5 สิ่งที่ต้องเช็ค หลังขับรถลุยน้ำท่วมขัง
article created at icon18/08/63

|

อ่านแล้ว 896 ครั้ง

5 สิ่งที่ต้องเช็ค หลังขับรถลุยน้ำท่วมขัง

ขับรถลุยน้ำท่วมขัง อย่าลืมเช็คสิ่งนี้!!

 

     ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เวลาขับรถไปไหนก็ต้องเผื่อใจไว้ว่าจะเจอกับถนนที่มีน้ำท่วมขังหรือเปล่า และถ้าเจอจริงๆ จะวนรถถอยหลังกลับก็คงยาก เลยต้องเดินหน้าฝ่าน้ำท่วมขังไปแบบใจกล้าๆ กลัวๆ

 

     แต่..ถึงแม้ว่าจะขับรถลุยน้ำท่วมไปได้ เครื่องไม่ดับกลางทาง ขึ้นชื่อว่า ขับรถลุยน้ำท่วม ก็มีแต่ข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับระบบการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ โดยเฉพาะการลุยน้ำที่มีระดับสูงเกินครึ่งล้อ ก็จะมี 5 สิ่งที่ต้องเช็ค เพื่อให้รถไม่พังหลังขับลุยน้ำท่วมขังมาแล้ว

 

ระบบเบรค

 

1. ระบบเบรค

 

     สำหรับระบบเบรคของรถยนต์มีอยู่ 2 แบบ “ดิสก์เบรก” กับ “ดรัมเบรก” แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคไหน ก็ไม่ถูกกับน้ำอยู่ดี เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า น้ำกับโลหะเมื่อมาเจอกัน จะทำให้โลหะเกิดสนิม ทำให้เบรคติดขัด ส่วนน้ำมันเบรกเกิดความชื้น ทำให้เบรคลื่น เบรคไม่อยู่และเกิดอุบัติเหตุได้

 

     ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งปนเปื้อนและเศษผงที่มากับน้ำ จะเข้าไปติดในระบบเบรคจนทำให้เกิดอาการเบรคติดขัด เกิดเป็นรอยบนชุดจานเบรค

 

วิธีช่วยไล่ความชื้นออกจากเบรค

     หลังจากต้องขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง สิ่งที่ควรทำเสมอ คือ การเลียเบรค เพื่อไล่ความชื้นในผ้าเบรคออก ทำได้โดยการขับรถช้าๆ แล้วใช้เท้าซ้ายแตะเบรกเบา ๆ ค้างเอาไว้เป็นระยะทางสัก 100 เมตร เพื่อให้ผ้าเบรกเสียดสีกับจานเบรกจนเกิดความร้อนเป็นการช่วยเร่งการระเหยของความชื้นออกจากผ้าเบรกทำให้ระบบเบรกกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ลูกปืนล้อ

 

2. ลูกปืนล้อ

 

     โดยปกติแล้ว ลูกปืนล้อ หากถูกแช่น้ำนานๆ อาจต้องทำใจไว้ ลูกปืนจะพังเร็ว สังเกตอาการได้จากเสียง ลูกปืนล้อจะดังขึ้นเวลาวิ่งความเร็วสูงๆ เพราะจารบีที่คอยหล่อลื่นภายในลูกปืนได้หายไปกับน้ำ หรืออาจจะเสื่อมคุณภาพแล้วเมื่อถูกน้ำ แต่ถ้าเป็นการขับรถวิ่งผ่านน้ำเฉยๆ จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่อย่างไรก็ควรเช็คอาการกันไว้ก่อน

 

เพลาขับ

 

3. เพลาขับและเฟืองท้าย

 

     ใครที่ขับรถลุยน้ำแบบมิดใต้ท้อง ต้องเช็คสิ่งนี้ด่วน! ชุดเพลาขับและเฟืองท้าย เป็นอุปกรณ์ที่สุ่งเสี่ยงต่อการน้ำเข้า ถ้ายางหุ้มเพลาเสื่อมฉีกขาด มีโอกาสน้ำเข้าไปชะจาระบีที่อยู่ภายในสูงพอตัว ส่วนเฟืองท้าย น้ำสามารถเล็ดเข้าไปให้ในท่อหายใจของน้ำมันเฟืองท้ายได้ หลังขับรถลุยย้ำมาแล้วให้เช็คเสียง หากชุดเพลามีปัญหาจะมีเสียงดังออกมา โดยแก้ด้วยการทาจารบีใหม่ เปลี่ยนยางหุ้มเพลาใหม่ และเปลี่ยนถ่ายของเหลว

 

ระบบปรับอากาศมีกลิ่นอับ

 

4. ระบบปรับอากาศ

 

     ขับรถลุยน้ำขังบ่อยๆ อาจทำให้น้ำเข้ามาในรถแบบไม่รู้ตัว จนเกิดเป็นความชื้น ส่งกลิ่นเหม็นสาปภายในรถยนต์ ถึงแม้รถเราจะไม่ได้จมน้ำ แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์นี้ก็ไม่ได้ทำให้รถเราต่างอะไรออกไป ฉะยั้ยเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจน้ำท่วมอย่าลืม ไปหาโอกาสกำจัดกลิ่นในระบบแอร์บ้าง

 

เช็คน้ำมันเครื่อง

 

5. น้ำมันเครื่อง

 

     มาถึงสิ่งสุดท้ายที่ควรเช็ค คือ น้ำมันเครื่อง ว่ามีน้ำผสมอยู่หรือไม่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาเพื่อดูเนื้อของตัวน้ำมัน ถ้าเป็นเนื้อเดียวกันแสดงว่าไม่มีน้ำผสม แต่ถ้าดูแล้วน้ำมันเครื่องเป็นสีออกน้ำตาลๆ หรือแยกชั้นระหว่างน้ำกับน้ำมัน แสดงว่า น้ำได้เข้าไปรวมกับน้ำมันเครื่องแล้ว ต้องนำรถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองใหม่ทั้งหมดทันที

 

     จะเห็นได้ว่าน้ำและความชื้น อาจสร้างความเสียหายให้กับรถได้มากพอตัว จำเป็นต้องเช็ครถหลังขับลุยน้ำท่วมขังอยู่เสมอ หากรถผิดปกติจะได้นำรถเข้าซ่อมได้ทัน และเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงตามมา แต่นอกจากการเช็คสภาพรถแล้ว พี่หมีแนะนำ ทำประกันชั้น 1 ไว้ อย่างน้อยมีประกันช่วยชดเชยความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดจากเหตุน้ำท่วมได้ สนใจ เช็คราคาประกันชั้น1 กับเรา คลิกที่นี่เลย รับรองได้ราคาสุดคุ้ม หรือปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

READ MORE : 
 
 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

TQM Bear
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
TQM Logo
TQM Logo

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

facebook
line
youtube
twitter
TQM Application
TQM IOS Application
TQM Android Application
ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเลขที่ 0105540084143

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยเลขที่ ว00019/2546

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล
TQM Application
TQM IOS Application
TQM Android Application
แชทกับเรา