30/05/68

|

อ่านแล้ว 53 ครั้ง

อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ แบบไหนประกันไม่คุ้มครอง เช็กให้ชัวร์ก่อนติดตั้ง

     การตกแต่งรถยนต์ให้ดูสวยโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสิ่งที่คนรักรถหลายคนชื่นชอบ แต่รู้หรือไม่ว่า มีอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์บางประเภทที่ประกันภัยรถยนต์จะไม่คุ้มครอง ดังนั้นหากคุณกำลังคิดจะตกแต่งรถยนต์ควรรู้ไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความเสียหายที่อาจไม่ได้รับการชดเชยจากประกัน วันนี้พี่หมี TQM จะพามาเช็กกันว่าอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ แบบไหนที่ประกันจะไม่คุ้มครอง กันครับ

ตกแต่งรถยนต์ ประกันไม่คุ้มครองจริงไหม

อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ คืออะไร

     อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ คือ อุปกรณ์เพิ่มเติมที่ถูกติดตั้งเสริมเข้าไปในรถยนต์นอกเหนือจากอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน โดยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อความสวยงาม ความสะดวกสบาย หรือเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

 

    • กลุ่มเพื่อความสวยงาม เช่น สปอยเลอร์ ชุดแต่ง สเกิร์ตรอบคัน สติ๊กเกอร์ตกแต่ง
    • กลุ่มเพื่อเพิ่มสมรรถนะ เช่น ล้อแม็กซ์ ยางแต่ง ท่อไอเสียแบบแต่ง
    • กลุ่มอุปกรณ์เสริมเพื่อความสะดวก เช่น เครื่องเสียง จอแสดงผล ระบบ GPS กล้องติดรถยนต์

 

ตกแต่งรถยนต์ ประกันไม่คุ้มครองจริงไหม

     ประกันรถยนต์ส่วนใหญ่จะคุ้มครองเฉพาะอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน หรือที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น หากมีการติดตั้งของแต่งรถ โดยไม่ได้แจ้งบริษัทประกันไว้ล่วงหน้า ก็อาจถือว่าเป็นการละเว้นข้อมูลสำคัญ ส่งผลให้เมื่อเกิดเหตุ บริษัทประกันสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้

 

     รวมไปถึงหากตกแต่งแล้วผิดกฎหมาย หรือทำให้รถไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น โหลดต่ำหรือยกสูงเกินกำหนด , เปลี่ยนท่อไอเสียเสียงดังเกินมาตรฐาน , ดัดแปลงไฟรถหรือทะเบียนผิดกฎหมาย , เปลี่ยนสีรถโดยไม่ได้แจ้งกรมขนส่งทางบก เป็นต้น

ตกแต่งรถยนต์ ประกันไม่คุ้มครอง

ตกแต่งรถยนต์ แบบไหนที่ประกันไม่คุ้มครอง

     การตกแต่งรถยนต์บางประเภทอาจทำให้ บริษัทประกันปฏิเสธความคุ้มครองได้ หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายขึ้น โดยเฉพาะหากไม่ได้แจ้งบริษัทประกันภัยล่วงหน้า หรือมีการดัดแปลงผิดกฎหมาย ดังนั้นมาดูให้ชัดเจนว่า การตกแต่งรถยนต์แบบไหนบ้างที่ประกันไม่คุ้มครอง และมีผลกระทบอย่างไร

 

1. เปลี่ยนสีรถยนต์ทั้งคัน โดยไม่ได้แจ้งกรมขนส่ง

     การเปลี่ยนสีรถยนต์ทั้งคัน เช่น จากสีขาวเป็นดำ หรือจากน้ำเงินเป็นแดง หากเจ้าของรถไม่แจ้งเปลี่ยนแปลงสีรถที่กรมการขนส่งฯ ภายใน 7 วันหลังจากที่เปลี่ยนสี ถือว่า ผิดกฎหมาย มีโทษปรับ เพราะข้อมูลทะเบียนไม่ตรงกับความเป็นจริง แลกะกรณีเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันจะมองว่า ข้อมูลในเล่มทะเบียนไม่ตรงกับสภาพรถจริง ทำให้ประกันอาจปฏิเสธการเคลมได้นั่นเอง

 

2. การดัดแปลงป้ายทะเบียน

     การดัดแปลงป้ายทะเบียนรถ เช่น การเปลี่ยนแปลงตัวเลขหรือตัวอักษรบนป้ายทะเบียน หรือการติดสติ๊กเกอร์ที่ปิดบังข้อมูลสำคัญบนป้ายทะเบียน ทำให้รถไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ป้ายทะเบียนถือเป็นเอกสารราชการ หากมีการดัดแปลง ถือว่าผิดกฎหมาย และอาจเป็นการจงใจปกปิดหรือหลอกลวง หากรถหายหรือเกิดอุบัติเหตุ อาจไม่สามารถตรวจสอบตัวตนรถได้อย่างถูกต้อง ทำให้บริษัทประกันสงวนสิทธิ์ในการจ่ายค่าชดเชย

 

3. การเปลี่ยนสีไฟรถยนต์

     ตามตามกฎหมาย ไฟหน้า ต้องเป็น สีขาว/เหลืองอ่อน , ส่วนไฟเลี้ยว ต้องเป็นสีเหลือง และไฟท้ายหรือไฟเบรก ต้องเป็นสีแดง หากมีการเปลี่ยนไฟรถให้เป็นสีแปลก เช่น สีม่วง สีฟ้า หรือไฟหน้าขาวจ้าถือว่าผิดกฎหมาย หากเกิดเหตุจากไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ไฟสว่างเกินไปจนอาจทำให้รถอื่นมองไม่เห็นทาง ประกันอาจพิจารณาไม่รับผิดชอบเพราะเป็นการดัดแปลงรถจนเพิ่มความเสี่ยง

 

4. การดัดแปลงท่อไอเสีย

     การดัดแปลงท่อไอเสีย เสียงดังเกิน 100 เดซิเบล หรือเปลี่ยนเป็นปลายแหลม ไม่มีตัวกรองควัน นอกจากรบกวนเพื่อนบ้านแล้ว ยังผิดกฎหมายและผิดเงื่อนไขประกันอีกด้วย ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วพบว่าเกิดจากความผิดพลาดของท่อ หรือเป็นส่วนที่ดัดแปลงจนทำให้รถไม่ปลอดภัย ประกันอาจไม่จ่ายในส่วนนี้

 

5. การดัดแปลงเครื่องยนต์

     การดัดแปลงเครื่องยนต์ เช่น การเพิ่มกำลังเครื่องยนต์หรือการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้เป็นรุ่นที่แรงขึ้น ทำให้รถไม่อยู่ในสภาพมาตรฐานของผู้ผลิต แม้จะช่วยให้รถแรงขึ้น แต่ถือว่าเปลี่ยนโครงสร้างสำคัญของรถ การปรับแต่งเครื่องยนต์ที่ผิดมาตรฐานโรงงาน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น และบริษัทประกันมักจะไม่รับผิดชอบความเสียหายจากการดัดแปลงนี้

 

6. การโหลดรถต่ำ หรือ ยกรถสูง

     การโหลดรถต่ำจน ต่ำกว่า 40 เซนติเมตรจากพื้นถนน หรือ ยกรถสูงเกิน 175 เซนติเมตร ถือเป็นการตกแต่งรถยนต์ที่ผิดกฎหมาย และทำให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น บริษัทประกันจะถือว่าเป็นการดัดแปลงที่ผิดมาตรฐานความปลอดภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะ ไม่คุ้มครองค่าเสียหาย

ตกแต่งรถยนต์ แบบไหนที่ประกันไม่คุ้มครอง

     แม้ว่าการติดตั้ง อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ จะทำให้รถดูสวยงามและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องการตกแต่งรถยนต์ที่ทำให้ประกันไม่คุ้มครองด้วย เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น อาจทำให้คุณต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูงเอง ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตกแต่งรถยนต์ ควรศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์อย่างละเอียด และแจ้งบริษัทประกันและกรมขนส่งทางบกทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ที่รักของคุณจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่

 

     และอย่าลืมที่จะมีประกันรถยนต์ ที่จะช่วยแบ่งเบาค่าซ่อมได้เบาใจขึ้น โดยสามารถกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นนำ กับ TQM พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย หรือต้องการพูดคุย ปรึกษาเรื่องประกันภัย แชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยโทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง