เตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นอย่างไรให้พร้อม: ทำไมประกันเดินทางจึงสำคัญ?

ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย

    ประเทศญี่ปุ่น (Japan) หรือที่รู้จักในนาม "ดินแดนอาทิตย์อุทัย"  เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 4 เกาะหลัก คือ ฮอกไกโด (Hokkaido), ฮอนชู (Honshu), ชิโกกุ (Shikoku) และคิวชู (Kyushu) นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็กๆ อีกนับพันกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้ญี่ปุ่นมีสภาพอากาศที่หลากหลาย ทั้งฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

---

วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่น่าสนใจ

    วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากหลายแหล่ง ทั้งจากจีน เกาหลี และยุโรป อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นได้ปรับวัฒนธรรมเหล่านั้นเข้ากับวิถีชีวิตของตัวเองจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของชาติ และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทำให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะเดินทางไปสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น

 

วัฒนธรรมดั้งเดิม

    วัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นประกอบด้วยศิลปะการต่อสู้ เช่น ซามูไร (Samurai) และวิชาดาบเคนโด (Kendo) รวมถึงการจัดดอกไม้แบบอิเคบานะ (Ikebana) และพิธีชงชาญี่ปุ่นที่เรียกว่า “ชาโดะ” (Chado) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิถีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับความสงบและสมาธิ นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมอื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี อย่างเช่น การสวมชุดกิโมโน (Kimono) ในโอกาสพิเศษต่างๆ การจัดสวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) ที่เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความงดงาม และการตกแต่งบ้านแบบญี่ปุ่นที่ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และกระดาษ

วัฒนธรรมสมัยใหม่

    นอกจากวัฒนธรรมดั้งเดิมแล้ว ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสมัยใหม่มากมาย เช่น อนิเมะ (Anime) และมังงะ (Manga) ที่เป็นที่นิยมทั่วโลก ดนตรีสไตล์เจป๊อป (J-pop) และภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านหุ่นยนต์และนวัตกรรมใหม่ๆ

---

อาหารญี่ปุ่นยอดฮิต

    อาหารญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เช่น ซูชิ (Sushi), ซาชิมิ (Sashimi), ราเมน (Ramen), เทมปุระ (Tempura) และข้าวหน้าต่างๆ นอกจากนี้อาหารญี่ปุ่นยังเน้นความสดใหม่และสมดุลของรสชาติ รวมถึงการจัดจานที่สวยงามและความใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของการทำอาหารญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นยังได้รับการยกย่องในเรื่องของสุขภาพ เพราะมีการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและกระบวนการทำอาหารที่เน้นความสดและความเรียบง่าย ทำให้อาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในหลายประเทศ

---

ที่เที่ยวยอดฮิตในญี่ปุ่น ต้องไปที่ไหนบ้าง

    ด้านการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่อยากจะไปสัมผัสวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ตั้งแต่เมืองที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย สถาปัตยกรรม วัดและศาลเจ้าโบราณมากมาย ไปจนถึงธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นคงหนีไม่พ้น หนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของญี่ปุ่นคือ ภูเขาฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องการจะเห็น ภูเขาฟูจิตั้งอยู่ใกล้กับโตเกียว นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความงดงามของภูเขาฟูจิได้จากหลายมุมมอง เช่น ที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ ที่สามารถมองเห็นภูเขาฟูจิสะท้อนบนผิวน้ำได้อย่างสวยงาม โดยนอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ต้องไปเยือนเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกดังนี้

• โตเกียว (Tokyo) : เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ซึ่งใครที่ไปโตเกี่ยวคงจะต้องไปที่ชิบูย่า (Shibuya) ย่านแหล่งช้อปปิ้งที่ไม่เคยหลับใหล โดยเฉพาะบริเวณ "ห้าแยกชิบูย่า" ที่เป็นหนึ่งในจุดข้ามถนนที่มีผู้คนข้ามมากที่สุดในโลก อะกิฮาบาระ (Akihabara) แหล่งรวมของแฟน ๆ อนิเมะ มังงะ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นสวรรค์ของเหล่าคนรักเทคโนโลยีและวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่น หรือวัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์

 

• โอซาก้า (Osaka) : เมืองใหญ่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาความบันเทิงที่หลากหลาย และยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสชาติดีอย่าง ทาโกยากิ และโอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) โดยนอกจากจะไปชิมอาหารแล้วอย่าลืมที่จะไป Universal Studios Japan สวนสนุกที่มีทั้งเครื่องเล่นและโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือเดินชมปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้

• ฮอกไกโด (Hokkaido) : เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางเหนือของญี่ปุ่น สำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและอากาศหนาว ฮอกไกโด เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว เป็นเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ตชื่อดังหลายแห่ง เช่น นิเซโกะ (Niseko) ที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมไปถึงยังมีงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยงานนี้จะแสดงประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะที่สร้างสรรค์อย่างวิจิตรตระการตาที่เมืองซัปโปโร

• โอกินาว่า (Okinawa) : เป็นจังหวัดที่ประกอบด้วยหมู่เกาะมากมาย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น มีทะเลสวยงามและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศแบบเกาะเมืองร้อน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำมากมาย เช่น การดำน้ำลึก การดำน้ำสน็อกเกิล และการล่องเรือ ไม่ว่าจะเป็นที่เกาะอิชิกากิ และเกาะมิยาโกะ

• เกียวโต (Kyoto) : เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศและยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณไว้ได้อย่างดีเมืองนี้เต็มไปด้วยวัดวาอารามที่มีความงดงามและเงียบสงบ หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ วัดคิงกะกุจิ (Kinkakuji) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดทอง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรและตั้งอยู่บนสระน้ำที่สะท้อนแสงแดดงดงาม อีกทั้งยังมี วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizudera) หรือวัดน้ำใสที่มีวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมมองเห็นเมืองเกียวโตได้อย่างชัดเจน

---

การเดินทางในญี่ปุ่น

    ประเทศญี่ปุ่นมีระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และครอบคลุมพื้นที่อย่างหลากหลาย ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศนี้เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะระบบรถไฟที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดในโลก อย่างเช่นรถไฟความเร็วสูง Shinkansen เชื่อมโยงเมืองหลักทั่วประเทศ เช่น โตเกียว-โอซาก้า หรือโตเกียว-ฮิโรชิม่า การเดินทางโดยชินคันเซนไม่เพียงรวดเร็ว ยังสะดวกสบายมาก แต่ราคาค่อนข้างสูง สำหรับนักท่องเที่ยวถ้ามีแผนเดินทางหลายเมือง ควรซื้อบัตรโดยสาร Japan Rail Pass ที่ใช้เดินทางไม่จำกัดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางได้มากเลยทีเดียว

    นอกจากรถไฟความเร็วสูง Shinkansen แล้ว ยังมีรถไฟใต้ดินที่ตรงเวลาและครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ  รถบัสในเมือง รถบัสข้ามเมือง หรือแม้แต่รถแท็กซี่ที่สะดวกและปลอดภัย แต่ค่าโดยสารอาจสูงกว่าการใช้รถไฟหรือรถบัส