เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลการเดินทาง
เส้นทางการเดินทาง *
รูปแบบการเดินทาง *
จำนวนคนเดินทางทริปนี้
ประเทศปลายทาง *
วันเดินทางไป *
วันเดินทางกลับ *
|
อ่านแล้ว 195 ครั้ง
เวลาเดินทางด้วยเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินในประเทศหรือต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่ผู้โดยสารหลายคนกังวลคือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับของเหลวโหลดใต้เครื่อง เพราะมีกฎที่แตกต่างจากการพกของเหลวขึ้นเครื่อง และหากเราไม่เข้าใจชัดเจนอาจทำให้เกิดปัญหาที่ด่านตรวจความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งทำให้ถูกยึดสิ่งของที่เตรียมไป วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปเจาะลึกแบบละเอียดว่า ของเหลวโหลดใต้เครื่องต้องไม่เกินเท่าไหร่ มีข้อจำกัดอะไรบ้าง และควรจัดกระเป๋าเดินทางอย่างไรให้ถูกต้อง
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ของเหลวโหลดใต้เครื่อง หมายถึง ของเหลวทุกชนิดที่ผู้โดยสารใส่ไว้ในกระเป๋าที่จะนำไปเช็กอิน และถูกเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบิน ตัวอย่างเช่น
ขวดน้ำดื่ม
แชมพู ครีมนวด สบู่เหลว
โลชั่น น้ำหอม
เจลแต่งผม
น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ของเหลวในบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ
ซึ่งแตกต่างจาก ของเหลวพกขึ้นเครื่อง (Carry-on) ที่ต้องอยู่ในปริมาณจำกัด ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น และรวมทั้งหมดไม่เกิน 1 ลิตร สำหรับ ของเหลวโหลดใต้เครื่อง จะมีกฎที่ยืดหยุ่นมากกว่า แต่ก็ยังมีข้อห้ามที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยในการบิน
โดยหลักทั่วไป การโหลดของเหลวใต้เครื่องไม่มีการกำหนดปริมาณรวมที่ตายตัว เช่น ขวดแชมพู 500 มล. หรือขวดน้ำดื่ม 1.5 ลิตร สามารถโหลดได้ แต่ต้องเป็นของที่ไม่อยู่ในรายการต้องห้าม เช่น วัตถุไวไฟ หรือสารเคมีอันตราย อย่างไรก็ตาม สายการบินแต่ละแห่งและกฎหมายการบินสากล (ICAO และ IATA) จะมีแนวทางที่ใกล้เคียงกัน เช่น
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 70% และรวมแล้วไม่เกิน 5 ลิตรต่อผู้โดยสาร 1 คน
ของเหลวติดไฟได้ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง สารทำละลาย สีทินเนอร์ ห้ามเด็ดขาด
สเปรย์หรือกระป๋องอัดแก๊ส: ต้องมีปริมาณไม่เกิน 500 มล. ต่อกระป๋อง และรวมไม่เกิน 2 กิโลกรัมต่อคน
ยารักษาโรคที่เป็นของเหลว: สามารถโหลดได้ แต่ควรมีใบรับรองแพทย์หากเป็นยาพิเศษ
ดังนั้นคำตอบของคำถามยอดฮิต “ของเหลวโหลดใต้เครื่อง ต้องไม่เกินเท่าไหร่” คือ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณรวมที่ชัดเจน แต่ต้องไม่ใช่ของต้องห้าม และต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของสายการบิน
เครื่องดื่มทั่วไป (น้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำอัดลม)
ของใช้ส่วนตัว เช่น แชมพู สบู่เหลว ครีมบำรุงผิว
เครื่องสำอางแบบน้ำและเจล เช่น รองพื้น น้ำหอม โลชั่น
น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีดีกรีไม่เกิน 70%
น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน
สารเคมีไวไฟ สีทินเนอร์ น้ำมันสน
กรดหรือด่างที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
สเปรย์อัดแก๊สที่เป็นวัตถุอันตราย เช่น สเปรย์พริกไทย
ของเหลวที่บรรจุในภาชนะไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการรั่วไหล
ประเภท | ของเหลวโหลดใต้เครื่อง | ของเหลวขึ้นเครื่อง |
---|---|---|
ปริมาณ | ไม่มีข้อจำกัดรวมตายตัว | จำกัดขวดละไม่เกิน 100 มล. รวมไม่เกิน 1 ลิตร |
การบรรจุ | ต้องปิดฝาแน่นหนา ไม่รั่วซึม | ต้องใส่ในถุงซิปล็อกใส ขนาดไม่เกิน 20x20 ซม. |
ของที่ห้าม | วัตถุไวไฟ สารเคมีอันตราย | วัตถุไวไฟ ของมีคม น้ำมากกว่า 100 มล. |
เหมาะสำหรับ | น้ำดื่ม เครื่องสำอางขวดใหญ่ ของใช้ส่วนตัว | ยา ของใช้เล็ก ๆ ที่ต้องใช้ระหว่างเดินทาง |
ดังนั้นหากเป็นของเหลวที่จำเป็นใช้ระหว่างการบิน เช่น น้ำเกลือล้างตา ยาหยอดตา ให้แยกใส่ carry-on แต่หากเป็นของใช้ประจำวันในปริมาณมาก เช่น แชมพู 1 ลิตร ให้ โหลดใต้เครื่อง
ควรใช้ขวดหรือบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกหนา หรือขวดที่มีฝาล็อกแน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วซึม
ก่อนใส่ลงกระเป๋า ควรใส่ซิปล็อก หรือห่อด้วยถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง เพื่อกันการไหลซึมเลอะเสื้อผ้า
ควรใส่ของเหลวในช่องที่แยกต่างหาก เช่น ช่องด้านนอกของกระเป๋าเดินทาง หรือใช้กระเป๋าเครื่องสำอางแบบกันน้ำ
บางสายการบินอาจมีกฎพิเศษ เช่น จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่บรรทุก หรือห้ามโหลดสเปรย์บางประเภท
สาเหตุที่ต้องควบคุม ของเหลวโหลดใต้เครื่อง มาจากประเด็นเรื่อง ความปลอดภัยการบิน และ ป้องกันเหตุร้าย เช่น
ป้องกันการลักลอบนำวัตถุอันตรายหรือสารเคมีขึ้นเครื่อง
ลดความเสี่ยงจากการระเบิดหรือไฟไหม้ภายในช่องเก็บสัมภาระ
ควบคุมไม่ให้เกิดการรั่วไหลที่สร้างความเสียหายแก่สัมภาระอื่น ๆ
การปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางราบรื่น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องบินด้วย
ได้ สามารถโหลดได้ ไม่จำกัดปริมาณ แต่ควรบรรจุในขวดที่ปิดแน่นและแข็งแรง
โหลดได้ แต่ควรเก็บอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำหอมเป็นของเหลวที่ติดไฟได้ แต่หากอยู่ในปริมาณสำหรับใช้ส่วนตัวถือว่าอนุญาต
โหลดได้ไม่เกิน 5 ลิตรต่อคน และความเข้มข้นไม่เกิน 70%
โหลดได้ แต่ไม่เกินกระป๋องละ 500 มล. และรวมไม่เกิน 2 กิโลกรัม
ควรพกขึ้นเครื่อง และควรมีใบรับรองแพทย์แนบด้วยหากเป็นยาสำคัญ
โดยสรุปแล้ว ของเหลวโหลดใต้เครื่องไม่จำกัดปริมาณรวม แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข เช่น ไม่ใช่วัตถุไวไฟ ไม่เกินดีกรีแอลกอฮอล์ที่กำหนด และต้องบรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท การเข้าใจกฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดกระเป๋าเดินทางได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องเสี่ยงถูกยึดของที่สนามบิน ดังนั้นก่อนเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจสอบข้อกำหนดของสายการบิน และจัดกระเป๋าให้เหมาะสม จะได้ไม่เสียเวลา ไม่เสียของ และไม่เสียอารมณ์
แม้คุณจะปฏิบัติตามกฎของเหลวโหลดใต้เครื่องอย่างเคร่งครัดแล้ว แต่การเดินทางยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น กระเป๋าสูญหาย เที่ยวบินล่าช้า หรือเจ็บป่วยกะทันหันในต่างประเทศ ดังนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การทำประกันเดินทาง ประกันเดินทางจะช่วยคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาล กรณีฉุกเฉิน ตลอดจนชดเชยความเสียหายหากสัมภาระสูญหาย ทำให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจมากขึ้น เช็กเบี้ยประกันเดินทาง กับ TQM แล้วเลือกแบบที่ใช่สำหรับทริปของคุณได้ทันที หรือปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อมูลการเดินทาง
เส้นทางการเดินทาง *
รูปแบบการเดินทาง *
จำนวนคนเดินทางทริปนี้
ประเทศปลายทาง *
วันเดินทางไป *
วันเดินทางกลับ *