เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ชื่อ *
นามสกุล *
เพศ *
วัน/เดือน/ปีเกิด *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 767 ครั้ง
ถือเป็นโรคระบาดที่หลายประเทศกำลังจับตามองอย่าง ฝีดาษลิง โดยพบผู้ป่วยทั่วโลกไปแล้วกว่า 494 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. 2565) โดยการติดต่อของโรคนี้นั้นมาจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae พบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้นรวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้เช่นกันผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง ของสัตว์ที่ติดเชื้อหรือจากคนที่ติดเชื้อ
โดยจะมีอาการของโรคคือมีตุ่ม ผื่น หนองขึ้นบนร่างกาย จนคล้ายกับโรคอีสุกอีใส ซึ่งวันนี้ พี่หมี TQM จะพามาเช็กความต่างของ "ฝีดาษลิง" กับ "อีสุกอีใส" กันครับ
นพ.สุประกิต จิรารัตน์วัฒนา นายแพทย์ปฏิบัติการ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างฝีดาษลิง กับ อีสุกอีใส ว่า "อีสุกอีใสเวลามีผื่นตุ่มขึ้น ไม่นานภายใน 12 ชั่วโมงจากตุ่มแดงก็จะกลายเป็นตุ่มใส ตุ่มหนอง แปรสภาพได้รวดเร็ว และในคนเดียวกันรอยโรคจะมีหลายระยะในเวลาเดียวกัน ทั้งผื่นแดง ตุ่มใส ตุ่มหนอง ปนกันในเวลาเดียวกัน ส่วนฝีดาษลิงเวลาเปลี่ยนสภาพรอยโรคจะเปลี่ยนไปพร้อมกันทั้งร่างกาย เช่น ช่วงเป็นตุ่มใสก็จะเป็นทั้งตัว หรือตุ่มหนองก็จะเป็นทั้งตัว แต่ละระยะใช้เวลาแปรสภาพนานกว่าประมาณ 1-2 วัน และอีกจุดที่ต่างคือ อีสุกอีใส มีไข้ แต่ไม่มีต่อมน้ำเหลืองโต ต่างจากฝีดาษลิงที่มีต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งเป็นจุดที่ใช้วินิจฉัยแยกโรค"
แม้ว่าฝีดาษลิงสามารถหายเองได้ในเวลา 2-4 สัปดาห์ (หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน) แต่เราควรป้องกันตัวเองไว้ให้ดีที่สุด โดยการหลีกเลี่ยงกัยสัมผัสกับคนหรือสัตว์ที่เป็นพาหะ หากเดินทางกลับจากประเทศที่เสี่ยงควรกักตัวเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน และเพิ่มความอุ่นใจด้วย ประกันสุขภาพ เบี้ยเริ่มวันละ 20 บาท ผ่อน 0% ไม่ต้องสำรองจ่าย สนใจคลิกเลยที่นี่ หรือโทร 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง
READ MORE :
ชื่อ *
นามสกุล *
เพศ *
วัน/เดือน/ปีเกิด *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *