11/09/68

|

อ่านแล้ว 208 ครั้ง

รถโดนล็อคล้อ ต้องทำยังไง จ่ายค่าปรับเท่าไหร่ เช็กที่นี่

     หลายคนคงเคยเจอสถานการณ์สุดปวดหัวอย่าง “โดนล็อคล้อ” เพราะจอดรถในที่ห้ามจอดหรือฝ่าฝืนกฎจราจร นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังต้องเสียค่าปรับด้วย แล้วแบบนี้ โดนล็อคล้อ ต้องทำยังไง และ โดนล็อคล้อ จ่ายเท่าไหร่ ถึงจะเอารถกลับมาได้ วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากกันครับ

 

สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับโดนล็อคล้อ

    • ค่าปรับจราจร กรณีจอด/หยุดในที่ห้าม ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มัก ไม่เกิน 500 บาท (เช่น ฝ่าฝืนมาตรา 55, 57 โทษตามมาตรา 148)
    • ค่าใช้จ่ายเครื่องมือ “ล็อคล้อ” ของท้องถิ่น อปท./กทม. กำหนดได้แต่ไม่เกิน 500 บาท/คัน ตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2564 (และกำหนดอัตราลากรถได้—รถไม่เกิน 4 ล้อ สูงสุด 1,500 บาท
    • ช่องทางจ่าย เช็ก/ชำระค่าปรับใบสั่งออนไลน์ได้ที่ PTM e-Ticket ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจ่ายผ่านแอป/เคาน์เตอร์ที่รองรับได้สะดวก
    • ห้ามทำลายหรือถอดที่ล็อคเองเด็ดขาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ความผิดเรื่องเคลื่อนย้าย/ทำลายเครื่องมือของเจ้าพนักงาน)
    • ใบสั่งรูปแบบใหม่ มีผลใช้ 4 สิงหาคม 2568 รายละเอียดบนใบชัดขึ้น/ชำระออนไลน์ง่ายขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ โดนล็อคล้อ มีอะไรบ้าง

สาเหตุที่ทำให้ โดนล็อคล้อ มีอะไรบ้าง

     ก่อนจะไปถึงขั้นตอนแก้ไข มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเพราะสาเหคุอะไร ถึงโดนล็อคล้อ

 

1. จอดรถในที่ห้ามจอด

     หลายครั้งที่ผู้ใช้รถจอดในพื้นที่ที่มีป้ายห้ามจอด เช่น หน้าปากซอย จุดกลับรถ หรือแนวขาว-แดง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ล็อคล้อได้ทันที

 

2. จอดรถกีดขวางทางจราจร

     แม้ไม่มีป้ายห้าม แต่ถ้าการจอดของเราทำให้รถคันอื่นสัญจรไม่ได้ ก็มีสิทธิ์ โดนล็อคล้อ ได้เหมือนกัน

 

3. จอดรถในเขตควบคุมพิเศษโดยไม่ชำระค่าจอด

     บางพื้นที่เช่น เขตในกรุงเทพฯ จะมีการควบคุมพิเศษให้จอดได้เฉพาะผู้ที่จ่ายค่าจอดตามระบบ หากฝ่าฝืนก็อาจถูกล็อคล้อได้เช่นกัน

 

โดนล็อคล้อ ต้องทำยังไง

     เมื่อเจอรถของคุณถูกล็อคล้อ ไม่ควรพยายามงัดแงะหรือถอดออกด้วยตัวเอง เพราะถือเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการและมีความผิดทางกฎหมาย โดยควรดำเนินการดังนี้

 

1. ตรวจใบสั่ง และบันทึกหลักฐาน

    • ถ่ายรูปใบสั่ง และตำแหน่งรถ/ป้ายจราจร เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    • ปกติจะมี ใบสั่งสีขาว (ค่าปรับจราจร) และใบสำหรับ ค่าเครื่องมือบังคับล้อ แยกต่างหาก (หลายพื้นที่ใช้ใบเสร็จสีฟ้า)

 

2. อ่านรายละเอียดในใบสั่งให้ครบ

     ดูข้อหา (เช่น จอดในที่ห้ามจอด/ห้ามหยุด) ชื่อ สน. หรือหน่วยงาน และ เบอร์ติดต่อปลดล็อค

 

3. จ่ายค่าปรับให้ถูกช่องทาง

    • เช็กและชำระค่าปรับใบสั่งได้บน เว็บไซต์ PTM (e-Ticket) หรือช่องทางที่ตำรวจประกาศ เช่น Krungthai NEXT, ไปรษณีย์, จุดรับชำระ ฯลฯ
    • หลังจ่ายแล้ว ให้เก็บหลักฐาน/สลิปไว้ยืนยันการปลดล็อค

 

4. เจ้าหน้าที่จะมาปลดล็อคล้อให้

     หลังชำระเงินเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะมาปลดล็อคล้อให้ภายในระยะเวลาหนึ่ง (โดยเฉลี่ย 30-60 นาที)

โดนล็อคล้อ ต้องทำยังไง จ่ายค่าปรับเท่าไหร่

โดนล็อคล้อ จ่ายค่าปรับเท่าไหร่ อัปเดตปี 2568

     อัตราค่าปรับเมื่อ โดนล็อคล้อ จ่ายเท่าไหร่ ปัจจุบันจะขึ้นอยู่กับกฎหมายจราจรและพื้นที่ โดยทั่วไปมีรายละเอียดดังนี้

    • พื้นที่ชานเมือง : ปรับขั้นต่ำ 500 บาท
    • พื้นที่ในเมือง/พื้นที่เศรษฐกิจ : ปรับขั้นต่ำ 700 - 1,000 บาท

 

สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อโดนล็อคล้อ

    • ห้ามงัด/ทำลายอุปกรณ์ล็อค มีโทษตามกฎหมาย (โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) และต้องรับผิดชอบค่าเสียหายด้วย 
    • ห้ามขับลากอุปกรณ์ไปทั้งล้อ อันตรายและผิดกฎหมาย
    • ห้ามทิ้งรถนาน เสี่ยงถูกลากจูงและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อโดนล็อคล้อ

คำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง “รถโดนล็อคล้อ”

Q : ถ้าโดนล็อคล้อแล้วงัดออกเองได้ไหม?

A : ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะถือว่าทำลายทรัพย์สินของทางราชการ มีโทษทั้งจำและปรับ

 

Q : ต่างจังหวัดมีมาตรการล็อคล้อเหมือนในกรุงเทพฯไหม?

A : มีเช่นกัน โดยเฉพาะเมืองใหญ่หรือแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องจัดระเบียบการจราจร

 

Q : โดนล็อคล้อกลางคืน เจ้าหน้าที่จะมาปลดไหม?

A : ส่วนใหญ่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ อาจมีเจ้าหน้าที่เวรกลางคืน แต่หากไม่มี ต้องรอช่วงเวลาทำการ

 

Q : ถ้าไม่จ่ายค่าปรับที่โดนล็อคล้อตามกำหนดจะเกิดอะไรขึ้น?

A : จะมีการออกใบเตือน-หมายเรียก และเสี่ยงกระทบการต่อภาษีรถ รวมทั้งมีโทษปรับตาม มาตรา 155 (ไม่เกิน 1,000 บาท) ควรชำระภายในกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจะดีที่สุด

 

     การโดนล็อคล้อ อาจทำให้คุณเสียทั้งเงินและเวลา หากเจอสถานการณ์นี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ติดต่อเจ้าหน้าที่และจ่ายค่าปรับตามกฎหมาย อย่าพยายามแก้ไขเองเด็ดขาด สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามกฎจราจรและสังเกตป้ายห้ามจอดอย่างเคร่งครัด จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารถโดนล็อคล้อได้อีกในครั้งหน้า

เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

     อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลยสำหรับคนมีรถคือการมี ประกันรถยนต์ ที่ดีที่จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองและสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น อย่าลืมมองหาประกันรถยนต์กับ TQM สามารถเข้ามา เช็คราคาประกันรถยนต์ บริษัทชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษ ผ่อน 0% มีรถใช้ระหว่างซ่อม สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร Hotline 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล