เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลการเดินทาง
เส้นทางการเดินทาง *
รูปแบบการเดินทาง *
จำนวนคนเดินทางทริปนี้
ประเทศปลายทาง *
วันเดินทางไป *
วันเดินทางกลับ *
|
อ่านแล้ว 82 ครั้ง
การเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อท่องเที่ยว ทำงาน หรือไปเยี่ยมครอบครัว ล้วนต้องมีการเตรียมตัวหลายอย่าง ทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพลนการท่องเที่ยว และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่หลายคนมักมองข้ามก็คือ ประกันเดินทาง เพราะการเดินทางต่างแดนมักมีความไม่แน่นอนและเสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วยเฉียบพลัน การเลื่อนหรือยกเลิกไฟลต์ หรือแม้แต่ปัญหาสัมภาระหาย การมีประกันเดินทางจึงช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ามี “ตัวช่วย” คอยคุ้มครองหากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
แต่สิ่งที่นักเดินทางหลายคนยังสงสัยและอาจทำให้เกิดความผิดพลาดคือ ประกันการเดินทาง นับวันอย่างไร และหากการเดินทางนั้นเป็นแบบ เดินทางข้ามวัน เช่น ออกเดินทางช่วงกลางคืนหรือกลับถึงไทยหลังเที่ยงคืน ต้องซื้อแผนแบบไหนถึงจะครอบคลุมครบถ้วน วันนี้พี่หมี TQM จะมาอธิบายแบบละเอียดเพื่อให้เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง
ประกันเดินทาง คือกรมธรรม์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองผู้เดินทางในระหว่างที่อยู่นอกประเทศ โดยมีระยะเวลาคุ้มครองชัดเจนตั้งแต่วันเริ่มเดินทางจนถึงวันกลับเข้าประเทศ ความคุ้มครองประกันเดินทางนี้มักครอบคลุมในหลายกรณี เช่น
การรักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุในต่างประเทศ ซึ่งค่าใช้จ่ายมักสูงกว่าที่ไทยหลายเท่า
ความคุ้มครองเมื่อไฟลต์ถูกยกเลิกหรือล่าช้า ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การคุ้มครองเมื่อกระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินสูญหาย เสียหาย หรือถูกโจรกรรม
กรณีที่ต้องยกเลิกทริปเนื่องจากเหตุฉุกเฉิน เช่น การเจ็บป่วยก่อนเดินทาง
การทำประกันเดินทางจึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นการลงทุนเพื่อความอุ่นใจ เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิดจริง ๆ ค่าเบี้ยเพียงไม่กี่ร้อยบาทอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหลักหมื่นหรือหลักแสนบาทได้
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่คนทำประกันเดินทางมักสงสัยคือ นับวันคุ้มครองอย่างไร ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องคือ บริษัทประกันจะนับตาม วันปฏิทิน (Calendar Day) โดยถือว่า 1 วันคือช่วงเวลา 00.00 – 23.59 น. ของวันนั้น ไม่ได้คิดตามจำนวนชั่วโมงที่คุณเดินทางจริง
ตัวอย่างเช่น หากคุณออกเดินทางเวลา 23.00 น. ของวันที่ 1 เมษายน ประกันจะถือว่าเริ่มคุ้มครองตั้งแต่เวลานั้น และวันดังกล่าวถูกนับเป็น 1 วันเต็ม ถึงแม้ว่าคุณจะเหลือเวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงก็ตาม
หากคุณกลับถึงไทยตอนเช้า เช่น 06.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน ประกันจะถือว่าวันที่ 7 คืออีก 1 วันคุ้มครองเต็มวันเช่นกัน ดังนั้น หากทริปนี้กินเวลา 7 วันจริง ๆ ก็ต้องซื้อประกันเดินทางคุ้มครองทั้งหมด 7 วัน
หลายคนเข้าใจผิดว่าประกันเดินทางอาจนับเป็นรายชั่วโมง เช่น เดินทาง 60 ชั่วโมงก็ควรซื้อแค่ 3 วัน แต่ความจริงแล้วบริษัทประกันจะนับเป็น “วันปฏิทิน” เท่านั้น เพื่อความง่ายในการคำนวณและชัดเจนในการคุ้มครอง
อีกหนึ่งสถานการณ์ที่พบบ่อยคือการเดินทางที่มีการ ข้ามวัน เช่น ออกเดินทางคืนวันศุกร์และไปถึงปลายทางเช้าวันเสาร์ หรือบินกลับถึงไทยหลังเที่ยงคืน ซึ่งหลายคนสับสนว่าต้องซื้อกี่วันถึงจะครอบคลุม
หากคุณออกเดินทางเวลา 23.30 น. ของวันที่ 1 เมษายน ถึงปลายทางวันที่ 2 เมษายน คุณต้องซื้อประกันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เพราะถือว่าเป็นวันออกเดินทางจริง แม้จะเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องนับ
เช่น ไฟลต์กลับถึงไทยเวลา 00.30 น. ของวันที่ 6 เมษายน คุณต้องซื้อประกันคุ้มครองถึงวันที่ 6 ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าตลอดเส้นทางการเดินทางกลับยังมีความคุ้มครอง
บางครั้งไฟลต์ล่าช้าจนทำให้เดินทางกลับช้ากว่ากำหนด หากไม่ได้เผื่อวันคุ้มครองไว้ ประกันอาจไม่จ่าย ดังนั้นควรซื้อเผื่อวันสุดท้ายเพิ่มเพื่อความอุ่นใจ
ทริปญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน
ออกเดินทาง 1 มิ.ย. เวลา 22.00 น.
กลับถึงไทย 5 มิ.ย. เวลา 23.30 น.
ต้องซื้อประกันเดินทาง 5 วัน (1–5 มิ.ย.)
ทริปเกาหลี 7 วัน 6 คืน
ออกเดินทาง 10 ธ.ค. เวลา 23.55 น.
กลับถึงไทย 16 ธ.ค. เวลา 00.30 น.
ต้องซื้อประกันเดินทาง 7 วัน (10–16 ธ.ค.)
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า แม้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในบางวัน แต่ประกันก็ยังนับเป็นวันเต็ม
การเลือกจำนวนวันที่เหมาะสมถือว่าสำคัญมาก เพราะหากซื้อวันน้อยเกินไปแล้วเกิดเหตุในวันสุดท้าย ประกันจะไม่คุ้มครอง ซึ่งอาจทำให้คุณต้องจ่ายค่ารักษาหรือค่าเสียหายเอง
เริ่มนับจาก วันเดินทางออกจากไทย ไม่ใช่วันที่ถึงปลายทาง
คุ้มครองถึง วันเดินทางกลับถึงไทย
หากไฟลต์กลับดึกหรือหลังเที่ยงคืน ควรเผื่อวันเพิ่มอีก 1 วันเพื่อความมั่นใจ
ค่าประกันส่วนต่างของ 1 วันมักไม่แพง แต่ความอุ่นใจที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่ามาก
นอกจากเรื่องการนับวันแล้ว อีกคำถามที่คนซื้อประกันเดินทางมักเจอคือ จะเลือกแบบ รายเที่ยว (Single Trip) หรือ รายปี (Annual Plan) ดี
แบบรายเที่ยว: เหมาะกับผู้ที่เดินทางปีละ 1–2 ครั้ง เช่น ทริปท่องเที่ยวพักร้อนหรือไปเยี่ยมครอบครัว ค่าเบี้ยถูกและคุ้มครองเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนด
แบบรายปี: เหมาะกับคนที่เดินทางบ่อย เช่น นักธุรกิจ นักศึกษาต่างชาติ หรือผู้ที่มีทริปหลายครั้งต่อปี ไม่ต้องซื้อซ้ำทุกครั้ง ประหยัดและสะดวกกว่าในระยะยาว
ห้ามซื้อน้อยกว่าวันจริง เพราะหากเกิดเหตุในวันสุดท้ายที่ไม่ได้ซื้อไว้ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
เลือกวันเริ่มให้ถูกต้อง ต้องตรงกับวันออกเดินทางจริง ไม่ใช่วันถึงปลายทาง
ตรวจสอบเงื่อนไขของแต่ละบริษัท เนื่องจากบางแห่งอาจมีรายละเอียดการนับเวลาแตกต่างกัน
ซื้อก่อนเดินทางเท่านั้น หากซื้อหลังออกเดินทางแล้ว ประกันจะไม่คุ้มครองย้อนหลัง
คำตอบที่ชัดเจนคือ ประกันการเดินทางนับวันเป็นวันปฏิทิน เริ่มตั้งแต่วันออกเดินทางจากไทยจนถึงวันที่กลับถึงไทย หากเดินทางข้ามวัน เช่น ออกเดินทางดึกหรือกลับหลังเที่ยงคืน ก็ต้องซื้อเผื่อวันเพิ่มเพื่อให้ครอบคลุมทุกช่วงเวลา การลงทุนเพิ่มค่าเบี้ยอีกเล็กน้อย แต่ได้ความคุ้มครองเต็มที่ย่อมดีกว่าความเสี่ยงที่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
หากคุณกำลังวางแผนเดินทาง ไม่ว่าจะไปญี่ปุ่น เกาหลี หรือประเทศใด ๆ อย่าลืมตรวจสอบจำนวนวันให้ตรงและซื้อประกันเดินทางให้ครอบคลุมครบทุกวันของทริป คุณสามารถ เช็กเบี้ยประกันเดินทาง ได้ง่าย ๆ กับ TQM หรือโทร. 1737 เพื่อปรึกษาพี่หมี TQM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำแนะนำและช่วยเลือกแผนที่เหมาะกับการเดินทางของคุณ
ข้อมูลการเดินทาง
เส้นทางการเดินทาง *
รูปแบบการเดินทาง *
จำนวนคนเดินทางทริปนี้
ประเทศปลายทาง *
วันเดินทางไป *
วันเดินทางกลับ *