เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 409 ครั้ง
ในช่วงหน้าฝนปัญหาสำคัญที่คนขับรถยนต์ต้องพบเจอบ่อยที่สุดก็คือการ ขับรถลุยน้ำท่วม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อรถยนต์ โดยเฉพาะกรณีที่ ขับรถลุยน้ำท่วม เครื่องยนต์พัง แล้วจำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมทันที คำถามสำคันที่หลายคนสงสัยก็คือว่า ประกันรถเคลมน้ำท่วมได้ไหม? และต้องทำอย่างไรเพื่อให้การเคลมประกันง่ายและเร็วที่สุด วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากครับ
การขับรถลุยน้ำท่วม เป็นสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายกว่าที่คิด เพราะไม่ใช่แค่ว่าน้ำจะทำให้เครื่องยนต์ดับเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบร้ายแรงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
หนึ่งในปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดเมื่อคุณขับรถลุยน้ำท่วมคือการที่น้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้ หรือที่เรียกว่า Hydro Lock เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เครื่องยนต์จะดับทันทีและเสียหายรุนแรง หากคุณฝืนสตาร์ทเครื่องต่ออาจทำให้เครื่องยนต์พังอย่างถาวรได้ทันที
เมื่อน้ำท่วมสูงจนถึงระดับเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าในรถยนต์อาจเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เช่น กล่อง ECU เสียหาย เซ็นเซอร์ต่างๆ ถูกน้ำเข้าทำลาย ส่งผลให้การซ่อมแซมต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหา ขับรถลุยน้ำท่วม เครื่องยนต์พัง คือประกันจะรับเคลมไหม? ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่คุณเลือกไว้
สำหรับผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หมดกังวลได้เลย เพราะบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะครอบคลุมกรณีน้ำท่วมไว้แล้ว แม้ว่าคุณจะ ขับรถลุยน้ำท่วม ด้วยตัวเองก็ตาม โดยการเคลมมีเงื่อนไขดังนี้
ในส่วนของประกันชั้น 2+ จะต้องตรวจสอบความคุ้มครองในกรมธรรม์ให้ละเอียด เพราะบางบริษัทประกันอาจมีการคุ้มครองภัยธรรมชาติรวมถึงภัยน้ำท่วมเข้าไปด้วย แต่จะต้องอยู่ในเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เช่น รถยนต์ต้องได้รับความเสียหายโดยตรงจากน้ำท่วม หรือไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ เช่น การขับขี่ลงไปในพื้นที่ที่มีป้ายเตือนชัดเจนว่าห้ามผ่าน
ส่วนประกันชั้นอื่นๆ ที่เหลืออย่าง ประกันชั้น 2 , ประกันชั้น 3+ และประกันชั้น 3 จะไม่ได้คุ้มครองในกรณีน้ำท่วมรถ ไม่ว่ารถจะเสียหายจากการขับลุยน้ำ หรือถูกน้ำท่วมจากภัยธรรมชาติก็ตาม
การ ขับรถลุยน้ำท่วม แล้วเครื่องยนต์พัง อาจไม่สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ในบางกรณี โดยเฉพาะถ้าประกันพิจารณาว่าเป็น “ความเสียหายที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ” หรือไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์นั้น ๆ โดยกรณีที่ประกันอาจจะไม่รับเคลมมีดังนี้
หากระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับที่รถควรขับผ่าน (เช่น น้ำท่วมเกินครึ่งล้อ หรือถึงระดับฝากระโปรง) และผู้ขับยังฝืนลุยเข้าไปจนทำให้เครื่องยนต์ดับหรือพัง ประกันอาจตีว่าเป็นความประมาท และไม่รับเคลม
การพยายามสตาร์ทรถซ้ำหลายครั้งหลังเครื่องดับในน้ำ เป็นสาเหตุหลักของการเกิด “อาการวาล์วงอหรือเครื่องยนต์พัง” (Hydrostatic lock) ซึ่งหลายบริษัทประกันจะไม่คุ้มครอง เพราะถือว่าเป็น “การกระทำที่จงใจหรือขาดความระมัดระวัง”
หากพื้นที่นั้นมีประกาศเตือนน้ำท่วมแล้ว ผู้ขับขี่ยังฝ่าฝืนเข้าไปขับรถลุยน้ำอย่างรู้เท่าทัน เช่น ใช้เส้นทางซึ่งมีข่าวเตือน หรือติดป้ายห้ามผ่านชัดเจน ประกันอาจปฏิเสธความคุ้มครองได้
หากเกิดเหตุแล้วไม่รีบแจ้งบริษัทประกันภายในระยะเวลาที่กำหนด (ปกติไม่เกิน 24 ชั่วโมง) หรือ ซ่อมรถก่อนแจ้งเคลมโดยไม่มีใบเสร็จ/ภาพหลักฐาน ก็อาจถูกปฏิเสธเคลมเช่นกัน
การ ขับรถลุยน้ำท่วม เครื่องยนต์พัง เป็นเหตุการณ์ที่อันตรายและทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายสูง หากมีการเตรียมตัวที่ดี โดยเฉพาะการเลือกประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมภัยน้ำท่วม คุณจะสามารถขับขี่ได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น ดังนั้น ก่อนหน้าฝนหรือช่วงน้ำท่วม ควรตรวจสอบกรมธรรม์ประกันรถยนต์ของคุณเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีความคุ้มครองที่เหมาะสม
อย่างประกันชั้น 1 หรือประกันชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองน้ำท่วมรถช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจ คุ้มครองทั้งอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างฝนตกหนักหรือความเสียหายจากน้ำท่วมรถ สนใจเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับทาง TQM หรือกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือโทร Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *