ประกันสุขภาพเหมาจ่าย All in One คุ้มครองอะไรบ้าง คุ้มจริงไหม

    เมื่อพูดถึงประกันสุขภาพในยุคปัจจุบัน หลายคนอาจได้ยินคำว่า “ประกันสุขภาพเหมาจ่าย” กันบ่อยมากขึ้น และหนึ่งในประกันสุขภาพที่หลายคนพูดถึงคือ Health All-in-One จาก TQM วันนี้พี่หมี TQM จะมาทำความรู้จักประกันตัวนี้อย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร ครอบคลุมอะไรบ้าง และคำว่า “เหมาจ่าย” มีความหมายว่าอย่างไร ทำไมถึงน่าสนใจขนาดนี้

 

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย คืออะไร?

    ประกันสุขภาพเหมาจ่าย คือ ประกันที่มีการกำหนดวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงสุดเอาไว้แบบรวมยอดเป็นรายปี โดยไม่แยกวงเงินตามประเภทของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าห้องพัก ค่าผ่าตัด ค่ายา หรือค่ารักษาพยาบาลทั่วไป หมายความว่า คุณสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเคลมค่ารักษาตามจริง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องวงเงินแยกย่อย เพียงแต่จะต้องไม่เกินวงเงินรวมที่กรมธรรม์กำหนดไว้ต่อปี

 

    ข้อดีที่สำคัญของประกันสุขภาพเหมาจ่าย คือ ความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพราะสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ง่าย และช่วยให้การวางแผนดูแลสุขภาพทำได้สะดวกขึ้น

 

ประกันสุขภาพ Health All-in-One จาก TQM

    Health All-in-One เป็นแผนประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองครบวงจร ทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ซึ่งทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับการแยกวงเงินค่ารักษา ไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยแบบไหน ก็สามารถใช้วงเงินรวมจากประกันนี้ได้ทันที

Health All-in-One ครอบคลุมอะไรบ้าง?

1. คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD)

    ประกันสุขภาพ Health All-in-One ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น

• ค่าห้องพัก ค่าบริการพยาบาล และค่าอาหาร

• ค่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ค่าผ่าตัด และห้องผ่าตัด

• ค่ายา อุปกรณ์การแพทย์ ค่าตรวจวินิจฉัย

• ค่ารักษาโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เป็นต้น

 

    ซึ่งความคุ้มครองรวมสูงสุดสามารถมากถึง 400,000 บาทต่อปี ถือว่าครอบคลุมและเพียงพอต่อค่ารักษาในโรงพยาบาลชั้นนำอย่างแน่นอน

 

2. คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD)

    อีกหนึ่งข้อดีสำคัญของ Health All-in-One คือ ไม่เพียงแต่ดูแลค่ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมค่ารักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) อีกด้วย เช่น

 

• ค่าตรวจรักษาโรคทั่วไป

• ค่ายาตามใบสั่งแพทย์

• ค่าตรวจเลือด ตรวจสุขภาพประจำปี

• ค่าเอกซ์เรย์ MRI หรือ CT Scan

 

ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเวลาเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเข้าพบแพทย์เป็นประจำ

 

3. ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน

ประกันสุขภาพ Health All-in-One ให้คุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือข่าย เพราะสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที โดยไม่ต้องจ่ายเงินสำรองก่อนแล้วค่อยมาเบิกคืนภายหลัง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกทำประกันนี้ เพราะสะดวกและลดภาระทางการเงินได้อย่างมาก

 

4. เบี้ยประกันราคาคุ้มค่า เริ่มต้นหลักสิบต่อวัน

ด้วยเบี้ยประกันที่เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นเพียงประมาณ 20 บาทต่อวัน หรือประมาณ 600 บาทต่อเดือน ถือเป็นราคาที่คนทำงานทั่วไปสามารถจ่ายได้แบบไม่เป็นภาระหนักเกินไป และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 25,000 บาทต่อปีอีกด้วย

ข้อดีของการเลือกประกันเหมาจ่าย Health All-in-One

การเลือกทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายมีข้อดีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น

 

ใช้งานง่าย ยืดหยุ่น

ด้วยวงเงินที่เหมาจ่าย ทำให้ผู้เอาประกันสามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ตามความเหมาะสมและความจำเป็นจริงๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายแต่ละหมวดจะหมดก่อน

 

ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

เมื่อมีการกำหนดวงเงินรวมไว้แล้ว ทำให้คุณรู้ล่วงหน้าว่าค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อปีจะไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่อาจบานปลายได้

 

ครอบคลุมทุกด้านของสุขภาพ

ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาสุขภาพแบบไหน ก็สามารถรับการรักษาได้แบบครอบคลุม ทั้งอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยทั่วไป ไปจนถึงโรคร้ายแรงหรือการผ่าตัดใหญ่ ๆ ทำให้คุณอุ่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น

 

ใครบ้างที่เหมาะกับ Health All-in-One?

• คนที่ไม่มีสวัสดิการจากที่ทำงาน หรือมีสวัสดิการแต่ไม่ครอบคลุมเพียงพอ

• คนที่ต้องการความสะดวกสบายในการรักษาพยาบาล ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน

• คนที่ต้องการเบี้ยประกันราคาประหยัด แต่ได้ความคุ้มครองที่สูงและครบถ้วน

• ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการบริหารค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ

 

ขั้นตอนการสมัครประกันสุขภาพ Health All-in-One

สมัครผ่านเว็บไซต์ TQM เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

• เข้าเว็บไซต์ TQM

• เลือกที่แผนประกันสุขภาพ "Health All-in-One"

• กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

• เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับตามช่วงเวลาที่คุณแจ้งไว้ พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการสมัครประกันต่อไป

รับกรมธรรม์และเริ่มความคุ้มครอง

• เมื่อขั้นตอนการสมัครเสร็จสิ้น และชำระเบี้ยเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับเอกสารกรมธรรม์ส่งมาทางอีเมล หรือทางไปรษณีย์ตามที่แจ้งไว้ตอนสมัคร

• ตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ให้ครบถ้วน โดยเฉพาะวันที่เริ่มคุ้มครองและเงื่อนไขการใช้งาน

• หลังจากพ้นระยะเวลารอคอย (Waiting Period) ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น โรคทั่วไป 30 วัน และโรคร้ายแรง 120 วัน คุณสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ Health All-in-One ได้ทันที

 

    จากรายละเอียดทั้งหมดที่ได้อธิบายมา Health All-in-One ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันสุขภาพที่ครอบคลุมสูงสุด ในราคาประหยัด ด้วยวงเงินแบบเหมาจ่าย ทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอีกต่อไป เพราะการเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสม คือการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อสุขภาพที่ดีและอนาคตที่มั่นคงของคุณและครอบครัวครับ สนใจปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร 1737 พี่หมียินดีให้บริกาารตลอด 24 ชั่วโมง