เมื่อรถชนแล้วหัวร้อนมีวิธีดับหัวร้อนยังไงบ้าง ไม่ให้บานปลาย
อาการหงุดหงิด สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อาจจะเนื่องมาจากสิ่งเร้าต่าง ๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งอาจจะตอนฝนตก รถติด หรือเจอพฤติกรรมหรือสิ่งที่ไม่ถูกตาต้องใจ ก็จะพาลหงุดหงิด ไม่ชอบใจ หรือ หัวร้อนกันได้ แต่ถ้าจากข่าวสาร หรือ จากสื่อต่างๆ จะเห็นได้ว่าคนไทยมีอัตราความอารมณ์ร้อน ความใจร้อน และความไม่ยับยั้งชั่งใจสูงขึ้น เห็นได้จากข่าวการทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท ด้วยปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อาการหัวร้อน ที่อันตรายที่สุด และ พบเจอบ่อยมากที่สุดนั่นก็คือ การหัวร้อน หรือ การหงุดหงิดจากการขับรถยนต์ อาจจะเนื่องด้วยอากาศที่ร้อน การจราจรที่หนาแน่นติดขัด และสภาวะต่างๆรอบตัวทำให้เรานั้นเกิดอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาได้ง่ายๆ แล้วยิ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุด้วยแล้วนั้นความหัวร้อนอาจจะยิ่งทวีคูณ เพราะมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่า เสียเวลา รถพัง ต้องรอประกัน ไปทำงานสายต้องโดนตำหนิ เคลียร์กับคู่กรณีไม่ลงตัว เป็นต้น บางคนหัวร้อนจนควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจจะมีทั้งการต่อว่าด้วยคำพูดหยาบคาย หรือทำร้ายร่างกาย อย่างที่เราพบเจอบ่อยๆ ในสังคมปัจจุบันและตามสื่อโซเชียลต่างๆ วันนี้พี่หมีก็มีทริค “วิธีดับหัวร้อน” เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มาฝากกัน
1. ดึงสติ
เมื่อเราโมโห หรือ หงุดหงิด อยู่นั้น สิ่งที่ขาดหายไปคือ สติ เพราะอาการโมโหหัวร้อนสามารถทำให้เรา ทำอะไรแบบไม่คิดได้ ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่ควรทำสิ่งแรกคือ การดึงสติตัวเองเอาไว้แล้วค่อยๆแก้ไขปัญหาตรงหน้า หากเรามีสติอยู่ตลอดเวลาปัญหาบานปลายต่างๆก็จะไม่เกิดนะครับ
2. นับ 1 ถึง 10
หากหัวร้อนอยู่นั้นให้ลองนับ 1 ถึง 10 ในใจแบบช้าๆ ค่อยๆนับ จะทำให้จิตใจของเรานั้นจดจออยู่กับการนับเลข และมีสติมากยิ่งขึ้น ไม่ควรจดจ่อกับสถานการณ์ตรงหน้า ให้ค่อยๆ นับ หาก 10 ไม่ได้ผลให้นับต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้านับถึง 100 แล้วยังเรียกสติกลับมาไม่ได้ก็คงต้องใช้วิธีอื่นเป็นตัวช่วยแล้วนะครับ
3. หลีกเลี่ยงสถานการณ์ตรงหน้า
หากขณะที่เรากำลังโมโหอยู่นั้น อาจจะยังเคลียร์กันไม่ลงตัว หรือกำลังเถียงกัน ทะเลาะกัน หรือ เจออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่พอใจ ให้เราหลบ หรือ แยกตัวออกมาจากจุดนั้น หรือ เข้าไปนั่งในตัวรถเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
4. โทรหาเพื่อน หรือ โทรหาคนที่สามารถให้คำปรึกษาได้
ตอนที่อารมณ์หัวร้อนอยู่นั้น หากไม่รู้จะระบายออกทางไหน ให้โทรหาเพื่อน หรือ โทรหาคนสนิท เพื่อระบายสิ่งที่กำลังพบเจอหรือขอคำปรึกษา เพื่อนหรือคนใกล้ชิด จะสามารถช่วยพูดจาดึงสติให้เราคลายอารมณ์หัวร้อนได้ ดีกว่าไประบายใส่คู่กรณีให้เกิดปัญหาบานปลายขึ้นมาอีก
5. หายใจเข้าออกลึกๆ
เมื่อหัวร้อน หรือ หงุดหงิด ให้ลองหายใจเข้าออกลึกๆ ไม่ต้องถึงกับท่องยุบหนอ พองหนอ แต่ให้จิตใจจดจ่อกับลมหายใจ เหมือนเป็นการทำสมาธิไปในตัว เพราะการที่เราสูดลมหายใจเข้าลึกๆจะช่วยทำให้ออกซิเจนสามารถเข้าไปได้เต็มปอด และทำสมองเราทำงานได้ดียิ่งขึ้น เมื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ปล่อยลมหายใจออกช้าๆ เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ที่กำลังหงุดหงิดออกมาและเป็นการดึงสติเราไปในตัวอีกด้วย
6. ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ
การหาเครื่องดื่มเย็นๆ ดื่มดับหัวร้อนถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างดี เพราะการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และความเย็นจากเครื่องดื่มนั้นก็จะช่วยให้เราลดอัตราความหัวร้อนลงได้อีกด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่ขับรถควรติดเครื่องดื่มเย็นๆไว้ในรถกันสักแก้วก็ดีนะครับ
7. เลือกที่จะมองโลกในแง่ดี
การให้อภัย ถือเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติในสังคมปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะการหัวร้อน อารมณ์ร้อนหงุดหงิด ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อตัวเองทั้งนั้น หากลองปล่อยวางและมองโลกในแง่ดีดูบ้างทุกอย่างอาจจะดีขึ้น ให้ลองมองอีกด้านที่เป็นแง่ดี และให้อภัยผู้อื่น บางทีก็โลกสวยก็ช่วยได้ในหลายๆสถานการณ์นะครับ
8. ไม่ตอบโต้ และ ทำหูทวนลม
เมื่อหัวร้อนและกำลังเกิดการโต้เถียงอยู่นั้น หากเราหัวร้อน คู่กรณีหัวร้อน ก็จะเกิดการปะทะอย่างแน่นอน อาจจะปะทะทั้งอารมณ์และร่างกายเลยก็ว่าได้ ให้ลองทำหูทวนลม ไม่ตอบโต้ หรือ เมินสถานการณ์ตรงนั้นก่อน บางทีการปิดหู ปิดตา ปิดปาก ก็จะทำให้ช่วยดับหัวร้อนได้ พยายามอย่าไปสนใจสิ่งที่จะทำให้เราเกิดบันดาลโทสะเพิ่มมากขึ้น
9. นึกถึงคนที่เรารัก
เมื่อหัวร้อน หรือ กำลังโกรธ การนึกถึงหน้าคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่ช่วยได้จริงๆนะครับ เพราะปกติแล้วคนเรามักจะนึกถึงแต่ตัวเอง แต่อย่าลืมนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลัง คนที่คุณรัก และคนที่เป็นห่วงคุณ เพราะหากหัวร้อนจนเกิดสถานการณ์แย่ๆขึ้นมาคนที่รู้สึกเสียใจไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว
10. ใช้คำว่า”ขอโทษ” ให้เป็น
คำพูดง่ายๆที่ควรใช้ให้เป็น การขอโทษไม่ใช่เรื่องที่หน้าอาย หากคุณเป็นฝ่ายผิดการถือทิฐิไม่ได้เป็นผลดีอะไร การเลือกที่จะขอโทษนั้น เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความจริงใจ และการรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ควรขอโทษซึ่งกันและกันจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมาได้ เพราะการพูดว่าขอโทษไม่ได้หมายความว่าเราเป็นฝ่ายผิดเสมอไป
อย่างไรก็ตาม “การให้อภัย” ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อให้หัวร้อนแค่ไหนก็ควรเลือกที่จะรู้จักการให้อภัย และที่สำคัญ เมื่อเกิด
อุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นมา สิ่งที่ควรกระทำสิ่งแรกคือ การโทรเรียกประกัน ควรให้บริษัทประกันมาถึงจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด หรืออาจจะขอคำปรึกษาจากบริษัทประกันว่าเกิดเหตุแบบนี้ควรจะทำเช่นไร หากได้รับบริการที่ดีก็จะทำให้เราหัวร้อนน้อยลงได้ เพราะอย่างไรเราและคู่กรณีก็มีประกันก็ทำให้เราอุ่นใจได้ในระดับนึงแล้วล่ะครับ แต่ขอบอกไว้สักนิดว่าหากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทประกันเขาไม่จ่ายค่าประกันตัวให้นะครับ ดังนั้นหากหัวร้อนเมื่อไหร่เลื่อนขึ้นไปใช้วิธีด้านบนช่วยได้เยอะแน่นอน
READ MORE :
► บังคับรถตอนถนนลื่น รถไถล
► ดูแลสีรถยังไงให้สวยแจ่มสู้ฝน
► 5 ส่วนของรถมักเสียช่วงหน้าร้อน