19/05/68

|

อ่านแล้ว 134 ครั้ง

รวมคำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ฉบับเข้าใจง่าย

     สำหรับคนที่กำลังวางแผนซื้อประกันรถยนต์ครั้งแรก การเข้าใจ คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เข้าใจเงื่อนไขต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ วันนี้พี่หมี TQM ได้รวบรวม คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ ที่มือใหม่ต้องรู้ พร้อมอธิบายแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณตัดสินใจซื้อประกันได้อย่างมั่นใจและเข้าใจครบถ้วน

รวมคำศัพท์ประกันภัยรถยนต์

ความสำคัญของการรู้คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์

     เมื่อเราต้องซื้อประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะประกันชั้น 1, 2+ หรือ 3 คำที่อยู่ในกรมธรรม์ล้วนมีผลต่อความคุ้มครองและความเข้าใจของเรา หากไม่เข้าใจ คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ เหล่านี้ อาจทำให้คุณพลาดสิทธิ์บางอย่าง หรือเลือกประกันที่ไม่ตรงกับความต้องการได้

 

คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์พื้นฐานที่ควรรู้

1. กรมธรรม์ประกันภัย (Policy)

     กรมธรรม์ประกันภัย คือเอกสารที่ระบุข้อตกลงระหว่างผู้เอาประกันและบริษัทประกันภัย ภายในจะมีรายละเอียดเรื่องความคุ้มครอง ข้อจำกัด เงื่อนไข ระยะเวลา และทุนประกัน เช่น คุ้มครองกรณีรถชน รถหาย หรือไฟไหม้ เป็นต้น เอกสารฉบับนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการเคลม จึงควรอ่านทุกบรรทัดและเก็บไว้ให้ดี

 

2. ผู้เอาประกันภัย (Insured)

     ผู้เอาประกันภัย คือเจ้าของรถหรือบุคคลที่เป็นผู้ทำสัญญาประกันกับบริษัทประกัน หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ใด ๆ ตามที่กรมธรรม์คุ้มครอง ผู้เอาประกันคือผู้ที่สามารถเรียกร้องเงินชดเชยจากบริษัทประกันได้

 

3. ผู้รับประโยชน์ (Beneficiary)

     ผู้รับประโยชน์ คือบุคคลที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากการประกันภัย ในกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ หากกรมธรรม์มีการระบุ “ผู้รับประโยชน์” ไว้ เช่น คู่สมรส หรือบุตร บุคคลเหล่านี้จะได้รับเงินชดเชยแทน

 

4. เบี้ยประกันภัย (Premium)

     เบี้ยประกันภัย คือจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันเพื่อรับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ การคำนวณเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ยี่ห้อ รุ่น ประวัติการเคลม อายุผู้ขับขี่ และรูปแบบความคุ้มครอง

คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์พื้นฐานที่ควรรู้

5. ทุนประกันภัย (Sum Insured)

     ทุนประกันภัย คือวงเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายให้กรณีเกิดความเสียหายต่อรถหรือสูญหายทั้งคัน ทุนประกันจะถูกกำหนดตามมูลค่ารถปัจจุบัน และใช้เป็นเกณฑ์คำนวณค่าสินไหม

 

6. ระยะเวลาคุ้มครอง (Coverage Period)

     ระยะเวลาคุ้มครอง คือ ระยะเวลาที่บริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครอง ตามที่ระบุในกรมธรรม์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่สิ้นสุดตามที่ระบุไว้ในสัญญา ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลา 1 ปี (12 เดือน) หากผู้เอาประกันต้องการคุ้มครองต่อเนื่อง ก็ต้องทำการต่ออายุกรมธรรม์ก่อนวันที่สิ้นสุดเพื่อให้การคุ้มครองไม่ขาด

 

7. ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) (Compulsory Insurance)

     ประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. เป็นประกันที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก หากเกิดอุบัติเหตุ โดยให้ความคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคู่กรณี และคุ้มครองไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก อ่านความคุ้มครองของ พ.ร.บ. ล่าสุด คลิกที่นี่

 


8. ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance)

     ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ คือประกันที่เจ้าของรถสมัครใจ ซื้อเพื่อคุ้มครองเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ. แบ่งเป็นหลายประเภท ได้แก่ ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคุมที่สุด , ประกันชั้น 2+ , ประกันชั้น 2 , ประกันชั้น 3+ , และประกันชั้น 3 ซึ่งในแต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครอง และราคาค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกันไป อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์แต่ละประเภท คุ้มครองอะไรบ้าง คลิกที่นี่

คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์

9. ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess)

     ค่าเสียหายส่วนแรก หรือ ค่า Excess คือการถูกเรียกเก็บ เมื่อมีการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี หากไม่มีคู่กรณี และต้องการเคลมประกันก็ต้องจ่ายในส่วนของค่า Excess เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มมากยิ่ง โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

 

10. ค่าความเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible)

     ค่าความเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ หรือ ค่า Deductible คือการที่เราจะซื้อประกันรถยนต์ และแจ้งกับทางบริษัทประกันว่า อยากจะเสียค่าเสียหายส่วนแรกเท่าไหร่ หากเราจ่ายในส่วนของค่าเสียหายส่วนแรกเยอะ เช่น 3,000 หรือ 5,000 บาท จะทำให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ครั้งต่อไปถูกลงด้วย

 

11. ค่าเสื่อมราคา (Depreciation)

     ค่าเสื่อมราคา คือการหักค่าความเสื่อมของอะไหล่หรือชิ้นส่วนตามอายุการใช้งาน เวลาซ่อมรถ บริษัทประกันจะไม่จ่าย 100% สำหรับชิ้นส่วนที่มีอายุใช้งาน เช่น ไฟหน้า กันชน ยาง หรือแบตเตอรี่ ซึ่งอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง

 

12. ค่าสินไหมทดแทน (Claim Settlement) 

     ค่าสินไหมทดแทน คือ จำนวนเงินที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันหรือบุคคลที่ได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย โดยค่าสินไหมทดแทนนี้จะคำนวณจากมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เช่น การซ่อมแซมรถยนต์หรือค่ารักษาพยาบาล

รวมคำศัพท์ในวงการประกันรถ ที่มือใหม่ควรรู้ก่อนซื้อ

13. เคลมสด / เคลมแห้ง

     เคลมสด และ เคลมแห้ง เป็นคำที่ใช้ในการดำเนินการเคลม (Claim) หรือการเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัทประกัน โดยการเคลมของทั้งสองมีความต่างกันดังนี้

 

    • เคลมสด คือ การแจ้งการเคลมในทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ประกันมาที่จุดเกิดเหตุเพื่อประเมินความเสียหายและให้บริการในทันที เช่น การเกิดอุบัติเหตุบนถนนที่มีเจ้าหน้าที่ประกันมาถึงจุดเกิดเหตุทันที
    • เคลมแห้ง คือ การเคลมกรณีที่เกิดความเสียหายต่อรถยนต์หรือทรัพย์สินอื่นๆ โดยไม่ต้องมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่เกิดเหตุ เช่น ซ่อมรถที่อู่หลังจากการชนกับอุปสรรคที่ไม่ใช่คู่กรณี หรือการซ่อมแซมจากรอยขีดข่วนเล็กน้อย

 

14. ซ่อมอู่ / ซ่อมห้าง

     ซ่อมอู่ และ ซ่อมห้าง คือ การเลือกสถานที่ในการซ่อมรถที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ โดยมีความแตกต่างดังนี้

 

    • ซ่อมอู่ คือ การนำรถไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถที่ไม่ได้เป็นตัวแทนจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมที่ถูกกว่าการซ่อมที่ห้าง แต่บางครั้งอาจไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนที่เป็นของแท้จากบริษัทผู้ผลิต
    • ซ่อมห้าง คือ การนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรือห้างของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ซึ่งมักจะใช้ชิ้นส่วนที่เป็นของแท้จากผู้ผลิตและมีความเชี่ยวชาญในการซ่อมรถตามรุ่นและยี่ห้อของรถนั้นๆ แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมอาจสูงกว่าการซ่อมที่อู่

 

15. ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก (Third Party Liability)

     ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลที่ไม่ได้เป็นผู้เอาประกัน โดยจะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอก เช่นการบาดเจ็บ หากผู้ขับขี่ประสบอุบัติเหตุและทำให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บ เช่น การชนคนข้ามถนน เป็นต้น หรือความเสียหายทรัพย์สิน หากเกิดการชนกับทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เช่น รถยนต์คันอื่น อาคาร หรือรั้วของบ้าน ชนรถผู้อื่น ประกันจะจ่ายค่าซ่อมให้คู่กรณีตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

 

     เมื่อเข้าใจ คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ แล้วที่นี่เราก็จะสามารถเลือกประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้นไหน ประเภทใด และช่วยลดความกังวลเมื่อต้องเคลม หรือใช้สิทธิ์ต่างๆ เพราะเข้าใจในรายละเอียดที่ชัดเจน ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำประกันครั้งต่อไป อย่าลืมอ่านเอกสารและ ทำความเข้าใจกับคำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ ให้ถี่ถ้วน เพื่อความมั่นใจในทุกการขับขี่กันนะครับ

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

     จะเห็นได้ว่าประกันรถยนต์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก หากเพื่อนๆ กำลังมองหาประกันรถยนต์ สามารถเช็คราคาประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นนำ กับ TQM พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร Hotline 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง