การเปิดไฟรถยนต์ ต้องรู้จักวิธีเปิดให้ดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า หรือ ไฟหลัง เพราะอาจจะกลายเป็นการกระพริบไฟเตือนสัญญาณให้เข้าใจผิดกันได้  เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเปิดไฟสูง ไฟตัดหมอก ก็ต้องเปิดอย่างระมัดระวัง

 

 

    รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะได้ติดตั้งไฟตัดหมอกมากับรถยนต์นี้ด้วย บางคนเข้าใจผิดว่า ดวงไฟนี้เป็นของแถมมาให้ใช้งานอย่างไรก็ได้  แต่ตามกฎหมายกฎจราจรของไทยแล้ว มีข้อกำหนดในการเปิดไฟตัดหมอก นี้ เพราะทำให้ทัศนวิสัยของเพื่อนร่วมทางที่ขับสวนมานั้นอันตรายได้ มาดูกันว่า ไฟตัดหมอกมีคุณสมบัติอย่างไร

 

 

    ไม่ใช่ว่ารถทุกคันทางศูนย์จะติดไฟตัดหมอกมาให้ ไฟดวงนี้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไฟเดียวกับไฟที่ใช้งานปกติ ให้สังเกตดี ๆ ด้านหน้า และ ด้านหลังของรถยนต์ก็จะมีไฟดวงเล็ก ๆ ซึ่งเป็น “ไฟสีขาว” และเป็น “ไฟสีเหลือง” พบได้กับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ผลิตไม่เกิน 10 ปีนี้ อาทิ รถ 7 ที่นั่ง, รถโฟร์วิล ก็มักจะมีไฟตัดหมอกติดมาให้ทั้งหมด  รถยนต์ Eco Car ที่ต้องการติดไฟตัดหมอกนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก่อนรับรถออกจากศูนย์

 

 

    หมอกฝน กับ หมอกหนาว ไม่เหมือนกัน ไม่ควรเปิดไฟตัดหมอกขณะที่ฝนตก เพราะจะทำให้เกิดการสะท้อน แสงไฟกับละอองอนุภาคของน้ำฝน ซึ่งจะยิ่งทำให้เพื่อนร่วมทางแสบตาได้ แม้แต่ตัวคุณเองที่เป็นคนขับก็อาจจะรู้สึกเคืองตาเองด้วย  สรุปแล้วเปิดไฟตัดหมอกหน้าฝน เกิดผลเสียมากกว่าผลดีแน่ ๆ

 

 

    ในกรุงเทพนั้นแทบจะไม่มีโอกาสได้ใช้ไฟตัดหมอกเลย แต่หากได้เดินทางไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงฤดูหนาว ก็มีสิทธิ์ได้ใช้เมื่อพบเจอกับกลุ่มหมอกตอนเช้า และอาจจะได้เจอกลุ่มควันจากไฟป่าเมื่อขับรถขึ้นเขาเท่านั้น

          

 

•ขับรถผ่ากลุ่มควันไฟ

•ขับรถผ่ากลุ่มหมอก

 

 

    กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับไฟตัดหมอกมากที่สุด คือ ประมวลกฎหมายจราจรทางบก ฉบับแก้ไขปี พ.ศ. 2536 กำหนดไว้ว่า การเปิดไฟตัดหมอกนั้นต้องเปิดในสภาวะที่มีกลุ่มฝุ่นควัน ที่ทำให้มองเห็นถนนลำบากเท่านั้น โดยดวงไฟตัดหมอกต้องเป็นแสงสีขาวหรือสีเหลือง ที่มีกำลังไฟไม่เกิน 55 วัตต์ และหากเปิดไฟตัดหมอกในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็น ก็อาจจะโดนโทษปรับ 500 บาท

 

    ไฟตัดหมอกมีความสำคัญไม่น้อยกว่าอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดมาให้กับรถยนต์ แต่หากใช้ผิดวิธี เปิดไว้ตลอด ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกับเพื่อนร่วมทางได้ ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนรถยนต์ทุกครั้ง ก็ต้องสังเกตว่าไฟตัดหมอกอยู่ตรงไหน อย่าไปเผลอเปิดค้างไว้ จนทำให้ถูกปรับ หรือ เกิดอุบัติเหตุสะก่อน ทางที่ดี "ทำประกันภัยรถยนต์" ไว้คุ้มครองรถและดูแลคุณ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็มีประกันช่วยจ่าย สนใจปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร Hotline 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแชทกับเราได้ที่นี่เลย ^^

 

READ MORE :

 

►  สัญญาณไฟรถยนต์...ใช้อย่างไร? 

►  4 วิธีเตรียมพร้อมขับ รับหน้าหนาว 

►  อัพเดท พ.ร.บ.ใหม่แบบเข้าใจง่ายๆ