28/08/68

|

อ่านแล้ว 212 ครั้ง

สตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา อันตรายไหม สาเหตุและวิธีเช็กง่ายๆ

     หลายคนที่ใช้งานรถยนต์ในตอนเช้าอาจสังเกตเห็น สตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมาากท่อไอเสีย หรือบางครั้งน้ำหยดจากใต้ท้องรถ ทำให้เกิดความกังวลว่าเกิดปัญหากับเครื่องยนต์หรือไม่ และคำถามสำคัญคือ ทําไมรถถึงมีน้ําไหลออกมาเป็นอันตรายต่อรถยนต์หรือไม่ วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบและแนวทางแก้ไขเบื้องต้นของเรื่องนี้มาฝากกันครับ

สตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา เกิดจากสาเหตุใด

สตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา เกิดจากสาเหตุใด

     อาการสตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา เป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อย โดยเฉพาะเวลาเพิ่งติดเครื่องยนต์ในตอนเช้า หรือหลังจากจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

 

1. น้ำที่เกิดจากการควบแน่น (Condensation)

     สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดเมื่อ สตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา โดยเฉพาะในตอนเช้าหรือหลังจากเปิดแอร์ คือการควบแน่นของไอน้ำในระบบท่อไอเสียหรือเครื่องปรับอากาศ เมื่อน้ำระเหยกลายเป็นไอ แล้วมาสะสมในท่อ ก็จะไหลออกมาเป็นหยดน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่เป็นอันตรายต่อรถ

 

2. น้ำจากท่อแอร์

     เวลาที่เปิดแอร์ ความชื้นในอากาศจะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นหยดน้ำ ทำให้เรามักเห็นน้ำหยดลงมาจากใต้ท้องรถ ไม่ต้องกังวลเพราะไม่ใช่ความเสียหาย แต่ถ้าสังเกตว่าน้ำไม่ใช่ใสสะอาด แต่เป็นน้ำมันหรือมีสีผิดปกติ ควรรีบตรวจสอบทันที

 

3. น้ำไหลออกจากท่อเสีย

     หลายคนสงสัยว่า น้ำไหลออกจากท่อเสีย อันตรายหรือไม่ คำตอบคือ หากเป็นน้ำใสไม่มีสี มักเกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์ ทำให้เกิดไอน้ำและควบแน่นเป็นหยดออกมา ถือเป็นสัญญาณว่าระบบทำงานปกติ แต่หากน้ำมีสีคล้ายน้ำมันเครื่องหรือน้ำยาหม้อน้ำ อาจบ่งบอกถึงปัญหา เช่น ปะเก็นฝาสูบรั่ว ควรตรวจสอบโดยด่วน

น้ำไหลออกจากท่อเสีย อันตรายไหม

น้ำไหลออกจากท่อเสีย อันตรายไหม

     โดยทั่วไป การที่น้ำไหลออกจากท่อเสีย เล็กน้อยตอนสตาร์ทรถถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเกิดจากไอน้ำควบแน่น ไม่ได้เป็นสัญญาณความเสียหาย แต่ถ้าสังเกตว่ามีปริมาณน้ำมากผิดปกติ ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง หรือมีสีและกลิ่นที่ไม่ปกติ ก็ถือว่ามีอาการผิดปกติ ควรรีบให้ช่างตรวจสอบทันทีเพราะอาจเป็นปัญหาใหญ่ของเครื่องยนต์

 

น้ำไหลออกจากท่อเสีย กรณีที่ไม่อันตราย

    • น้ำใส ไม่มีสี และมีกลิ่นเหมือนน้ำปกติ
    • น้ำหยดออกมาเฉพาะตอนสตาร์ทใหม่ ๆ หรือหลังจากเปิดแอร์
    • น้ำไหลออกจากท่อเสียในปริมาณเล็กน้อย

 

น้ำไหลออกจากท่อเสีย กรณีที่อันตรายและตรวจสอบทันที

    • น้ำที่ไหลหยดออกมาจากใต้ท้องรถเป็นสีเขียว สีน้ำเงิน หรือสีชมพู 
    • น้ำมีลักษณะข้น หรือคล้ายน้ำมันเครื่อง
    • มีปริมาณมากผิดปกติ และไม่หยุดแม้หลังจากขับรถไปนานแล้ว
    • รถมีอาการร่วม เช่น เครื่องยนต์ร้อนเร็ว ความร้อนขึ้น น้ำในหม้อน้ำพร่องบ่อย

วิธีดูแลและป้องกันเบื้องต้น เมื่อสตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา

วิธีดูแลและป้องกันเบื้องต้น เมื่อสตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา

     การที่รถมีน้ำไหลออกมา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปกติ เกิดจากการควบแน่นของไอน้ำหรือการทำงานของระบบแอร์ แต่ก็ไม่ควรละเลยการสังเกตอาการผิดปกติ เช่น น้ำมีสีแปลก ควันขาว หรือมีกลิ่นแรงผิดปกติ โดยสามารถดูแลป้องกันเบื้องต้น ดังนี้

    • ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำและถังพักน้ำเป็นประจำ
    • หากน้ำที่ไหลออกจากท่อไอเสียมีสีหรือกลิ่นผิดปกติ ควรเข้าศูนย์ทันที
    • เช็กระบบท่อไอเสียว่ามีรอยรั่วหรือไม่
    • หมั่นนำรถเข้าตรวจสภาพตามระยะทางหรือเวลา

 

     สตาร์ทรถแล้วมีน้ำไหลออกมา ไม่ได้หมายความว่ารถมีปัญหาเสมอไป ส่วนใหญ่เกิดจากการควบแน่นของไอน้ำจากท่อไอเสียหรือการทำงานของแอร์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้า น้ำไหลออกจากท่อไอเสีย แล้วมีสี กลิ่น หรือปริมาณที่ผิดปกติ หรือสงสัยว่าระบบหม้อน้ำรั่ว ควรตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อป้องกันความเสียหายรุนแรงกับเครื่องยนต์

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

     นอกจากนี้แล้วอย่าลืมที่จะมีประกันรถยนต์ไว้ดูแลรถคุณ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ช่วยคุ้มครองค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้โดยสารและบุคคลภายนอก ผ่อนสบายไม่ง้อบัตร สนใจเช็คราคาประกันรถยนต์ ราคาสุดคุ้ม เพียงกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือทักแชทหาพี่หมี TQM ได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล