รถเหินน้ำคืออะไร อาการรถเหินน้ำ อันตรายแค่ไหนช่วงหน้าฝน

     ประเทศไทยประกาศเริ่มเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาของคนขับรถเลยก็คือ "รถเหินน้ำ" ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างมาก สามารถทำให้รถเสียการควบคุม รถไถลลงข้างทางได้ วันนี้พี่หมี TQM จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ รถเหินน้ำคืออะไร อาการรถเหินน้ำเป็นยังไง และจะป้องกันได้อย่างไรในช่วงหน้าฝนนี้

รถเหินน้ำ คืออะไร

     รถเหินน้ำ (Hydroplaning) คืออาการที่รถยนต์สูญเสียการยึดเกาะกับพื้นถนนขณะวิ่งผ่านบริเวณที่มีน้ำขัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ยางรถจะไม่สามารถรีดน้ำออกได้ทัน ส่งผลให้ชั้นของน้ำเข้ามาแทรกระหว่างยางกับผิวถนน กลายเป็นเหมือนลอยอยู่บนน้ำ คล้ายกับการลื่นไถล ทำให้คนขับควบคุมรถได้ยากมาก พวงมาลัยควบคุมทิศทางไม่ได้

 

     สรุปแบบง่าย ๆ ก็คือ เมื่อล้อหมุนผ่านผิวน้ำด้วยความเร็วสูง หน้ายางจะไม่สามารถรีดน้ำออกได้ทัน ล้อจึงเหินลอยคล้ายกับลอยอยู่บนผิวน้ำ ไม่สัมผัสพื้นถนนโดยตรงอีกต่อไป จึงเรียกว่า “รถเหินน้ำ” นั่นเอง

สาเหตุที่ทำให้รถเหินน้ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง

     การเกิดรถเหินน้ำในช่วงฝนตกนั้นอสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

 

1. ความเร็วที่มากเกินไป

     การขับขี่ด้วยความเร็วสูงในช่วงฝนตกเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการ เหินน้ำ เนื่องจากยางไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นผิวถนนได้ทัน จึงทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่าย

 

2. สภาพยางรถยนต์

     ยางรถยนต์ที่มีความสึกหรอหรือไม่มีร่องลึกที่สามารถระบายน้ำออกจากยางได้ดี มักจะทำให้เกิดการ เหินน้ำ ได้ง่ายขึ้น การตรวจสอบสภาพยางให้ดีเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุจากการเหินน้ำ

 

3. พื้นผิวถนน

     ถนนที่มีน้ำขังหรือถนนที่มีรูปร่างไม่เรียบ เช่น รอยแตก รอยตะปู หรือที่มีการสะสมน้ำเป็นแอ่งลึก เป็นสิ่งที่เพิ่มความเสี่ยงในการ เหินน้ำ โดยเฉพาะเมื่อฝนตกหนัก

 

4. การขับขี่ในช่วงเวลาฝนตกหนัก

     ฝนที่ตกหนักจะทำให้ถนนเต็มไปด้วยน้ำขังและเพิ่มความเสี่ยงในการเหินน้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงควรระมัดระวังและขับขี่อย่างช้าๆ

อาการรถเหินน้ำเป็นอย่างไร

     อาการรถเหินน้ำ สามารถทำให้รถเสียหลักลงข้างทาง ชนขอบทาง เสาไฟ หรือแม้แต่ชนกับรถคันอื่น จึงถือเป็นภาวะเสี่ยงอันตรายสูงมาก โดยเฉพาะหากเกิดบนทางด่วน ทางโค้ง หรือขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยสามารถสังเกตุอาการรถเหินน้ำได้ดังนี้

 

1. รถสูญเสียการควบคุมกะทันหัน

     หนึ่งในอาการรถเหินน้ำ ที่สังเกตได้ชัดเจนคือรถจะเคลื่อนออกนอกเส้นทาง หรือเลี้ยวผิดทิศทาง แม้คุณจะบังคับพวงมาลัยหรือเหยียบเบรกแล้วก็ตาม

 

2. พวงมาลัยเบาแบบผิดปกติ

     ในขณะเกิดรถเหินน้ำ พวงมาลัยจะมีอาการเบาหวิวเหมือนลอย ไม่ตอบสนองต่อการควบคุม เนื่องจากล้อไม่ได้สัมผัสพื้นถนนจริงๆ

 

3. รถไถลหรือหมุน

     หากเกิด อาการรถเหินน้ำ ในโค้งหรือบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง รถอาจไถลหรือถึงขั้นหมุนเสียการควบคุมได้ทันที โดยเฉพาะในรถที่ไม่มีระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESC)

 

4. ระบบเบรกไม่ตอบสนอง

     พอเหยียบเบรกแล้วรู้สึกเบรกไม่ค่อยอยู่ หรือเหยียบเบรกแล้วรถยังไถลไปต่อ เสี่ยงชนหรือเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก

วิธีป้องกันรถเหินน้ำช่วงหน้าฝน

     วิธีป้องกันรถเหินน้ำช่วงหน้าฝน เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้ เพราะอย่างที่เรารู้ว่าอาการรถเหินน้ำ เกิดขึ้นได้ง่ายในสภาพถนนที่เปียกชื้นหรือน้ำขัง โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนัก โดยสามารถป้องกันได้ดังนี้

 

• • ลดความเร็วเมื่อขับผ่านถนนเปียกหรือมีน้ำขัง : ยิ่งขับเร็ว ยางยิ่งรีดน้ำไม่ทัน ความเร็วที่ปลอดภัยช่วงหน้าฝนคือไม่เกิน 60–80 กม./ชม. ขณะฝนตกหรือขณะลุยน้ำ
  • ตรวจสอบดอกยางและสภาพยางสม่ำเสมอ : ยางที่สึกหรือหมดอายุจะรีดน้ำได้น้อย และเสี่ยงต่ออาการรถเหินน้ำมากขึ้น ดอกยางควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 3 มม.
  • ตั้งแรงดันลมยางให้เหมาะสม : ตรวจสอบและเติมลมยางตามค่ามาตรฐานของรถที่ระบุในคู่มือผู้ใช้ ลมยางที่อ่อนหรือแข็งเกินไปจะลดประสิทธิภาพในการรีดน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการขับผ่านแอ่งน้ำลึก : หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ชะลอความเร็วและจับพวงมาลัยให้มั่น อย่าหักพวงมาลัยกะทันหันหรือเหยียบเบรกแรงๆ
  • อย่าบังคับพวงมาลัยหรือเบรกกระทันหันเมื่อรู้สึกว่ารถเริ่มเหินน้ำ : หากเกิดอาการรถเหินน้ำจริง ให้ค่อยๆ ผ่อนคันเร่ง และรักษาทิศทางรถให้ตรง รอให้ยางกลับมายึดเกาะพื้นถนนอีกครั้ง

 

     ปัญหารถเหินน้ำ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ง่ายในช่วงหน้าฝน ทำให้รถสูญเสียการควบคุมอย่างกะทันหัน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง แต่สามารถป้องกันได้ หากคนขับขี่ขับด้วยความระมัดระวัง ก็จะเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว อย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถช่วงหน้าฝนเป็นประจำ หมั่นดูแลยางรถช่วงหน้าฝน และลดความเร็วเมื่อถนนเปียก เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้ร่วมทางทุกคน

     นอกจากนี้แล้ว การมีประกันรถยนต์ ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นในช่วงหน้าฝนนี้ ช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างสบายใจ ให้ความคุ้มครองที่ครอบคุ้ม ทั้งอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างฝนตกหนักหรือความเสียหายจากน้ำท่วมรถ สนใจเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับทาง TQM หรือกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือโทร Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ