รหัสใบเคลมประกัน A B C D คืออะไร บอกสถานะเคลมอะไรบ้าง
article created at icon22/04/68

|

อ่านแล้ว 1,119 ครั้ง

รหัสใบเคลมประกัน A B C D คืออะไร บอกสถานะเคลมอะไรบ้าง

     เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายกับรถยนต์ หลายคนที่เคยผ่านการแจ้งเคลมประกันคงเคยเห็นรหัสบางอย่างในใบเคลม ไม่ว่าจะเป็น A B C D หรือรหัสอื่น ๆ ที่ดูเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับรถและสถานะของความเสียหาย แต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจว่า "ใบเคลม A B C D หมายถึงอะไร" และ "รหัสในใบเคลม" เหล่านั้นสามารถบอกอะไรเราได้บ้าง วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากครับ

รหัสใบเคลมประกัน A B C D คืออะไร บอกสถานะเคลมอะไรบ้าง

ใบเคลม คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

     ใบเคลม (Claim Form) คือเอกสารที่ออกโดยบริษัทประกันภัยหลังจากที่ผู้เอาประกันแจ้งเหตุ เช่น รถชน หรือเกิดอุบัติเหตุ โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ชื่อผู้เอาประกัน, ทะเบียนรถ, เลขกรมธรรม์, รายละเอียดของเหตุการณ์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “รหัสในใบเคลม” หรือที่เราคุ้นกันในรูปแบบของตัวอักษร A, B, C, D

รหัสใบเคลม A, B, C, D หมายถึงอะไร

รหัสใบเคลม A, B, C, D หมายถึงอะไร

     ระบบการเคลมของบริษัทประกันมักจะใช้ รหัสในใบเคลม A , B , C , D เป็นตัวกำหนด "ระดับความเสียหายในใบเคลม" ซึ่งจะช่วยให้ทั้งบริษัทประกัน ตัวแทนซ่อม และลูกค้าเข้าใจตรงกันว่ารถอยู่ในสถานะใด สามารถประเมินค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ และควรดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยรหัสที่ใช้บ่อยมีดังนี้

 

รหัสใบเคลม A หมายถึงอะไร

     รถมีความเสียหายเล็กน้อย ไม่มีชิ้นส่วนเสียหาย สามารถขับต่อได้ เช่น รอยขีดข่วน สีถลอกจากการเฉี่ยวชนเล็ก ๆ อาจรอซ่อมรวมกับรอบใหญ่ หรือเข้าคิวซ่อมได้

 

รหัสใบเคลม B หมายถึงอะไร

     รถมีความเสียหายระดับกลาง เช่น รอยบุบ สีถลอก ชิ้นส่วนบางชิ้นเสียหาย ต้องเข้าซ่อมแบบมีระยะเวลา

 

รหัสใบเคลม C หมายถึงอะไร

     รถเสียหายรุนแรง ขับต่อไม่ได้ อาจมีการเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนบางชิ้น ต้องลากเข้าศูนย์ เช่น ฝากระโปรงยุบ ประตูบุบหลายบาน แต่โครงสร้างหลักยังไม่เสียหาย

 

รหัสใบเคลม D หมายถึงอะไร 

     รถเสียหายถึงขั้นใกล้พังหรือซ่อมไม่ได้ เช่น รถชนหนักจนโครงสร้างเสียหาย หรือรถตกข้างทาง/พลิกคว่ำ ไฟไหม้ น้ำท่วมหนัก อาจจะต้องพิจารณาว่าจะซ่อมหรือคืนทุนประกัน

 

รหัส Null หมายถึงอะไร 

     รถที่ไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นได้

 

รหัสใบเคลม L, M, H, X หมายถึงอะไร

    • รหัสใบเคลม L (Low) : ความเสียหายระดับต่ำ
    • รหัสใบเคลม M (Medium) : ความเสียหายระดับกลาง
    • รหัสใบเคลม H (High) : ความเสียหายระดับสูง
    • รหัสใบเคลม X : ต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือซ่อมแซมใหญ่​

รหัสใบเคลมประกันรถ

ผลกระทบจากระดับความเสียหายในใบเคลม

    • เบี้ยประกันในปีถัดไป : หากเคลมบ่อย หรือเคลมหนัก เบี้ยประกันอาจเพิ่มขึ้น และหากไม่มีการเคลม อาจได้รับส่วนลดประวัติดี
    • การต่อประกันกับบริษัทเดิม : หากเคลมหนักหรือเคลมถี่ บางบริษัทอาจ “ไม่รับต่อ” หรือเสนอราคาที่สูงขึ้น
    • การย้ายบริษัทประกัน : กรณีที่เปลี่ยนบริษัทประกันใหม่ ทางบริษัทใหม่อาจขอดูประวัติการเคลมจากเดิม หากมีเคลมหนักหรือหลายครั้ง อาจตั้งเบี้ยเริ่มต้นสูง
    • ราคาขายต่อของรถ : รถที่เคยมีเคลมระดับหนัก (โดยเฉพาะที่ระบุในเอกสาร/ประวัติตรวจสอบ) ราคาขายต่อจะตกลง

 

     จะเห็นได้ว่า รหัสในใบเคลม มีความสำคัญอย่างมากเพราะสามารถชี้ชัดว่า รถของคุณเสียหายระดับใด ซ่อมได้หรือไม่ และจะส่งผลต่ออนาคตของรถอย่างไรบ้าง ดังนั้น อย่าละเลยรหัสเพียงไม่กี่ตัวบนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ เพราะมันคือกุญแจสำคัญที่บอกทุกอย่างเกี่ยวกับรถของคุณ หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

     อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลยสำหรับคนมีรถคือการมี ประกันรถยนต์ ที่ดีที่จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองและสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น อย่าลืมมองหาประกันรถยนต์กับ TQM สามารถเข้ามา เช็คราคาประกันรถยนต์ บริษัทชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษ ผ่อน 0% มีรถใช้ระหว่างซ่อม สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร Hotline 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

TQM Bear
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง