10 อันดับเมืองอากาศดีที่สุดในโลก

     สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 นอกจากประเทศไทยแล้ว ในหลายๆประเทศทั่วโลกก็มีค่าฝุ่นสูงไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีอีกหลายเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองอากาศดีที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการจัดรวบรวมรายงานคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์  IQ AIR วันนี้พี่หมี TQM เลยได้รวบรวม 10 เมืองอากาศดี อากาศสะอาดที่สุดในโลก (ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา13.29น.) มาฝากเพื่อนๆ กันในวันนี้ครับ

ปักพิกัด 10 เมืองอากาศดีที่สุดในโลก เหมาะแก่การไปเที่ยว

1. Portland, USA

     พอร์ตแลนด์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองร่มรื่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตัวอาคารบ้านเมือง ธรรมชาติสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองของความเป็น Hipster อีกด้วย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่พอร์ตแลนด์ นั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็น WASHINGTON PARK สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นบนเนินเขาที่ภายในรวบรวมไว้ทั้งสวนกุหลาบนานาชาติ , พิพิธภัณฑ์ , สวนสัตว์  รวมไปถึง PORTLAND JAPANESE GARDEN สวนที่จัดสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม รู้สึกถึงความร่มรื่น ให้เราได้เดินสูดอากาศได้อย่างเต็มปอดเลยทีเดียว

2. Sydney, Australia

     อีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ อย่างซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาหลายเมืองในออสเตเลียยังติดอันดับเมืองอากาศที่ดีที่สุดในโลกโดยมี วันอากาศดีติดต่อกันทุกวันทั้ง 365 วันในเมือง  Perth, Wollongong, Sydney, Newcastle, Adelaide และเมือง Canberra มีอากาศดีติดต่อกัน 364 วัน สำหรับสถานที่ยอดฮิตใน Sydney คงหนีไม่พ้น Opera House , Sydney Harbour Bridge , สวนพฤกษศาสตร์หลวง ซิดนีย์ และ Bondi Icebergs เป็นต้น

3. Montreal, Canada

     สำหรับมอนทรีออล เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศแคนาดา รองจากเมือง Toronto เมืองมอนทรีออลเคยถูกจัดอันดับเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในโลก ในปี 2007 และยังเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากชาวฝรั่งเศสอีกด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็จะมี The Montreal Museum of Fine Arts , Montreal Botanical Garden , Old Montreal และ Notre-Dame Basilica of Montreal เป็นต้น

4. Canberra, Australia

     มาต่อกันที่เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย อย่างแคนเบอร์รา ที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศดีไม่แพ้กันโดยในปี 2566 มีวันที่อากาศดีไปแล้ว 364 วันเลยทีเดียว ในแคนเบอร์ราเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมายไม่ว่าจะเป็น ศูนย์กลางทางการเมืองของออสเตรเลีย , พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ , National Library of Australia และ Mount Ainslie เป็นต้น

5. Salt Lake City, USA

     ซอลต์เลกซิตี เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพ ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังมีพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ และเป็นเมืองที่ต้องถูกใจนักสกีอีกด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดฮิตก็จะมี Temple Square , Natural History Museum of Utah , Liberty Park และGreat Salt Lake เป็นต้น

6. Sao Paulo, Brazil

     เซาเปาโล  ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศบราซิล เป็นเมืองที่เ๖มไปด้วยความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเขตป่าสงวนที่สวยงาม เมืองบนเนินเขา ชายหาดที่สวยงามที่เหมาะแก่การเล่นกีฬาทางน้ำ พิพิธภัณฑ์ฟุตบอล สนามกีฬาขนาดใหญ่มากมาย โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดฮิตก็จะมี Parque Ibirapuera , Monumento às Bandeiras , Museu do Futebol และชายหาด Segunda Praia เป็นต้น

7. Minneapolis, USA

     มินนีแอโพลิส เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ Minnesota ของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังตั้งติดกับเมืองเซนต์ปอลที่เป็นเมืองหลวงของรัฐ Minnesota อีกด้วย มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Minnehaha Falls , Minneapolis Institute of Art , Minneapolis Sculpture Garden และ Stone Arch Bridge เป็นต้น

8. London, United Kingdom

     อีกหนึ่งเมืองที่หลายคนจะรู้จักกันดีก็คือ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งเมืองที่สำคัญของโลกในด้านของธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม โดยที่ลอนดอนก็เคยประสบปัญหากับคุณภาพอากาศที่แย่มาก่อน แต่เพียงไม่กี่ปีได้พลิกกลายเป็นประเทศที่มีอากาศที่สะอาด โดยแลนมาร์คสำคัญที่คนมักจะไปเมื่อถึงลอนดอนคงหนีไม่พ้น Houses of Parliament ที่เป็นจุดที่ตั้งของหอนาฬิกาBig Ben , เข้าชมความสวยงามของ Buckingham Palace และชม British Museum เป็นต้น

9. Toronto, Canada

     เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศสะอาด รวมไปถึงน้ำประปาที่สะอาดที่สามารถทานได้จากก๊อกน้ำได้เลย โดยสถานที่ยอดฮิตที่หลายคนรู้จักก็คือ น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls) , ตึก CN Tower , Bluffers Park และToronto Islands เป็นต้น

10. Melbourne, Australia

     ปิดท้ายกันที่เมืองเมลเบิร์นเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในเมืองที่อากาศดี 365 วันต่อปี โดยสถานที่ยอดฮิตการไปนั่งรถไฟห้อยขา Puffing Billy Railway , จุดชมวิว Melbourne , Royal Botanic Gardens Victoria - Melbourne Garden และ Yarra Valley & The Dandenongs เป็นต้น

     เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 10 อันดับเมืองอากาศดีที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาฝุ่น PM 2.5 นั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เราควรต้องป้องกันตัวเองจากฝุ่นPM 2.5 อยู่เสมอ เพราะหากเราสูดดมฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ และหากใครอยากไปสูดอากาศดีๆตามพิกัดประเทศเหล่านี้ละก็อย่าลืมที่จะทำประกันการเดินทาง ที่ TQM เพื่อนๆ สามารถค้นหา เปรียบเทียบราคาประกันการเดินทาง จากบริษัทประกันชั้นนำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกัน  หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM สามารถแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านเบอร์ Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ