เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ชื่อ *
นามสกุล *
เพศ *
วัน/เดือน/ปีเกิด *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 102 ครั้ง
เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน หลายคนอาจรู้สึกสดชื่นจากอากาศที่เย็นสบายขึ้นหลังจากฤดูร้อนอันแสนร้อนระอุ แต่ในทางกลับกัน หน้าฝนก็เป็นฤดูที่โรคต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ไข้หวัดใหญ่” มักจะกลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าอาการของตนเป็นแค่ “ไข้หวัดธรรมดา” และปล่อยให้โรคดำเนินไปโดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีความรุนแรงมากกว่า
วันนี้พี่หมี TQM พาคุณมาเจาะลึกว่าไข้หวัดใหญ่ต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร ทำไมช่วงหน้าฝนจึงเป็นช่วงที่โรคนี้ระบาดหนัก พร้อมวิธีป้องกันตัวเองและคนที่คุณรัก รวมถึงคำแนะนำในการวางแผนเรื่องสุขภาพผ่านการเลือก “ประกันสุขภาพ” ให้เหมาะสม เพื่อให้คุณอุ่นใจทุกฤดูฝน
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีสาเหตุมาจากไวรัสอินฟลูเอนซา โดยแบ่งเป็นหลายสายพันธุ์ เช่น อินฟลูเอนซา A, B และ C ในจำนวนนี้ สายพันธุ์ A และ B ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาดในวงกว้างทั่วโลก
ไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้ง่ายมาก โดยการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อไวรัสเข้าไป ซึ่งอาจเกิดจากการไอ จาม หรือการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้ออยู่แล้วเผลอเอามือมาสัมผัสจมูกหรือปากของตนเอง โรคนี้อาจดูคล้ายไข้หวัดธรรมดาในช่วงแรก แต่มีความรุนแรงและอาการแทรกซ้อนมากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่มีความชื้นในอากาศสูง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการอยู่รอดและแพร่กระจายของไวรัสไข้หวัดใหญ่ เมื่อเชื้อสามารถอยู่ในอากาศและพื้นผิวได้นานขึ้น โอกาสที่คนจะได้รับเชื้อจึงสูงขึ้นตามไปด้วย
เมื่อฝนตก คนส่วนใหญ่มักจะหลบอยู่ในอาคารหรือสถานที่ที่ปิดมิดชิด เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน รถโดยสาร หรือรถไฟฟ้า ทำให้มีคนอยู่รวมกันจำนวนมากในพื้นที่จำกัด ส่งผลให้การแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว
อุณหภูมิที่ผันผวนในฤดูฝน เช่น ฝนตกแล้วแดดออกทันที หรือการเปลี่ยนจากที่ร้อนจัดไปสู่ความเย็นฉ่ำจากแอร์ ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลงอย่างรวดเร็ว จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อย คือการคิดว่าไข้หวัดใหญ่ก็แค่อาการหวัดธรรมดา แต่ในความจริงแล้ว ทั้งสองโรคนี้แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในเรื่องของอาการ ความรุนแรง ระยะเวลาของโรค และความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน
อาการ | ไข้หวัดธรรมดา | ไข้หวัดใหญ่ |
ไข้ | มักไม่มี หรือมีไข้ต่ำ | ไข้สูงทันที 38–40°C |
หนาวสั่น | ไม่พบ | พบบ่อย |
ปวดเมื่อยตัว | เล็กน้อย | รุนแรง โดยเฉพาะหลัง ขา |
อ่อนเพลีย | เล็กน้อย | มากจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ |
ปวดศีรษะ | ไม่เด่นชัด | เด่นชัด |
ไอ | มีเสมหะ | ไอแห้งรุนแรง |
ระยะเวลาอาการ | 3–5 วัน | 7 วันขึ้นไป บางรายอาจนานถึง 2 สัปดาห์ |
ภาวะแทรกซ้อน | พบน้อย | ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไซนัสอักเสบ |
การแยกอาการตั้งแต่แรกจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
แม้ว่าไข้หวัดใหญ่สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่กลุ่มต่อไปนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนจากโรค
เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ
ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย ภูมิคุ้มกันต่ำ
หญิงตั้งครรภ์ ภูมิคุ้มกันเปลี่ยนแปลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ โรคประจำตัวอาจแย่ลงเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่
บุคลากรทางการแพทย์ อยู่ใกล้ผู้ป่วยบ่อย มีความเสี่ยงสูง
พนักงานออฟฟิศ/นักเรียน อยู่รวมกันในพื้นที่ปิด มีโอกาสรับเชื้อจากผู้อื่น
การฉีดวัคซีนคือวิธีป้องกันที่ดีที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงควรได้รับวัคซีนก่อนฤดูฝนหรือฤดูหนาว เพราะภูมิคุ้มกันจะใช้เวลาสร้างหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าเมื่อยังไม่ได้ล้างมือ และควรใส่หน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ในพื้นที่แออัด
การนอนหลับ 6–8 ชั่วโมงต่อคืนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ฝรั่ง ส้ม บรอกโคลี จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
หากต้องใช้ขนส่งสาธารณะหรืออยู่ในที่แออัด ควรมีเจลแอลกอฮอล์ติดตัว และลดการสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ
หากมีอาการเข้าข่ายไข้หวัดใหญ่ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงไม่ควรซื้อยากินเอง เพราะอาจทำให้โรคแทรกซ้อนหรือดื้อยาได้ ในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ แพทย์อาจให้ยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir เพื่อลดความรุนแรงของโรคและระยะเวลาการป่วย การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และกินอาหารที่ย่อยง่าย จะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ในช่วงที่โรคไข้หวัดใหญ่ระบาดบ่อย โดยเฉพาะในหน้าฝนที่คนมีโอกาสป่วยสูง การมีประกันสุขภาพถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยให้คุณอุ่นใจ โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายหากต้องนอนโรงพยาบาล ตรวจรักษา หรือใช้ยาพิเศษที่มีราคาสูง
ประกันสุขภาพที่ดีควรครอบคลุม
ค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล และค่าหมอ
ค่ายาและเวชภัณฑ์
ค่าบริการผู้ป่วยนอกในกรณีไม่ต้องแอดมิท
ความคุ้มครองโรคระบาดที่พบบ่อยในฤดูฝน เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก
แม้ไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดธรรมดาจะมีอาการคล้ายกันในช่วงแรก แต่โรคไข้หวัดใหญ่มีความรุนแรงและโอกาสแทรกซ้อนสูงกว่ามาก โดยเฉพาะในช่วง หน้าฝน ที่ภูมิคุ้มกันลดลง เชื้อไวรัสอยู่ได้นานขึ้น และผู้คนใช้ชีวิตในพื้นที่แออัดมากขึ้น ดังนั้น การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมควบคู่กับการป้องกัน และวางแผนล่วงหน้าด้วย “ประกันสุขภาพ” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าและจำเป็น
หากคุณกำลังมองหาประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษา ค่าห้อง และโรคต่าง ๆ ที่มากับฤดูฝน สามารถเช็กเบี้ยประกันสุขภาพได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ TQM หรือโทร 1737 มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
ชื่อ *
นามสกุล *
เพศ *
วัน/เดือน/ปีเกิด *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *