช้ได้จริง รอคุณอยู่ที่นี่แล้ว
 
 
เมื่อรถชนกัน
 
หยุดรถก่อนเป็นอย่างแรก
    โครม!!! ใครต่อใครที่ได้ยินเสียงนี้เป็นอันต้องเสียงสันหลังวาบ แค่ได้ยินเสียงยังไม่พอ แรงสั่นสะเทือนมาถึงที่นั่งคนขับยังทำให้ขวัญผวาเข้าไปใหญ่! แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ หากเพื่อนๆ บังเอิญต้องตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว สิ่งแรกเลยที่เพื่อนๆ ต้องทำคือจอดรถก่อนทันที และเปิดไฟฉุกเฉินไม่ว่าเราจะเป็นคนผิดหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้ามาจัดการพื้นที่ได้ การรีบขับรถหนีไปอาจยิ่งทำให้มีโทษเพิ่มขึ้นนะคร้าบ ค่อยๆ จัดการสถานการณ์เป็นขั้นเป็นตอนไปจะดีกว่านะคร้าบ
 
ตั้งสติและระมัดระวังคำพูด
    พี่หมีเข้าใจว่า พอเจอเรื่องแบบนี้หลายคนอาจตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก แต่ขอให้คิดไว้ว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอครับ ให้ประคองสติให้ดี สิ่งที่สำคัญคือต้องระวังคำพูดให้มากๆ อย่าเพิ่งรีบกล่าวโทษผู้ขับรถอีกคัน เพราะอาจยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น และอย่าเพิ่ง “กล่าวขอโทษ” เนื่องจากอีกฝ่ายอาจใช้เป็นข้ออ้างมาบอกว่าเราเป็นฝ่ายยอมรับผิดได้ อย่ารีบใช้อารมณ์และความเห็นของตัวเองตัดสินสถานการณ์ครับ รอให้ตำรวจมาจัดการดีกว่า
 
คุยกับตำรวจอย่างละเอียด
    พอรถชนปุ๊ป สิ่งสำคัญเป็นอย่างแรกเลยคือเราต้องโทรเรียกตำรวจครับ แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายต่อไป  พอตำรวจมาให้เล่าคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น หากมีกล้องหรือถ่ายหลักฐานไว้ก็เปิดให้เขาดูได้ครับ แล้วก็อย่าลืมแจ้งชื่อ-นามสกุล พร้อมทั้งเลขทะเบียนรถและชื่อประกันให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยนะ ข้อที่สำคัญมากคือ อย่าเชื่อคู่กรณีหากเขาบอกว่า “ไม่ต้องเรียกเจ้าหน้าที่” นะครับ เพราะการมีเจ้าหน้าที่นับเป็นการมีพยานยืนยันเหตุการณ์ หากขาดตรงนี้ไป เมื่อถึงเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล เราอาจเสียเปรียบในรูปคดีได้ อีกอย่างการมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีข้อดีที่เขาจะมาช่วยไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งได้ด้วยล่ะ
 
ติดต่อประกันยังไงให้รู้เรื่อง
    สำหรับรถที่มีประกัน แน่นอนว่าโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็ต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่ประกันด้วยเช่นกัน เพื่อนๆ ควรเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ไว้ให้พร้อม ได้แก่ สำเนารายการจดทะเบียนรถ, สำเนากรมธรรม์ประกันภัย, สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาใบอนุญาตขับรถ หรือหลักฐานที่ออกโดยหน่วยราชการ ทันทีที่ประกันมาถึง สิ่งที่่่จำเป็นต้องตกลงกันคือเรื่องของค่าใช้จ่าย ยกตัวอย่างเช่น หากเพื่อนๆ มีประกันชั้น 1 ค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันออกให้ก็จะครอบคลุมตั้งแต่ค่าซ่อมรถและค่าชดเชยให้คู่กรณีหากเราเป็นฝ่ายผิด อันนี้ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ให้เคลียร์เลยนะครับ อีกอย่างที่สำคัญมากคือ หากเจ้าหน้าที่ประกันของฝ่ายคู่กรณีมาขอเอกสารยืนยันตัวหรือให้เซ็นเอกสาร เพื่อน “ห้ามเซ็นเป็นอันขาด” เลย! เพราะอีกฝ่ายอาจยัดเยียดความผิดมาให้เราได้ ต้องระวังไว้ให้มากๆ เลยคร้าบ
 
รู้ไว้ไม่เสียสิทธิ์ เราเรียกอะไรจากคู่กรณีได้บ้าง?
    ในการประสบอุบัติเหตุหนึ่งครั้ง หากเพื่อนๆ ตกเป็นผู้เสียหาย จะได้รับความคุ้มครองจาก “พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ” ซึ่งมอบสิทธิให้เราสามารถเรียกค่ารักษาพยาบาล ค่าทำให้เสียเวลา รวมถึงสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากคู่กรณีได้โดยถูกต้องตามกฏหมายครับ แต่เป็นส่วนที่เพื่อนๆ ต้องไปคุยกับคู่กรณีเอง เพราะโดยปกติประกันจะไม่ได้ครอบคลุมในส่วนนี้นั่นเอง รู้ไว้จะได้ไม่เสียสิทธิ์กันนะครับ~
 
    อุบัติเหตุบนท้องถนนอาจเป็นเรื่องที่สร้างความรำคาญใจ (และรังควานเงินในกระเป๋า) ให้เพื่อนๆ ได้ก็จริง แต่หากต้องไปประสบพบเจอ ก็ขอให้เพื่อนๆ ตั้งสติไว้ให้ดี ค่อยๆ จัดการเรื่องต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเพื่อความสบายใจหายห่วงสูงสุด ก็อย่าลืมทำประกันรถยนต์ติดไว้นะครับ กันไว้ดีกว่าแก้อยู่แล้ว~ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Live Chat ผ่านหน้าเว็บไซต์ https://www.tqm.co.th/ หรือติดต่อ Call Center 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย :)
 
ขอบคุณข้อมูลจาก
 
 
 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล