เช็ครถก่อนขับลุยฝน รถคุณพร้อมแค่ไหนในหน้าฝนนี้

     เมื่อฤดูฝนมาถึง สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือความพร้อมของรถ เพราะการ ขับรถหน้าฝน มีความเสี่ยงมากกว่าปกติหลายเท่า ทั้งถนนลื่น ทัศนวิสัยแย่ และระบบเบรกที่อาจไม่ตอบสนองเท่าที่ควร ดังนั้นการเช็ครถก่อนขับลุยฝน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและผู้ร่วมทาง วันนี้พี่หมี TQM มาพร้อม 7 จุดสำคัญในการเช็ครถ ก่อนขับลุยฝน มาฝากกันครับ

7 จุดสำคัญในการเช็ครถ ก่อนขับลุยฝน

     ก่อนขับรถออกเดินทางในหน้าฝน อย่าลืมตรวจสอบ 7 จุดสำคัญของรถดังต่อไปนี้ให้เรียบร้อยเพื่อให้การ ขับรถช่วงหน้าฝน ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น

 

1. ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก

     ใบปัดน้ำฝนถือเป็นจุดที่สำคัญของรถยนต์สำหรับการขับขี่ช่วงหน้าฝน เพราะจะเป็นตัวช่วยให้ทัศนวิสัยบนถนนดีขึ้น หากใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพจะทำความสะอาดกระจกได้ไม่ดี ทำให้มองไม่ชัดระหว่าง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ควรเปลี่ยนใบปัดใหม่ทุก 6-12 เดือน หรือลองฉีดน้ำล้างกระจกและทดสอบก่อนออกเดินทาง และหากฝุ่นหรือโคลนกระเด็นขึ้นมากระจกหน้า การมีน้ำยาล้างกระจกพร้อมใช้งานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการ ขับรถลุยฝน

 

2. ตรวจสอบยางรถยนต์

     ยางรถยนต์ควรมีดอกยางลึกไม่น้อยกว่า 3 มม. เนื่องจากดอกยางรถยนต์มีหน้าที่รีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสระหว่างล้อกับถนน หากดอกยางตื้น จะทำให้เกิดอาการรถเหินน้ำ (Hydroplaning) และควบคุมรถได้ยากขณะขับรถ ควรเช็กความลึกของดอกยางอยู่เสมอ นอกจากนี้แล้วควรตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสมในการขับขี่ช่วงหน้าฝนอีกด้วย

3. ระบบไฟส่องสว่าง

     การมองเห็นและการให้สัญญาณกับผู้ร่วมทางเป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงฝนตก ไฟหน้าต้องสว่างเพียงพอ ไฟเบรกและไฟเลี้ยวต้องใช้งานได้ครบ หรือไฟตัดหมอกช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถคุณได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น ฝนตกหนักหรือหมอกลง เพื่อให้การขับรถหน้าฝน เป็นไปอย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากรถคันหลังที่อาจมองไม่เห็น

 

4. ระบบเบรกต้องแม่นยำ

     ระบบเบรกเป็นหัวใจสำคัญที่สุดเมื่อคุณต้อง ขับรถหน้าฝน เนื่องจากพื้นถนนจะลื่น การหยุดรถจึงใช้ระยะทางมากกว่าปกติ หากเบรกมีเสียงดัง ฝืด หรือต้องเหยียบลึกกว่าปกติ ควรรีบเข้าอู่ให้ช่างตรวจสอบทันที เพราะหากปล่อยไว้ การ ขับรถลุยฝน จะยิ่งเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น และอย่าลืมเช็กระดับน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่มีสีขุ่นหรือคล้ำ เพราะน้ำมันเบรกที่เสื่อมคุณภาพจะลดประสิทธิภาพในการเบรกลงอย่างมาก

 

5. ระบบไล่ฝ้าและแอร์

     ฝ้าขึ้นกระจกหน้าหลังเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงฝนตก หากระบบไล่ฝ้าหรือแอร์ไม่ทำงาน จะทำให้มองทางไม่ชัด ส่งผลให้ ขับรถลุยฝน เสี่ยงอุบัติเหตุมากขึ้น ควรตรวจว่าแอร์เย็นและสามารถไล่ฝ้าได้ หรือปรับโหมดเป่ากระจกหน้า/หลังเมื่อฝ้าขึ้น และใช้น้ำยาเคลือบกระจกกันฝ้าเพื่อช่วยเสริม

6.  ระบบเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่

     ฝนตกหนักอาจทำให้ความชื้นเข้าสู่ห้องเครื่อง หากระบบไฟไม่สมบูรณ์จะทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทยาก ควรตรวจสอบสายไฟ หัวเทียน และระบบจ่ายไฟให้พร้อมก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะหากคุณต้อง ขับรถลุยฝน เป็นประจำ นอกจากนี้ตรวจเช็กแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่มีอายุเกิน 2 ปี หรือเริ่มมีอาการไฟตก สตาร์ทช้า แนะนำให้เปลี่ยนก่อนหน้าฝนจะมา เพื่อป้องกันไม่ให้รถสตาร์ทไม่ติดในขณะที่คุณต้องการใช้งานเร่งด่วน

 

7. ประกันรถยนต์ 

     ในช่วงฤดูฝน ไม่ว่าจะเช็กสภาพรถดีแค่ไหน ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ การมีประกันรถยนต์จึงเปรียบเสมือน แผนสำรองสำคัญ ที่ช่วยให้คุณสบายใจเมื่อต้อง ขับรถหน้าฝน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ หรืออุบัติเหตุที่ไม่ตั้งใจ อย่างรถเสียหลักลงข้างทาง หรือน้ำท่วมรถ เพราะประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระทั้งเรื่องเงินและการจัดการค่าซ่อมต่างๆ 

เทคนิคขับรถหน้าฝนอย่างปลอดภัย

     หลังจาก เช็ครถก่อนขับลุยฝน แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเทคนิคการขับรถหน้าฝน อย่างปลอดภัย เพราะแม้รถจะพร้อม แต่หากผู้ขับขี่ไม่มีสติหรือประมาท ก็ยังคงเสี่ยงอยู่ดี พี่หมีมีทริคเล็กๆ ในการขับรถหน้าฝนให้ปลอดภัยมาฝากครับ

 

1. ลดความเร็วและเว้นระยะห่าง

     ฝนที่ตกลงมาแม้ไม่แรง ก็ทำให้พื้นถนนลื่นมากกว่าปกติ ควรลดความเร็วลงอย่างน้อย 20-30% และเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้าเป็น 2 เท่าเพื่อเผื่อระยะเบรก

 

2. เปิดไฟหน้าแม้ในเวลากลางวัน

     ช่วยเพิ่มการมองเห็นให้ชัดเจนขึ้น ให้รถคันอื่นมองเห็นรถของคุณในสภาพแสงน้อยได้ง่ายขึ้น และเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินขณะขับรถ เพราะอาจทำให้ผู้ร่วมทางสับสน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

 

3. หลีกเลี่ยงการขับผ่านแอ่งน้ำลึก

     ไม่ควร ขับรถลุยฝน ผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขัง หากไม่แน่ใจว่าระดับน้ำลึกแค่ไหน หากจำเป็นต้องลุยน้ำ ให้ใช้เกียร์ต่ำและขับช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่อไอเสีย

     การ เช็ครถก่อนขับลุยฝน เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะฝนไม่เพียงทำให้ถนนลื่นเท่านั้น แต่ยังลดทัศนวิสัยและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหลายรูปแบบ หากคุณเตรียมรถให้พร้อม เช็คระบบต่างๆ ของรถยนต์ และวางแผนเส้นทางทุกครั้งที่ต้องขับรถลุยฝน ก็จะสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยทุกเส้นทางในหน้าฝนนี้

 

     นอกจากนี้แล้วกอย่าลืมที่จะมี ประกันรถยนต์ ที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยง ทั้งอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างฝนตกหนักหรือความเสียหายจากน้ำท่วมรถ สนใจเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับทาง TQM หรือกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือโทร Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ