26/09/68

|

อ่านแล้ว 128 ครั้ง

ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไรบ้าง

     เมื่อพูดถึงการขับขี่รถยนต์ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุแล้ว ยังช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ปัจจุบัน ระบบความปลอดภัยรถยนต์ พัฒนาไปมาก ไม่ได้มีแค่เข็มขัดนิรภัยหรือถุงลมเท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยที่เข้ามาช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุและบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปทำความเข้าใจว่า ระบบความปลอดภัยรถยนต์ มีกี่ประเภท และแต่ละประเภททำงานอย่างไรกันครับ


📖 รวมไฮไลท์ เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย


ระบบความปลอดภัยรถยนต์คืออะไร

     ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ คือ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ ป้องกันอุบัติเหตุ และ ลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ โดยระบบเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยทั้งผู้ขับและผู้โดยสารให้มีความปลอดภัยสูงสุด

ระบบความปลอดภัยรถยนต์คืออะไร

ระบบความปลอดภัยรถยนต์ มีกี่ประเภท

     โดยทั่วไป ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Active Safety) และ ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีหน้าที่ต่างกัน แต่ทำงานร่วมกันเพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ปลอดภัยสูงสุด

 

1. ระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Active Safety)

     ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง โดยใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถได้มั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น ตัวอย่างเช่น

 

    • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) : ระบบความปลอดภัยรถยนต์ แบบนี้ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกแรง ๆ ทำให้ยังบังคับทิศทางได้ ลดระยะเบรกบนถนนลื่น
    • ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และเสริมแรงเบรก (BA) : EBD แบ่งแรงเบรกหน้า–หลังให้เหมาะกับน้ำหนักบรรทุก ส่วน BA ช่วยเสริมแรงเบรกฉุกเฉินเมื่อกดเบรกเร็วแต่แรงไม่พอ ทั้งคู่คือ ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ ที่ทำงานร่วมกับ ABS
    • ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC/VSC) : ช่วยป้องกันรถหลุดโค้งหรือลื่นไถล โดยลดกำลังเครื่องยนต์และสั่งเบรกเฉพาะล้อที่จำเป็น ระบบความปลอดภัยรถยนต์ นี้สำคัญมากสำหรับถนนเปียกหรือโค้งยาว
    • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS/Traction Control) : ตัดกำลังหรือสั่งเบรกเมื่อล้อหมุนฟรีบนพื้นลื่น ช่วยออกตัวและเร่งแซงได้มั่นใจขึ้น
    • ระบบเตือนการชนและเบรกอัตโนมัติ (FCW/AEB) : เรดาร์หรือกล้องจะตรวจจับสิ่งกีดขวาง แจ้งเตือน และ “เบรกอัตโนมัติ” หากผู้ขับยังไม่ตอบสนอง ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ กลุ่มนี้ช่วยลดแรงปะทะหรือหลีกเลี่ยงการชนในเมือง
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) : รักษาระยะห่างคันหน้าโดยปรับความเร็วให้เอง เหมาะกับการวิ่งทางไกลและรถติด ช่วยลดความล้า และเป็น ระบบความปลอดภัยรถยนต์ ที่ช่วยรักษาระยะปลอดภัย
    • ระบบช่วยรักษาเลน (LKA/LKAS) และเตือนออกนอกเลน (LDW) : กล้องอ่านเส้นถนน แจ้งเตือนเมื่อรถไหลออกนอกเลน และช่วยพวงมาลัยให้กลับเข้ากลางเลน ช่วยลดอุบัติเหตุจากหลับในหรือเหม่อ
    • ระบบมุมอับสายตา (BSM/Blind Spot Monitor) : ไฟเตือนที่กระจกมองข้าง เมื่อมีรถในมุมอับ พร้อมเสียงเตือนหากเปิดไฟเลี้ยว ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ นี้ช่วยเปลี่ยนเลนได้ปลอดภัยขึ้น
    • ระบบเตือนรถตัดผ่านขณะถอย (RCTA) : ตรวจจับรถที่วิ่งตัดผ่านด้านหลังเวลาถอยออกจากซองจอด
    • ระบบอ่านป้ายจราจร (TSR) : อ่านความเร็วจำกัด/สัญลักษณ์เตือนบนทาง ช่วยให้คนสวยรู้กฎจราจรทันที
    • ระบบตรวจจับผู้ขับ (DMS/Driver Monitoring) : กล้อง/เซนเซอร์ติดตามการล้าหรือการหลับใน ถ้าพบสัญญาณอันตราย ระบบจะเตือนทันที
    • ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) : แจ้งเตือนเมื่อลมยางอ่อน ลดความเสี่ยงยางระเบิดและช่วยประหยัดน้ำมัน นี่คืออีกหนึ่ง ระบบความปลอดภัยรถยนต์ ที่สำคัญมากแต่หลายคนมองข้าม

ระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Active Safety)

2. ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)

     ระบบนี้จะทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว โดยมีหน้าที่ลดความรุนแรงของการกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บให้ผู้โดยสาร ตัวอย่างเช่น

 

    • ถุงลมนิรภัย (Airbags) : ลดแรงกระแทกบริเวณศีรษะและร่างกาย
    • เข็มขัดนิรภัย (Seat Belts) : ยึดร่างกายไม่ให้กระเด็นไปข้างหน้า
    • โครงสร้างตัวถังนิรภัย (Crumple Zone & Safety Cell) – ช่วยกระจายแรงกระแทกออกจากห้องโดยสาร
    • พนักพิงศีรษะ (Head Restraints) : ลดการบาดเจ็บบริเวณคอจากการชนท้าย

ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)

ทำไมระบบความปลอดภัยของรถยนต์จึงสำคัญ

     การเลือกรถที่มี ระบบความปลอดภัยรถยนต์ ที่ครบถ้วน ไม่เพียงแต่เพิ่มความอุ่นใจ แต่ยังช่วยลดอัตราการบาดเจ็บและการสูญเสียได้จริง

 

    • ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
    • เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ โดยเฉพาะเส้นทางไกลหรือสภาพถนนที่เสี่ยง
    • ช่วยปกป้องผู้โดยสารทุกคนในรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก หรือผู้สูงอายุ
    • รถที่มี ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ ครบถ้วน ยังช่วยเพิ่มมูลค่าในการขายต่อ

 

ระบบความปลอดภัยรถยนต์ยุคใหม่

     ปัจจุบัน ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ ถูกพัฒนาให้ก้าวหน้าและอัจฉริยะมากขึ้น โดยผสมผสาน เทคโนโลยี AI และเซนเซอร์ ตัวอย่างเช่น

 

    • Adaptive Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
    • Automatic Emergency Braking (AEB) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
    • Driver Monitoring System ระบบตรวจจับอาการเหนื่อยล้าหรือการหลับในของผู้ขับ
    • 360-Degree Camera กล้องรอบคันช่วยมองเห็นทุกทิศทาง

ระบบความปลอดภัยรถยนต์ยุคใหม่

คำถามที่พบบ่อย 

ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ แบบไหนจำเป็นที่สุดสำหรับมือใหม่?

อย่างน้อยควรมี ESC/VSC, ABS/EBD/BA, TPMS และถุงลมนิรภัยหลายจุด นี่คือแกนหลักของ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ ที่ช่วยได้จริงในชีวิตประจำวัน

 

จะเช็กได้อย่างไรว่ารถคันที่เล็งไว้มีระบบความปลอดภัยรถยนต์อะไรบ้าง?

ดูสเปกจากเว็บไซต์ผู้ผลิต โบรชัวร์ ศูนย์บริการ และลองขับจริง เพื่อทดสอบการทำงานของ ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ เช่น การเตือนเลน ACC หรือการทำงานของ TPMS

 

รถรุ่นเก่ามีระบบความปลอดภัยพอหรือไม่?

รถรุ่นเก่ามักจะมีระบบพื้นฐาน เช่น เข็มขัดนิรภัย แต่ควรเลือกติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น กล้องมองหลัง หรือเซ็นเซอร์ถอยหลัง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

 

ควรเลือกซื้อรถที่มีระบบความปลอดภัยแบบไหน?

ควรเลือกรถที่มีทั้ง ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน และ เชิงรับ ครบถ้วน เพื่อให้ได้ความปลอดภัยสูงสุด

 

ระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety กับ ระบบความปลอดภัยแบบ Passive Safety แบบไหนดีกว่ากัน?

ทั้งสองแบบสำคัญพอ ๆ กัน Active Safety ช่วยป้องกันไม่ให้ชน ส่วน Passive Safety ลดความรุนแรงหากชนจริง ๆ

 

     การทำความเข้าใจ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกใช้รถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและปลอดภัยยิ่งขึ้น หากเป็นไปได้ควรเลือกรถที่มีทั้ง Active Safety และ Passive Safety ครบถ้วน รวมถึงเทคโนโลยีเสริมสมัยใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการเดินทางปลอดภัยที่สุดนั่นเอง

เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

     นอกจากนี้แล้วอย่าลืมที่จะมีประกันรถยนต์ไว้ดูแลรถคุณ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ช่วยคุ้มครองค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้โดยสารและบุคคลภายนอก ผ่อนสบายไม่ง้อบัตร สนใจเช็กราคาประกันรถยนต์ ราคาสุดคุ้ม เพียงกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือทักแชทหาพี่หมี TQM ได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล