15/03/66

|

อ่านแล้ว 45,280 ครั้ง

เลขตัวถังรถคืออะไร อยู่ตรงไหนของรถ

    เมื่อพูดถึง "เลขตัวถังรถยนต์" หลายคนอาจเคยเห็นผ่านหูผ่านตาเวลาต่อภาษีรถ ขายโอนรถ หรือทำประกันภัย แต่เคยสงสัยกันไหมว่าเลขตัวถังรถยนต์คืออะไร? มีกี่หลัก? อยู่ตรงไหน? และสามารถใช้เช็ครุ่นรถหรือข้อมูลอื่น ๆ ได้แค่ไหน? วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปหาคำตอบแบบครบทุกประเด็น พร้อมเปรียบเทียบให้ชัด ๆ ว่า เลขตัวถัง กับเลขเครื่องยนต์ ต่างกันยังไง

 

เลขตัวถังรถยนต์คืออะไร?

     เลขตัวถังรถ หรือ VIN (Vehicle Identification Number) คือรหัสประจำตัวของรถแต่ละคันที่ไม่ซ้ำกันทั่วโลก จะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลขอยู่ด้วยกันทั้งหมด 17 หลัก และเหตุผลที่รถยนต์แต่ละคันมีเลขตัวถังรถที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็เพราะว่า จะบอกพื้นที่การผลิต บริษัทผู้ผลิต รูปแบบตัวถัง โรงงานที่ประกอบ ที่แตกต่างกันไป เลขตัวถังรถแต่ละคันจะมีไว้เพื่อเป็นการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์คันนั้น  โดยตัวเลขถังรถจะตรงกับเล่มทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเลขตัวถัง 17 หลักนี้จะถูกใช้ในช่วงต่อภาษีประจำปี ขายโอนรถ หรือแม้แต่แจ้งเคลมประกันรถยนต์กับบบริษัทประกันเองต่างต้องใช้เลขตัวถังรถ พูดง่าย ๆ ก็คือ เลขตัวถังรถยนต์เปรียบได้กับเลขบัตรประชาชนของรถ ที่จะติดตัวรถคันนั้นตลอดอายุการใช้งาน

 

เลขตัวถังรถยนต์มีกี่หลัก? แต่ละหลักมีความหมายอย่างไร?

หลักที่ 1 : บอกให้รู้ถึงภูมิภาคที่ผลิตรถคันนั้นขึ้น ดังนี้

  • A - H ผลิตในทวีปแอฟริกา
  • J - R ผลิตในทวีปเอเชีย (ยกเว้น O และ Q)
  • S - Z ผลิตในทวีปยุโรป
  • 1 - 5 ผลิตในทวีปอเมริกาเหนือ
  • 6 - 7 ผลิตในนิวซีแลนด์ หรือออสเตรเลีย
  • 8 - 9 ผลิตในทวีปอเมริกาใต้

 

หลักที่ 2-3 : บอกให้รู้ถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่น M8 หมายถึง มาสด้าประเทศไทย, R0 หมายถึง โตโยต้าประเทศไทย, RH หมายถึง ฮอนด้าประเทศไทย ฯลฯ

 

หลักที่ 4-8 : บอกให้รู้ถึงรายละเอียดของตัวรถ เช่น รูปแบบตัวถัง, ระบบเกียร์, รุ่นย่อย เป็นต้น โดยแต่ละคันตัวเลขแตกต่างกันไปตามที่ผู้ผลิตกำหนด

 

หลักที่ 9 : ตัวเลขสำหรับยืนยันว่าไม่ใช่ VIN ปลอม มีรูปแบบการคำนวณที่ซับซ้อน เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเลขประจำตัวรถ

 

หลักที่ 10 : จะบอกปีที่ผลิตรถคันนั้นออกมา โดยเริ่มนับจากปี 1980 ที่มีการใช้เลข VIN 17 ครั้งแรก

  • ปี 1980 จะใช้ตัวอักษร A และไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงตัวอักษร Y ซึ่งแทนปี 2000
  • เมื่อถึงปี 2001 ได้มีการเปลี่ยนไปใช้ตัวเลขแทน ซึ่งจะไล่ตั้งแต่เลข 1 แทนปี 2001 ไปจนถึงเลข 9 แทนปี 2009
  • ในปี 2010 จนถึงปีปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรเหมือนเดิม โดยอักษร A แทนปี 2010 และไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน

 

หลักที่ 11 : บอกถึงโรงงานที่ประกอบรถคันนั้น ๆ

 

หลักที่ 12-17 : เลข 6 หลักสุดท้าย

     คือเลขคัสซี (Chassis Number) เป็นตัวเลขที่รันตามสายผลิต (Serial number) ทำให้รถแต่ละคันมีเลข VIN แตกต่างกันไป กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ตัวเลข 11 หลักก่อนหน้าสามารถเหมือนกันได้ แต่ตัวเลข 6 หลักสุดท้ายจะแตกต่างกันไป ไม่เหมือนกันสักคัน (ข้อมูลจาก khaorot)


ขอบคุณภาพจาก : visa-autoshop

เลขตัวถังรถยนต์ อยู่ตรงไหน?

หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าเลขตัวถังรถยนต์อยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งตำแหน่งจะต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของรถ แต่โดยทั่วไปแล้วสามารถพบได้ที่

  • ใต้กระจกหน้ารถฝั่งคนขับ (มองจากด้านนอก)

  • ผนังด้านในห้องเครื่อง (ฝั่งใกล้กระจกหน้า)

  • แก้มบังโคลนหน้า

  • เสากลางฝั่งประตูคนขับ

  • ขอบประตูด้านใน

  • ใต้พรมฝั่งคนขับ

  • แผงหน้าปัด (บางรุ่น)

  • คู่มือรถ

  • เล่มทะเบียนรถ

  • แผ่น พ.ร.บ. รถยนต์

 

โปรแกรม เช็ค เลขตัวถังรถ ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

    ปัจจุบันมี โปรแกรมเช็คเลขตัวถังรถ หรือเว็บไซต์ออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลรถจาก VIN ได้ โดยใช้เพียงเลข 17 หลักเท่านั้น ก็สามารถดูรายละเอียดได้ ดังนี้

  • รุ่นรถ / ปีที่ผลิต

  • ประเทศและโรงงานประกอบ

  • สเปกเครื่องยนต์

  • ประวัติการซ่อม/อุบัติเหตุ (ในบางระบบ เช่น Carfax)

  • เช็คว่าเคยเป็นรถจดประกอบหรือไม่

 

ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้เช็ค VIN

 

เช็ครุ่นรถจากเลขตัวถัง ทำยังไง?

หากคุณต้องการ เช็ครุ่นรถจากเลขตัวถัง (เช่น รุ่นย่อย, ปีที่ผลิต, เครื่องยนต์ ฯลฯ) วิธีง่ายที่สุดคือ

  1. ใช้เว็บไซต์เช็ค VIN

  2. ปรึกษาศูนย์บริการรถยนต์ของแบรนด์นั้น ๆ

  3. ดูข้อมูลจากคู่มือรถ / เล่มทะเบียน

 

ข้อดีของการเช็ครุ่นจากเลขตัวถัง

  • ป้องกันการซื้อขายรถผิดรุ่น

  • ตรวจสอบความถูกต้องของรถมือสอง

  • เช็คว่าสเปกรถตรงกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่

 

เลขตัวถัง กับเลขเครื่องยนต์ ต่างกันยังไง?

แม้หลายคนจะเข้าใจว่าเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์เป็นอันเดียวกัน แต่อันที่จริงแล้ว เป็นคนละรหัสกัน โดยมีหน้าที่ต่างกันดังนี้

รายการ รายละเอียด
เลขตัวถัง มี 17 หลัก ใช้ระบุตัวรถทั้งหมด
เลขเครื่องยนต์ รหัสของเครื่องยนต์เท่านั้น มีรูปแบบแตกต่างกันตามแบรนด์ และระบุเฉพาะเครื่องยนต์ สามารถเปลี่ยนได้

คำถามที่พบบ่อย

เลขเครื่องยนต์กับเลขตัวถัง อันเดียวกันไหม?

ไม่ใช่อันเดียวกันแน่นอน ถึงแม้ว่าเลขตัวถังจะบอกถึงสเปกรถโดยรวม แต่เลขเครื่องยนต์จะใช้สำหรับระบุตัวเครื่องยนต์โดยเฉพาะ เช่น กรณีเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ (เปลี่ยนเฉพาะเครื่อง) เลขตัวถังจะยังคงเดิม หรือเวลาทำประกันรถ บริษัทจะขอทั้งสองเลข เพื่อระบุความถูกต้องของรถและเครื่องยนต์

 

    หากคุณมีรถยนต์ ไม่ว่าจะใหม่หรือมือสอง การรู้ว่า เลขตัวถังรถยนต์อยู่ตรงไหน เลขตัวถังรถยนต์มีกี่หลัก และสามารถใช้โปรแกรมเช็คเลขตัวถังรถเพื่อดูข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างไร ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเลขตัวถังช่วยให้คุณรู้จักรถของตัวเองมากขึ้น ทั้งด้านประวัติ ปีผลิต โรงงานประกอบ และยังช่วยให้คุณ เช็ครุ่นรถจากเลขตัวถัง ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

 

    การเข้าใจว่าเลขตัวถังรถยนต์อยู่ตรงไหน มีหน้าที่อะไร และต่างจากเลขเครื่องยนต์อย่างไร ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่เจ้าของรถควรรู้ เพราะนอกจากจะใช้ในงานเอกสารต่าง ๆ แล้ว ยังมีผลต่อความถูกต้องของข้อมูลในการทำประกันรถยนต์ด้วยเช่นกัน หากคุณกำลังวางแผนจะทำประกันรถใหม่ หรืออยากเช็กว่าประกันเดิมของคุณคุ้มครองครบหรือไม่ พี่หมี TQM แนะนำให้ลองเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ฟรีง่าย ๆ ไม่ต้องกรอกข้อมูลเยอะ รู้ผลไว มีให้เลือกทั้งแบบซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ตามที่คุณต้องการเลยครับ

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล