18/02/68

|

อ่านแล้ว 239 ครั้ง

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A รุนแรงกว่าที่คิด เช็คอาการและวิธีป้องกัน

     ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม หลายคนอาจคิดว่าไข้หวัดใหญ่เป็นเพียงโรคทั่วไป แต่ความจริงแล้ว ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาการ อาจรุนแรงและเป็นอันตราย โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว วันนี้พี่หมี TQM จะพามาเจาะลึกถึงอาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มีความแตกต่างจากสายพันธุ์ B อย่างไร ระยะเวลาที่ใช้ในการฟื้นตัว และวิธีป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A คืออะไร?

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A คืออะไร

     ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัส Influenza A ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วระบาดอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ไวรัสชนิดนี้มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้ โดยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ที่เรามักได้ยินกันบ่อยอย่างชนิด H1N1 นอกจากนี้ก็ยังมีชนิดH1N2, H3N2, H5N1 และ H9N2

 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กับ B ต่างกันอย่างไร

     ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กับ B ต่างกันอย่างไร เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ถึงแม้ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B จะเป็นโรคในกลุ่มเดียวกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญ ดังนี้

ปัจจัย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B
การระบาด มักมีการแพร่ระบาดที่รุนแรงกว่า อาจทำให้เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก ระบาดในระดับเล็กกว่า และจำกัดอยู่ในบางพื้นที่
การกลายพันธุ์ กลายพันธุ์ได้บ่อย ทำให้ภูมิคุ้มกันที่เคยมีอาจใช้ไม่ได้ในฤดูกาลถัดไป กลายพันธุ์ช้ากว่า มักมีสายพันธุ์ที่แน่นอน
ผลกระทบต่อร่างกาย อาการมักรุนแรงกว่า และเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนสูง อาการเบากว่า และมักไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
กลุ่มเสี่ยง ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว พบในเด็กและวัยรุ่นมากกว่าผู้ใหญ่

     ดังนั้นจากข้อมูลนี้จะเห็นว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อันตรายกว่าและมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง รวมไปถึงมีอาการที่รุนแรงเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนตามมามากกว่าสายพันธุ์ B

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กับ B ต่างกันอย่างไร

อาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ที่ต้องระวัง

     สำหรับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาการที่พบได้ทั่วไปมีลักษณะคล้ายกับโรคไข้หวัดธรรมดา แต่รุนแรงกว่าและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ โดยอาการสำคัญที่ควรเฝ้าระวัง มีดังนี้

อาการเบื้องต้น

    • มีไข้สูงกว่า 38°C
    • ปวดศีรษะ
    • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและอ่อนเพลีย
    • ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ
    • คัดจมูก น้ำมูกไหล

 

อาการรุนแรงที่ต้องรีบพบแพทย์

    • หายใจลำบาก หรือหอบเหนื่อย
    • เจ็บหน้าอก
    • เวียนศีรษะอย่างรุนแรง
    • คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย

     หากมีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาการรุนแรงควรรีบพบแพทย์โดยเร็วเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือติดเชื้อแทรกซ้อน

อาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ที่ต้องระวัง

ระยะเวลาของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

    • ระยะฟักตัว (1-4 วัน) – รับเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ
    • ระยะอาการหนัก (3-5 วัน) – ไข้สูง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยมาก
    • ระยะฟื้นตัว (7-14 วัน) – อาการดีขึ้นแต่ยังอ่อนเพลีย อาจมีไอหลงเหลือ

 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กี่วันหาย

     หากถามว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กี่วันหาย คำตอบคือโดยปกติผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการดีขึ้นภายใน 5-7 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น เช่นหากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ หรือระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจใช้เวลาฟื้นตัว มากกว่า 2 สัปดาห์

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กี่วันหาย

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

     เนื่องจาก ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A สามารถแพร่กระจายได้ง่าย ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย อย่างเช่น ไอ จาม สัมผัสน้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น ซึ่งการป้องกันตัวเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยสามารถปฏิบัติตามแนวทางดังนี้

 

1. ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

     ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพราะเชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา หากป่วยไข้หวัดใหญ่แล้วก็สามารถเป็นได้อีก อีกทั้งวัคซีนยังช่วยลดโอกาสติดเชื้อ และหากติดเชื้อ อาการจะไม่รุนแรงมาก

 

2. ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

     การดูแลสุขอนามัยของเราก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างการล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้แอลกอฮอล์เจล หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หรืออยู่ในที่แออัดที่มีผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรค

 

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย

     หากมีคนรอบข้างป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ควรเว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปคลุกคลีใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ เป็นต้น

 

4. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

     การมีภูมิคุ้มกันที่ดีก็จะช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ได้ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

     ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและมีความรุนแรงและเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม การป้องกันโรคเป็นสิ่งสำคัญ ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัย และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อและลดความรุนแรงของอาการ และอย่าลืมหมั่นสังเกตุอาการตัวเองและคนรอบข้างหากมีอาการไข้สูงและไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรรีบพบแพทย์โดยทันที

 

     เพิ่มความอุ่นใจให้สุขภาพด้วย ประกันสุขภาพ ให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย คุ้มครองทั้งค่าห้อง ค่ายา ค่ารักษา สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันสุขภาพ หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM สามารถแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านเบอร์ Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ  

ประกันสุขภาพ TQM

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
สุขภาพ
มะเร็ง
ลดหย่อนภาษี

ชื่อ *

นามสกุล *

เพศ *

วัน/เดือน/ปีเกิด *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง