เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 31,591 ครั้ง
เวลาขับรถเจอถนนขรุขระหรือเป็นหลุมเป็นบ่อจะได้รับแรงกระแทกจากช่วงล่าง รถหลายรุ่นจึงมีตัวรับแรงกระแทกเพื่อให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น ซึ่งสิ่งนั่นก็คือ ลูกหมากกันโคลง ที่จะคอยรับแรงเวลาบิดตัวเข้าโค้ง แต่อะไหล่เหล่านี้ก็มีอายุการใช้งาน จำเป็นต้องคอยเช็คและสังเกตอาการพังหรือเสียของลูกหมากกันโคลง ว่าอาการแบบไหนถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากครับ
ลูกหมากกันโคลง ในรถยนต์ คือชิ้นส่วนที่ติดอยู่กับล้อของรถ ลูกหมากมีลักษณะเป็นลูกยาง มักมีรูปร่างทรงกลมหรือทรงกระบอกและติดตั้งที่จุดเชื่อมต่อของล้อหรือโช้คอัพ โดยมีหน้าที่หลักคือ ช่วยกันในการลดแรงสั่นสะเทือนและรักษาความสมดุลของรถยนต์ในการเคลื่อนที่
ลูกหมากกันโคลงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนน้ำหนักของรถยนต์และทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างเสถียรและปลอดภัยในทางที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการลดการกระตุกของล้อและรักษาความสมดุลของรถในสภาวะที่ถนนขรุขระ การติดตั้งและบำรุงรักษาลูกหมากกันโคลงจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้รถยนต์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สูงสุดในการใช้งานทุกวัน

ลูกหมากกันโคลงรถยนต์ที่พังหรือเสียอาการ จะแสดงอาการหลายอย่างได้ขึ้นอยู่กับความเสียหายและระดับความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับลักษณะของรถยนต์และวิธีการติดตั้งลูกหมากกันโคลงในรถคันนั้น ๆ ดังนั้น อาการที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เราจึงควรพิจารณาไปตามอาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลูกหมากกันโคลงของรถยนต์เสีย ดังนี้
ลูกหมากกันโคลงที่เสียอาจทำให้รถยนต์สั่นสะเทือนมากขึ้นขณะขับรถ และการขับขี่อาจไม่เสถียร
ลูกหมากที่เสียอาจส่งผลให้เกิดเสียงดัง "กึก ๆ" หรือ "แต๊ก ๆ" เวลาขับผ่านทางขรุขระ หรือเนินจะได้ยินเสียงชัดเจน
ลูกหมากที่เสียอาจทำให้รถยนต์ไม่สามารถควบคุมหรือสมดุลขณะขับขี่ได้อย่างถูกต้อง
การเสียของลูกหมากกันโคลงอาจทำให้ระบบเบรกไม่ทำงานอย่างถูกต้องหรือเกิดปัญหาในการหยุดรถ
ลูกหมากที่เสียอาจทำให้รถยนต์แกว่งได้มากขึ้นเมื่อเลี้ยวหรือเปลี่ยนทิศทาง
ลูกหมากที่เสียอาจทำให้รถยนต์ไม่มีความสมดุล และมีความไม่เสถียรในการขับขี่
ลูกหมากเสียอาจทำให้การกระจายน้ำหนักไม่สมดุล ทำให้ยางบางข้างสึกมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยเช่นกัน

ลูกหมากกันโคลงในรถยนต์ คือลูกยางล้อหรือชิ้นส่วนที่ต่อกับล้อของรถยนต์ที่ช่วยในการรักษาความมั่นคงและสมดุลของรถยนต์ การที่ลูกหมากถูกกันโคลงสามารถเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ต่อไปนี้คือบางทำนองที่อาจเป็นสาเหตุของอาการนี้
การชนหรือกระแทกที่รุนแรงอาจทำให้ลูกหมากหรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับล้อแตกหรือพัง
ความเสียหายทางเครื่องกลซึ่งอาจเกิดจากปัญหาบนล้อ เช่น แบนล้อ, ล้อหลุด, หรือลูกหมากหัก
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรงอาจทำให้โครงรถเสียหายและส่งผลต่อลูกหมาก
ลูกหมากหรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องอาจเสื่อมสภาพจากการใช้งานในระยะเวลานาน ซึ่งทำให้ลูกหมากแตกหรือพัง
ถนนที่ไม่ราบหรือมีร่องลึก, ลากบังหรืออุปสรรคอื่นๆ บนถนนอาจทำให้ลูกหมากหรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องพัง
การปรับแต่งล้อหรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องในทางที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกหมากพัง
โดยทั่วไปเราควรเปลี่ยนลูกหมากกันโคลงทุกๆ 60,000 – 80,000 กิโลเมตร หรือขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน หากใช้งานรถอย่างหนัก เป็นไปได้ว่าลูกหมากกันโคลงจะพังหรือเสื่อมสภาพก่อนระยะเวลาปกติ หรือเมื่อรถยนต์มีอาการพังแบบข้างต้น เช่น มีเสียงดังกุกกักๆ ที่ซุ้มล้อเมื่อรถตกหลุมตกบ่อ ก็ควรมีการเปลี่ยนลูกหมากกันโคลงทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนด และแนะนำเปลี่ยนเป็นคู่ (ซ้าย-ขวา) เพื่อความสมดุลและประสิทธิภาพในการทรงตัว แม้ว่าจะพบปัญหาเพียงข้างเดียว ชิ้นอีกข้างอาจใกล้หมดอายุเช่นกัน

โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,000 บาทต่อข้าง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นรถ รวมไปถึงศูนย์บริการที่เลือกใช้
ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นเท่ากับงานคันชัก/คันส่ง แต่ช่างหลายแห่งจะแนะนำตรวจตั้งศูนย์เพื่อความเป๊ะหลังงานช่วงล่าง
ลูกหมากกันโคลง เป็นข้อต่อหัวลูกหมากที่ปลายก้าน ส่วนบูชกันโคลง คือยางรองยึดเหล็กกันโคลงกับตัวถัง ทั้งคู่เสียได้และทำให้เกิด อาการลูกหมากกันโคลงเสีย คล้ายกัน แต่จุดซ่อมต่างกัน
อาการลูกหมากกันโคลงเสีย เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลโดยตรงต่อการทรงตัวและความปลอดภัยในการขับขี่ หากสังเกตว่ารถเริ่มมีเสียงแปลก หรือทรงตัวแปลกไป อย่ารอให้หนัก รีบตรวจเช็กและทำการเปลี่ยนโดยทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
แต่นอกจากอะไหล่รถยนต์ที่ควรหมั่นเช็คสภาพและสังเกตุอาการแล้ว เรื่องของประกันรถยนต์ก็สำคัญ สามารถเข้ามา เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ บริษัทชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษ ผ่อน 0% มีรถใช้ระหว่างซ่อม สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร Hotline 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *