รวม 5 ประกันสำคัญที่คนไทยควรมี รับมือแผ่นดินไหวแบบไม่เสียเปล่า

    เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในไทย แม้จะไม่รุนแรงเท่าประเทศอื่น แต่ก็สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและจิตใจได้ไม่น้อย พี่หมี TQM เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ถ้าเกิดเหตุแบบนี้กับเราบ้าง จะมีอะไรคุ้มครองหรือเปล่า?” เพราะฉะนั้นบทความนี้พี่หมีจะพาไปดูว่า "ประกันแบบไหนที่ควรมีไว้" เพื่อรับมือแผ่นดินไหวแบบไม่เสียเปล่า

 

1. ประกันภัยบ้านและที่อยู่อาศัย

เหตุผลที่ควรพิจารณา

    แผ่นดินไหวอาจไม่ใช่ภัยที่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วกลับสร้างความเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะกับบ้านพักอาศัยที่อาจร้าว แตกร้าว หรือทรุดตัว ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากในการซ่อมแซม นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยและความปลอดภัยของสมาชิกในครอบครัวด้วย การมีประกันบ้านไว้จะช่วยให้เจ้าของบ้านมีความมั่นใจ และมีแหล่งเงินทุนสำหรับการซ่อมแซมโดยไม่ต้องควักเงินก้อนใหญ่เอง

 

รายละเอียดความคุ้มครอง

    ประกันภัยบ้านและที่อยู่อาศัยโดยทั่วไปจะครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม พายุ และที่สำคัญคือแผ่นดินไหว ทั้งนี้ต้องตรวจสอบว่าแผนประกันของเรารวมภัยแผ่นดินไหวไว้หรือไม่ นอกจากนี้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโครงสร้างอาคาร รวมถึงทรัพย์สินภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสิ่งของมีค่าบางประเภทตามวงเงินที่ระบุ

 

แนวทางในการเลือกแผนประกัน

    แนะนำให้เลือกแผนที่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติแบบครอบคลุม โดยเฉพาะแผ่นดินไหว หากแผนหลักไม่มีคุ้มครอง ควรพิจารณาซื้อความคุ้มครองภัยพิเศษเพิ่มเติม และอย่าลืมประเมินทุนประกันให้เหมาะสมกับมูลค่าทรัพย์สินในบ้าน เพื่อให้ได้รับค่าชดเชยอย่างเพียงพอในกรณีเกิดเหตุ

2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

เหตุผลที่ควรพิจารณา

    แม้รถยนต์จะไม่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนโดยตรงเหมือนบ้านเรือน แต่หากที่จอดรถอยู่ในพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้าง เช่น ตึก หรือป้ายโฆษณา ที่อาจพังถล่มลงมาทับในขณะเกิดแผ่นดินไหว ก็อาจทำให้รถเสียหายได้ หรือแม้กระทั่งทางเดินถนนแตกร้าวจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ ประกันรถยนต์จึงเป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองที่ควรมี

 

รายละเอียดความคุ้มครอง

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมความเสียหายต่อรถยนต์จากเหตุการณ์ไม่คาดคิด รวมถึงภัยธรรมชาติบางประเภท เช่น น้ำท่วม ลูกเห็บ หรืออาคารถล่มจากแผ่นดินไหว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแผน อาจรวมถึงบริการรถทดแทน ค่าใช้จ่ายระหว่างซ่อม และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

 

แนวทางในการเลือกแผนประกัน

    ควรสอบถามบริษัทประกันให้ชัดเจนว่าแผนที่เลือกให้ความคุ้มครองจากแผ่นดินไหวหรือไม่ หากไม่ครอบคลุม ควรซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม และควรเลือกแผนที่มีบริการหลังการขาย เช่น รถลากฉุกเฉินหรือรถใช้ระหว่างซ่อม เพื่อความสะดวกในยามเกิดเหตุ

 

3. ประกันอุบัติเหตุ

เหตุผลที่ควรพิจารณา

    เหตุแผ่นดินไหวอาจส่งผลให้ผู้คนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น หกล้ม ข้าวของหล่นใส่ หรือบาดเจ็บขณะอพยพ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลสามารถช่วยดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเหตุฉุกเฉินเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องหยุดงาน หรือมีภาระค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน

 

รายละเอียดความคุ้มครอง

    ความคุ้มครองของประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลประกอบด้วย ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ค่าชดเชยรายได้รายวันในกรณีต้องพักรักษาตัว เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยบรรเทาภาระของครอบครัวในช่วงเวลาวิกฤต

 

แนวทางในการเลือกแผนประกัน

    เลือกแผนที่ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงและคุ้มครองทั่วโลก เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างแผ่นดินไหวอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ควรพิจารณาแผนที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้าน

4. ประกันสุขภาพ

เหตุผลที่ควรพิจารณา

    แม้แผ่นดินไหวจะไม่ทำให้เกิดบาดเจ็บรุนแรงเสมอไป แต่เหตุการณ์ที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะเครียดเรื้อรัง วิตกกังวล หรือแม้แต่ปัญหาทางร่างกายที่เกิดจากการอพยพหรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การมีประกันสุขภาพจะช่วยให้เข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

 

รายละเอียดความคุ้มครอง

    แผนประกันสุขภาพที่ดีควรครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าห้อง ค่าตรวจวินิจฉัย และที่สำคัญคือคุ้มครองสุขภาพจิตหรือภาวะจากเหตุภัยพิบัติ (ในบางแผน) ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ

 

แนวทางในการเลือกแผนประกัน

    ควรเลือกแผนที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้บริการทางการแพทย์ของตนเอง และเลือกวงเงินที่ครอบคลุมโรงพยาบาลที่ใช้งานประจำ รวมถึงศึกษาข้อจำกัด เช่น ระยะเวลารอคอย หรือข้อยกเว้นต่าง ๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

 

5. ประกันชีวิต

เหตุผลที่ควรพิจารณา

    แม้แผ่นดินไหวจะไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกรณีที่โครงสร้างพังถล่มหรือเกิดอุบัติเหตุรุนแรง การมีประกันชีวิตจะช่วยให้ครอบครัวผู้เอาประกันไม่ต้องเผชิญภาวะทางการเงินที่หนักหน่วงในช่วงเวลาสูญเสีย พร้อมช่วยให้ลูกหลานยังคงมีเงินทุนเพื่อการศึกษาหรือดำรงชีพต่อไป

 

รายละเอียดความคุ้มครอง

    ประกันชีวิตมักให้ความคุ้มครองในรูปแบบเงินก้อนเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ และในบางแผนอาจมี Rider หรือความคุ้มครองเสริมที่ครอบคลุมการเสียชีวิตจากภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหวโดยเฉพาะ หรืออุบัติเหตุรุนแรงซึ่งมักเกิดควบคู่กับภัยธรรมชาติ

แนวทางในการเลือกแผนประกัน

    ควรเลือกแผนประกันชีวิตที่เหมาะกับภาระทางการเงินของครอบครัว และพิจารณาทุนประกันให้เพียงพอกับรายจ่ายระยะยาว เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าเล่าเรียน หรือรายจ่ายทั่วไป อีกทั้งควรพิจารณา Rider เสริมเกี่ยวกับภัยธรรมชาติเพื่อให้ครอบคลุมความเสี่ยงอย่างครบถ้วน

 

    พี่หมีขอสรุปอีกครั้งว่า หากคุณอยากรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวแบบไม่เสียเปล่า 5 ประกันที่ไม่ควรพลาด ได้แก่

1. ประกันภัยบ้านและที่อยู่อาศัย

2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

3. ประกันอุบัติเหตุ

4. ประกันสุขภาพ

5. ประกันชีวิต

 

    แต่ละแบบมีจุดเด่นที่ช่วยลดผลกระทบทางการเงิน ทั้งจากความเสียหายต่อทรัพย์สิน บาดเจ็บ หรือแม้แต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัง รถพัง หรือสุขภาพที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ประกันเหล่านี้คือเกราะคุ้มครองที่ช่วยให้เราฟื้นตัวได้ไว ทั้งในแง่จิตใจและเศรษฐกิจ ฉะนั้นอย่ารอให้เหตุการณ์เกิดก่อนแล้วค่อยมองหา “ประกัน” ที่ใช่ เริ่มต้นจากการตรวจสอบความเสี่ยงของตัวเอง และเลือกประกันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของคุณ หากใครสนใจ อยากเช็กเบี้ยหรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ พี่หมี TQM ยินดีช่วยดูแผนที่ใช่ให้คุณฟรี ๆ พร้อมเปรียบเทียบแผนจากหลายบริษัทประกันในที่เดียว ง่าย รวดเร็ว และมั่นใจว่าได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมจริง ๆ ครับ โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง