วิธีแจ้งเคลมประกันรถยนต์ แบบไม่ต้องจ่ายค่า Excess ทำอย่างไร

     เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายกับรถยนต์ หลายคนมักสงสัยว่าจะ แจ้งเคลมประกันรถยนต์ อย่างไรให้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม โดยเฉพาะ ค่า Excess หรือที่เรียกว่า ค่าเสียหายส่วนแรก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถอาจต้องจ่ายเองก่อนที่บริษัทประกันจะจ่ายให้ แล้วถ้าเราอยากเคลมประกันรถยนต์แบบไม่ต้องจ่ายค่า Excess ต้องทำอย่างไร วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากครับ

---

📖 รวมไฮไลท์ เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

• ค่า Excess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร
• ประเภทของการเคลมประกันรถยนต์
• วิธีแจ้งเคลมประกันรถยนต์แบบไม่ต้องจ่ายค่า Excess
• คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

---

ค่า Excess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร

     ค่า Excess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ คือ เงินจำนวนหนึ่งที่เจ้าของรถต้องรับผิดชอบเองก่อนในกรณีที่เกิดการเคลมประกัน โดยขึ้นอยู่กับประเภทของการเคลม และเงื่อนไขในกรมธรรม์ โดยมักจะต้องจ่ายค่า Excess ในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด หรือเคลมโดยไม่มีคู่กรณี

 

ตัวอย่างเช่น

 

     ถ้ามีการเคลมความเสียหายที่เจ้าของรถเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันอาจกำหนดให้ต้องจ่าย ค่าเสียหายส่วนแรก จำนวน 1,000 บาทก่อน ส่วนที่เหลือบริษัทประกันจะดูแลให้

 

ประเภทของการเคลมประกันรถยนต์

1. เคลมมีคู่กรณี (เคลมสด)

     หากเกิดอุบัติเหตุและมี คู่กรณีที่ชัดเจน เช่น รถชนรถ มีพยานหลักฐานว่าฝ่ายใดผิดหรือถูก การ แจ้งเคลมประกันรถยนต์ แบบนี้มัก ไม่ต้องจ่ายค่า excess เพราะถือว่าไม่ใช่ความผิดของผู้เอาประกัน หรือมีคู่กรณีที่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้

 

2. เคลมไม่มีคู่กรณี (เคลมแห้ง)

     เช่น รถโดนเฉี่ยวตอนจอดอยู่ หรือโดนขูดสีแล้วไม่มีหลักฐานว่าฝ่ายใดทำ แบบนี้จะถือว่าเป็นการเคลมไม่มีคู่กรณี ทำให้เจ้าของรถต้อง จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ตามที่ระบุในกรมธรรม์

วิธีแจ้งเคลมประกันรถยนต์แบบไม่ต้องจ่ายค่า Excess

1. แจ้งเคลมเมื่อมีคู่กรณี และสามารถระบุเหตุการณ์ได้ชัดเจน

     หากอุบัติเหตุเกิดจากการชนกับรถยนต์หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ควรแจ้งเหตุการณ์กับบริษัทประกันทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ และระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ เช่น ทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุล หรือข้อมูลอื่น ๆ จะสามารถแจ้งเคลมประกันรถยนต์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก

 

กรณีที่สามารถเคลมได้โดยไม่ต้องจ่ายค่า Excess

 

• • รถชนกันและมีคู่กรณี
  • รถถูกชนจากด้านหลัง
  • รถถูกเฉี่ยวชนและสามารถระบุคู่กรณีได้
  • รถถูกชนและมีพยานหลักฐาน เช่น กล้องหน้ารถ หรือภาพถ่ายที่แสดงความผิดของคู่กรณี

 

2. แจ้งเคลมแบบระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แน่ชัด (กรณีไม่มีคู่กรณี)

     ในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี ให้เราบอกข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ เวลา และสาเหตุของอุบัติเหตุได้อย่างชัดเจน จะช่วยลดโอกาสที่บริษัทประกันจะเรียกเก็บค่า Excess เช่น หากรถเฉี่ยวชนรั้วบ้านของคนอื่น ควรแจ้งว่าชนเมื่อไร และมีหลักฐานสนับสนุน เลี่ยงการตอบว่า “ไม่รู้ หรือจำเหตุการณ์ไม่ได้แล้ว” 

 

3. แจ้งเคลมครั้งละน้อยๆ ชิ้น

     ในการแจ้งเคลมประกันรถยนต์เราสามารถแจ้งเคลมได้ครั้งละไม่เกิน 5 รายการ หากเป็นการเคลมครั้งแรกหรือครั้งที่สอง และไม่มีประวัติเคลมมาก่อน ส่วนใหญ่บริษัทประกันมักอนุมัติให้เคลมได้ทันที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทด้วยนะครับ

คำถามที่พบบ่อย

ค่า Excess กับ ค่า Deductible ต่างกันไหม

ค่า Excess คือค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคบังคับที่บริษัทประกันกำหนด ผู้เอาประกันต้องจ่ายเมื่อเคลมไม่มีคู่กรณีหรือระบุสาเหตุไม่ได้ ส่วนค่า Deductible คือค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคสมัครใจที่ลูกค้าเลือกเพิ่มเองได้เพื่อให้เบี้ยประกันถูกลง และจะถูกเรียกเก็บเมื่อเป็นฝ่ายผิดหรือเป็นการเคลมแห้ง

 

ซื้อประกันชั้น 1 แบบไม่มี Excess ได้ไหม

บริษัทประกันส่วนใหญ่มีแพ็กเกจ ชั้น 1 ที่ไม่บังคับค่า Excess แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับแผนที่มี Excess เพราะบริษัทรับความเสี่ยงแทนทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายส่วนต่างเมื่อเคลมเล็ก ๆ น้อย ๆ

 

ถ้าเลือกค่า Excess ไว้สูง ๆ เบี้ยประกันจะถูกลงจริงไหม

การเลือกค่า Excess เพิ่ม เช่น จาก 0 บาท เป็น 1,000 / 3,000 / 5,000 บาท จะช่วยให้เบี้ยประกัน ถูกลงทันที เพราะคุณยอมรับภาระบางส่วนเวลาเคลม บริษัทจึงคิดเบี้ยน้อยลง เหมาะสำหรับคนขับดี เคลมน้อย ไม่ค่อยมีเหตุ

 

     การแจ้งเคลมประกันรถยนต์ โดยไม่ต้องเสีย ค่า Excess สามารถทำได้โดยมีคู่กรณีชัดเจน แจ้งรายละเอียดให้ครบถ้วน และเก็บหลักฐานสนับสนุนอย่างถูกต้องสิ่งสำคัญคือการเข้าใจรายละเอียดในกรมธรรม์ที่เราได้ทำไว้ การเลือกทำประกันที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณมั่นใจในทุกเหตุการณ์บนท้องถนน และหากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน สามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ของเรา เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมและอุ่นใจในทุกเส้นทาง หรือโทร Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง