ใบขับขี่รถหาย ต้องทำอย่างไร ถ้าเกิดอุบัติเหตุแจ้งเคลมประกันได้ไหม

    ใบขับขี่ หรือที่เรียกว่าใบอนุญาตขับรถ ถือเป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนต้องมีติดตัวไว้เสมอ เพราะเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความสามารถและสิทธิ์ในการขับขี่รถยนต์ตามกฎหมาย หากใบขับขี่สูญหาย ผู้ขับขี่อาจพบกับปัญหาทางกฎหมายและการเคลมประกันรถยนต์ได้ วันนี้พี่หมี TQM ขอแนะนำขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเมื่อใบขับขี่หาย รวมถึงผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

ใบขับขี่หายต้องทำอย่างไรบ้าง?

    ในกรณีที่ใบขับขี่หาย ผู้ขับขี่สามารถดำเนินการขอใบขับขี่ใหม่ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ (เฉพาะกรณีใบขับขี่ส่วนบุคคล) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

 

1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue

    ผู้ขับขี่สามารถจองคิวออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ของกรมการขนส่งทางบกได้ เพื่อเลือกวันและเวลาที่สะดวกในการดำเนินการขอใบขับขี่ใหม่

 

2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

• บัตรประชาชนตัวจริง
• กรณีเป็นใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ต้องมีใบแจ้งความจากสถานีตำรวจแนบมาด้วย

 

3. ติดต่อกรมการขนส่งทางบก

    ผู้ขับขี่ต้องไปที่กรมการขนส่งทางบกในวันและเวลาที่จองไว้ พร้อมเอกสารที่เตรียมมา

 

4. ชำระค่าธรรมเนียม

    การขอใบขับขี่ใหม่มีค่าธรรมเนียมดังนี้

 

• ใบขับขี่ชั่วคราว (2 ปี) 205 บาท
• ใบขับขี่ส่วนบุคคล (5 ปี) 505 บาท
• ใบขับขี่สาธารณะ (3 ปี) 305 บาท

 

กรณีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ

    สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะ เช่น รถแท็กซี่หรือรถโดยสารประจำทาง การดำเนินการจะแตกต่างจากใบขับขี่ส่วนบุคคล ผู้ขับขี่จะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันก่อน จากนั้นให้นำใบแจ้งความ พร้อมบัตรประชาชนไปยื่นคำขอที่กรมการขนส่งทางบก

ใบขับขี่หายส่งผลต่อการเคลมประกันรถยนต์อย่างไร?

    การไม่มีใบขับขี่ในขณะขับรถยนต์อาจส่งผลต่อสิทธิ์ในการเคลมประกันรถยนต์ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยเงื่อนไขจะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกันภัยและสถานการณ์ ดังนี้

 

กรณีไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด

    หากผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันจะรับผิดชอบเฉพาะค่าเสียหายของคู่กรณีเท่านั้น ส่วนความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของผู้เอาประกัน ผู้ขับขี่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ส่วนการไม่มีใบขับขี่จะส่งผลให้ผู้ขับขี่ต้องถูกปรับตามกฎหมายจราจรเพิ่มเติม

 

กรณีไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายถูก

    ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายถูก หากทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1, 2+ หรือ 3+ บริษัทประกันจะคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ของผู้เอาประกันตามเงื่อนไข และจะเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีแทน อย่างไรก็ตาม การไม่มีใบขับขี่อาจทำให้ผู้ขับขี่ได้รับโทษตามกฎหมายจราจร

 

กรณีไม่มีประกันรถยนต์

    หากผู้ขับขี่ไม่มีประกันรถยนต์ การไม่มีใบขับขี่จะทำให้ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตัวเอง รวมถึงอาจไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีได้เต็มจำนวน นอกจากนั้นการไม่มีใบขับขี่ยังเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่ถูกปรับตามกฎหมายอีกด้วย

เคล็ดลับป้องกันปัญหาเมื่อใบขับขี่หาย

1. ทำใบขับขี่ใหม่โดยเร็วที่สุด

    อย่าปล่อยให้ปัญหาใบขับขี่หายกลายเป็นเรื่องใหญ่ รีบดำเนินการขอใบขับขี่ใหม่ที่กรมการขนส่งทางบกทันที

 

2. ใช้ใบขับขี่ดิจิทัล

    ปัจจุบัน ผู้ขับขี่สามารถใช้ใบขับขี่ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน DLT QR Licence ซึ่งสามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่แทนใบขับขี่จริงได้

 

3. พกเอกสารสำรอง

    เตรียมสำเนาใบขับขี่หรือภาพถ่ายใบขับขี่ไว้ในรถเพื่อเป็นเอกสารสำรองในกรณีฉุกเฉิน

 

4. มีประกันรถยนต์ติดรถไว้เสมอ

    การทำประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความอุ่นใจในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

 

     เมื่อใบขับขี่หาย ควรรีบดำเนินการขอใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและผลกระทบต่อการเคลมประกันรถยนต์ นอกจากนี้ การทำประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมจะช่วยให้คุณได้รับการคุ้มครองในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน

 

    หากคุณสนใจแผนประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า สามารถกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาประกันรถยนต์ หรือติดต่อ พี่หมี TQM เพื่อขอคำปรึกษาหรือค้นหาแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ พร้อมรับบริการตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน Hotline 1737 ได้เลยครับ