เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
รายละเอียดที่อยู่อาศัย
เลือกประเภทที่อยู่อาศัย *
บ้านเดี่ยว
บ้านแฝด
ทาวน์โฮม
คอนโด
ตึกแถว
โครงสร้างบ้าน *
จำนวนชั้น *
ลักษณะการใช้งานบ้าน *
ตำแหน่งบ้านของคุณ *
|
อ่านแล้ว 255 ครั้ง
เมื่อฤดูฝนมาถึง หลายพื้นที่ในประเทศไทยโดยเฉพาะเขตภาคกลาง ภาคเหนือ และกรุงเทพฯ มักต้องเผชิญกับ "น้ำท่วม" ที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า และหนึ่งในวิธีรับมือความเสี่ยงได้ดีที่สุดก็คือ “ประกันน้ำท่วม” ในบทความนี้ พี่หมี TQM จะพาเช็กลิสต์ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ ประกันอุทกภัยบ้าน ว่าคืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง และควรเลือก ประกันภัยน้ำท่วมที่ไหนดี ถึงจะคุ้มค่าที่สุด พร้อมวิธีเลือกแบบเจาะลึกให้บ้านของคุณปลอดภัยจากภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างแท้จริง
ประกันน้ำท่วม (Flood Insurance) คือ ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้านและทรัพย์สินภายใน จากเหตุการณ์ “น้ำท่วม” ซึ่งรวมถึงการท่วมฉับพลันจากฝนตกหนัก น้ำจากคลองล้นฝั่ง หรือแม้กระทั่งภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง พายุโซนร้อน ฯลฯ
แม้ประกันบ้านแบบทั่วไปจะให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้และภัยอื่น ๆ บางประเภท แต่ในหลายกรณี ภัยน้ำท่วม อาจไม่รวมอยู่ในความคุ้มครองหลัก จึงต้องซื้อความคุ้มครองเสริม หรือเลือกทำ ประกันอุทกภัยบ้าน โดยเฉพาะ
ก่อนเลือกซื้อ ประกันภัยน้ำท่วมบ้าน ควรตรวจสอบว่าประกันนั้น ๆ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมหรือไม่ โดยสามารถเช็กจากลิสต์ต่อไปนี้
คุ้มครองตัวอาคารจากน้ำท่วม
คุ้มครองทรัพย์สินภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
คุ้มครองค่าใช้จ่ายชั่วคราว เช่น ค่าที่พักในช่วงซ่อมบ้าน
วงเงินคุ้มครองเพียงพอ ไม่ต่ำจนเกินไป
คุ้มครองภัยธรรมชาติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ลมพายุ ดินถล่ม
หลายคนมองข้ามรายละเอียดของข้อยกเว้น แต่เป็นสิ่งสำคัญ เช่น
ไม่คุ้มครองทรัพย์สินที่อยู่ในชั้นใต้ดิน
ไม่คุ้มครองความเสียหายจากน้ำซึม หรือความชื้นสะสม
ไม่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมที่เกิดจากการตั้งอยู่ในพื้นที่ต้องห้ามหรือไม่เหมาะสม
หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ การมี ประกันน้ำท่วม ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยเฉพาะเขตฝั่งธนบุรี
จังหวัดในภาคกลาง เช่น อยุธยา ปทุมธานี นครสวรรค์
จังหวัดภาคเหนือที่ติดแม่น้ำ เช่น เชียงราย ลำพูน
พื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
แม้จะไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ แต่หากบ้านตั้งอยู่ใกล้คลอง ลำธาร หรือพื้นที่ต่ำ ควรมี ประกันภัยน้ำท่วม ติดไว้เสมอ เพราะน้ำมาเร็ว เสียหายหนัก ไม่คุ้มถ้าต้องซ่อมเอง
บริษัทประกันบางแห่งให้ความคุ้มครองสูงถึง 1,000,000 บาทต่อเหตุการณ์ ขณะที่บางเจ้าจำกัดไว้ที่ 100,000 – 500,000 บาท
เบี้ยประกันภัยน้ำท่วมเริ่มต้นเพียงปีละไม่กี่ร้อยบาท (สำหรับความคุ้มครองพื้นฐาน) ไปจนถึงหลายพันบาท (สำหรับความคุ้มครองเต็มรูปแบบ)
เลือกบริษัทที่มีระบบเคลมออนไลน์ หรือมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลตลอด 24 ชม. จะอุ่นใจกว่า
บางแผนจะรวมภัยอื่น ๆ เช่น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ลมพายุ หรือแม้กระทั่งภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ซึ่งนับว่าคุ้มค่าและเหมาะกับคนที่อยากได้ความคุ้มครองแบบรอบด้าน
ถ้าเป็นประกันอัคคีภัยที่แนบมากับสินเชื่อบ้าน มักไม่คุ้มครองน้ำท่วม ต้องซื้อแยกเอง
คุ้มครองเฉพาะของที่ได้รับความเสียหายจริง และอยู่ในพื้นที่ที่น้ำท่วมถึง
ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของพื้นที่ ขนาดบ้าน วงเงินคุ้มครอง และประวัติน้ำท่วมย้อนหลัง
การมี ประกันน้ำท่วม เปรียบเหมือน “ร่ม” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ชีวิตเปียกปอนจากน้ำท่วมแบบไม่คาดคิด แม้คุณอาจไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมมาก่อน แต่สถานการณ์อากาศในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การมี ประกันภัยน้ำท่วมที่ไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการความคุ้มครองระดับไหน และบ้านของคุณตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่
หากคุณยังลังเล ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน พี่หมีแนะนำให้เริ่มจากการ “เช็กเบี้ยประกันบ้าน” ง่าย ๆ ที่ TQM เพียงกรอกข้อมูลไม่กี่ขั้นตอน ก็จะรู้ว่าคุณสามารถป้องกันบ้านให้ปลอดภัยจาก ประกันภัยพิบัติ ได้ในราคาที่จับต้องได้ หรือปรึกษาพี่หมี TQM โทร. 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดที่อยู่อาศัย
เลือกประเภทที่อยู่อาศัย *
บ้านเดี่ยว
บ้านแฝด
ทาวน์โฮม
คอนโด
ตึกแถว
โครงสร้างบ้าน *
จำนวนชั้น *
ลักษณะการใช้งานบ้าน *
ตำแหน่งบ้านของคุณ *