รถอายุกี่ปี ต้องตรวจสภาพก่อนเสียภาษี

ทำไมต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษี

     การตรวจสภาพรถยนต์เป็นเรื่องที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำ แต่จริงๆ แล้วมีเหตุผลที่สำคัญมากกว่าแค่การทำตามกฎหมาย นั่นก็คือเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและผู้ร่วมใช้ถนนทุกคน โดยมีเหตุผลหลักดังนี้

1. เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานรถยนต์

     รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน อาจมีการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เบรก ยาง ระบบไฟ ระบบช่วงล่าง ซึ่งถ้าหากไม่ตรวจสอบอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ง่ายๆ ดังนั้นการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเสียภาษีจึงเป็นขั้นตอนสำคที่ไม่ควรมองข้าม

2. เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมถนน

     การตรวจสภาพไม่ได้แค่เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เพราะรถที่ไม่ได้ตรวจสภาพแล้วมีปัญหา อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นได้

3. เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

     รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานอาจปล่อยควันพิษเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การตรวจสภาพจะช่วยควบคุมคุณภาพไอเสีย ทำให้รถยนต์ไม่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน

รถกี่ปี ต้องตรวจสภาพก่อนเสียภาษี

     คำถามที่หลายคนยังคงสับสนคือ รถกี่ปี ต้องตรวจสภาพ เพราะแต่ละประเภทของรถยนต์จะมีเกณฑ์การตรวจสภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งมีการกำหนดไว้ดังนี้

1. รถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป

     สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะส่วนบุคคล กรมการขนส่งทางบกกำหนดว่า รถที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป (นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก) ต้องนำไปตรวจสภาพก่อนการชำระภาษีประจำปี

2. รถจักรยานยนต์

     สำหรับรถจักรยานยนต์จะมีเกณฑ์ในการตรวจสภาพที่เร็วกว่า คือ รถจักรยานยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป (นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก) ต้องนำไปตรวจสภาพก่อนชำระภาษีประจำปีเช่นกัน

3. รถที่ค้างชำระภาษีรถเกิน 1 ปี

     สำหรับรถที่มีการค้างค่าภาษีรถเกิน 1 ปี แต่ยังไม่เกิน 3 ปี จะต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ก่อนจึงจะสามารถชำระภาษีต่อได้ ตามข้อกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก

วิธีนับอายุของรถที่ต้องเข้ามาตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษี

• รถยนต์ ที่มีอายุครบ 7 ปี จะต้องตรวจสภาพรถ เช่น รถจดทะเบียน ปี 2562 จะตรวจสภาพรถครั้งแรก ปี 2569
• รถมอเตอร์ไซค์ ที่มีอายุครับ 5 ปี จะต้องตรวจสภาพรถ เช่น รถจดทะเบียน ปี 2564 จะตรวจสภาพรถครั้งแรก ปี 2569

สถานที่ตรวจสภาพรถ

• รถที่เปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไป จากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ (เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนลักษณะรถ เปลี่ยน ชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น)
• รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ (เช่น ไม่ปรากฏตัวเลข ตัวเลขชำรุด หรือมีร่องรอยการแก้ไข ขูด ลบ หรือลบเลือน จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ เป็นต้น)
• รถที่เจ้าของได้แจ้งการไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไปไว้
• รถเก่าที่มีเลขทะเบียนเป็นเลขทะเบียนรุ่นเก่า ( เช่น กท-00001, กทจ-0001 เป็นต้น) ซึ่งรถดังกล่าวต้องเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี
• รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้คืน
• รถที่ได้สิ้นอายุภาษีประจำปี (ขาดต่อทะเบียน) เกิน 1 ปี

ขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเสียภาษี

     เมื่อทราบแล้วว่า รถกี่ปี ต้องตรวจสภาพ มาดูขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์ง่ายๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนนำรถไปต่อภาษีกันครับ

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม

• • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มสีฟ้า) / สมุดคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ (เล่มสีเขียว)
  • บัตรประชาชนเจ้าของรถ (กรณีเจ้าของรถไปด้วยตัวเอง)
  • ใบมอบอำนาจ (กรณีให้ผู้อื่นนำรถไปตรวจ)

2. นำรถเข้าตรวจสภาพที่ ตรอ. หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชน

     สามารถเลือกสถานตรวจสภาพที่ได้รับการรับรอง (ตรอ.) ใกล้บ้านได้เลย โดยค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท ใช้เวลาไม่นานประมาณ 15-30 นาที

3. รับใบรับรองการตรวจสภาพ

     เมื่อรถยนต์ผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้ว จะได้รับใบรับรองผลการตรวจสภาพ (ใบ ตรอ.) นำใบนี้ไปใช้ยื่นเพื่อเสียภาษีประจำปีต่อไปได้เลย

สามารถตรวจสภาพรถล่วงหน้าได้หรือไม่​ ​

ค่าตรวจสภาพรถกี่บาท​

• รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
• รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
• รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

รถตรวจสภาพแล้วไม่ผ่าน ตรอ. ทำอย่างไร

หากไม่ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเสียภาษี จะเกิดอะไรขึ้น

     หากละเลยไม่ตรวจสภาพรถยนต์ตามที่กฎหมายกำหนด จะทำให้ไม่สามารถชำระภาษีรถยนต์ได้ และหากใช้งานรถยนต์ที่ไม่ได้เสียภาษีอาจถูกปรับสูงสุดถึง 2,000 บาท และหากขาดเกิน 3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบว่ารถยนต์ของเรานั้นเข้าข่ายที่ต้องตรวจสภาพหรือไม่ หากเข้าข่ายที่ต้องตรวจสภาพแล้วไม่ทำตามขั้นตอน อาจจะต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และเสี่ยงต่อความปลอดภัยอีกด้วย