ผู้เอาประกันภัย กับ ผู้รับผลประโยชน์ เหมือนกันไหม เรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนทำประกัน

     ในการทำประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต เรามักจะได้ยินคำศัพท์ประกันเกี่ยวกับคำว่า ผู้เอาประกันภัย และ ผู้รับผลประโยชน์ อยู่เสมอ หลายคนจึงมักสับสนระหว่าง ผู้เอาประกันภัย และ ผู้รับผลประโยชน์ ว่าสองคำนี้หมายถึงคนเดียวกันหรือไม่ วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปไขข้อสงสัย พร้อมอธิบายความหมาย ความแตกต่าง และความสำคัญของทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องก่อนซื้อประกันครับ

ผู้เอาประกันภัย คืออะไร

     ผู้เอาประกันภัย หมายถึงบุคคลหรือองค์กรที่ทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย เพื่อความคุ้มครองจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อุบัติเหตุ ความเสียหาย ทรัพย์สินเสียหาย เป็นต้น ผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ชำระเบี้ยประกันภัยและมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย

 

บทบาทสำคัญของผู้เอาประกันภัย

• • จ่ายเบี้ยประกันภัยตามที่กำหนด
  • แจ้งเหตุเมื่อเกิดความเสียหายหรือเหตุการณ์ตามกรมธรรม์
  • ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนแก่บริษัทประกัน

 

ผู้รับผลประโยชน์ คืออะไร

     ผู้รับผลประโยชน์ คือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อรับเงินค่าสินไหมทดแทนเมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตหรือเกิดเหตุการณ์ตามที่ระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์อาจเป็นคนเดียวกับผู้เอาประกันภัย หรืออาจเป็นบุคคลอื่นที่ได้รับการระบุไว้ชัดเจน

 

บทบาทสำคัญของผู้รับผลประโยชน์

• • รับเงินค่าสินไหมทดแทนเมื่อมีเหตุการณ์ตามที่กรมธรรม์ระบุไว้
  • ให้ข้อมูลและเอกสารที่จำเป็นแก่บริษัทประกันภัยเมื่อเรียกร้องเงิน

ผู้เอาประกัน กับ ผู้รับผลประโยชน์ เหมือนกันไหม

     ชัดเจนแล้วว่าคำว่า ผู้เอาประกันภัย กับ ผู้รับผลประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกันเสมอไป แม้บางกรณีอาจเป็นบุคคลเดียวกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วบุคคลทั้งสองนี้จะมีบทบาทและความหมายแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น นาย A ทำประกันรถยนต์เป็นผู้เอาประกันภัย แต่ระบุให้ลูกๆ เป็นผู้รับผลประโยชน์ หากนาย A เสียชีวิตเงินประกันจะจ่ายให้กับลูกๆ ที่ระบุไว้ตามกรมธรรม์

 

กรณีที่ผู้เอาประกันภัย กับ ผู้รับผลประโยชน์ เป็นคนเดียวกัน

     ในบางกรณี ผู้เอาประกันภัย กับ ผู้รับผลประโยชน์ อาจเป็นบุคคลเดียวกัน เช่น ประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุที่ให้เงินชดเชยเมื่อเกิดเหตุ เช่น นอนโรงพยาบาล ซึ่งในกรณีนี้ ผู้เอาประกันก็จะเป็นผู้รับผลประโยชน์เองโดยตรง

 

     แต่ในกรณีของ ประกันชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะต้องเป็นบุคคลอื่น เพราะผู้เอาประกันภัยจะไม่ได้รับเงินในกรณีเสียชีวิตของตัวเอง

     จะเห็นได้ว่าผู้เอาประกันภัย และ ผู้รับผลประโยชน์ สามารถเป็นคนเดียวกันหรือคนละคนก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ทำไว้ สิ่งสำคัญคือควรตรวจสอบรายละเอียดในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับผลประโยชน์ตามที่คาดหวังไว้นั่นเอง

 

     และหากใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ ไว้คอยดูแลรถและดูแลคุณ พร้อมรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าและบริการผ่อน 0% สามารถเข้ามาเช็คราคาประกันรถยนต์ กับ TQM สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร Hotline 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ