20/05/68

|

อ่านแล้ว 6 ครั้ง

วิธีดูแลสีรถช่วงหน้าฝน ให้เงางาม ไม่เป็นคราบ

     การดูแลรถยนต์ในฤดูฝนเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ "วิธีดูแลสีรถยนต์" เพราะฝนที่ตกลงมานั้นไม่ใช่แค่น้ำฝน ยังมีฝุ่นโคลน กรดจากมลพิษ หรือคราบน้ำที่เกาะบนพื้นผิวรถ ล้วนเป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ ทำลายสีรถอย่างไม่รู้ตัว วันนี้พี่หมี TQM มีวิธีดูแลสีรถยนต์ ช่วงหน้าฝนอย่างละเอียด เพื่อให้รถเงางามเหมือนใหม่และปราศจากคราบสกปรกกันครับ

วิธีดูแลสีรถช่วงหน้าฝน ไม่ให้เป็นคราบ

ทำไมหน้าฝนต้องดูแลสีรถยนต์เป็นพิเศษ

1. ฝนมีค่าความเป็นกรด

     ฝนในเมืองใหญ่หรือใกล้แหล่งอุตสาหกรรมมักมีค่าความเป็นกรด ซึ่งส่งผลต่อการกัดกร่อนของพื้นผิวสีรถ หากทิ้งคราบฝนไว้นานโดยไม่ล้างออก อาจทำให้สีรถเป็นคราบถาวรได้

 

2. คราบน้ำแห้งฝังแน่น

     หากปล่อยให้น้ำฝนแห้งเองโดยไม่เช็ดหรือล้างออกทันที อาจก่อให้เกิดคราบน้ำฝังแน่น ซึ่งทำลายความเงางามของรถ

 

3. โคลนและสิ่งสกปรกจากถนน

     น้ำที่กระเด็นจากถนนเต็มไปด้วยโคลน ทราย หรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ที่เกาะตามตัวรถ และสามารถขูดขีดผิวสีได้หากเช็ดทำความสะอาดอย่างผิดวิธี

ทำไมหน้าฝนต้องดูแลสีรถยนต์เป็นพิเศษ

วิธีดูแลสีรถยนต์ ช่วงหน้าฝน ให้สีเงางามอยู่เสมอ

     การดูแลสีรถในช่วงหน้าฝนไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่ยังเกี่ยวข้องกับการยืดอายุสีรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคต สำหรับการดูแลสีรถยนต์ ช่วงหน้าฝนควรทำอย่างไรบ้างไปดูกันครับ

 

1. ล้างรถทันทีเมื่อเปื้อนน้ำฝนหรือโคลน

     หลังฝนหยุดควรล้างรถโดยเร็ว เพราะน้ำฝนและโคลนที่แห้งจะทิ้งคราบเกาะสีรถ หากปล่อยไว้นานอาจฝังแน่นและทำลายสีรถได้ ล้างด้วยน้ำสะอาดก่อน แล้วใช้น้ำยาล้างรถสูตรอ่อนโยน จะช่วยลดการกัดกร่อนสี และป้องกันการเกิดรอยจากฟองน้ำหรือแปรงล้างรถ โดยควรหลีกเลี่ยงผงซักฟอกทั่วไป หรือไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานในการล้างรถ

 

2. เช็ดรถให้แห้งทันทีหลังล้าง

     หลังล้างรถ อย่าปล่อยให้แห้งเองโดยธรรมชาติ เพราะจะเกิดคราบน้ำหรือคราบแคลเซียมที่ยากจะเช็ดออก ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาด ซับน้ำให้แห้งสนิททั้งตัวถังและบริเวณซอกมุมต่างๆ

 

3. เคลือบสีหรือแว็กซ์อย่างสม่ำเสมอ

     การเคลือบสีรถจะช่วยสร้างชั้นฟิล์มปกป้องผิวรถจากน้ำฝน ฝุ่น และแสงแดด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ วิธีดูแลสีรถยนต์ ให้เงางามอยู่เสมอ ควรเคลือบอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้งในช่วงหน้าฝน หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเงาแบบ Spray ที่ทำได้หลังล้างรถ

 

4. หลีกเลี่ยงการจอดกลางฝนหรือใต้ต้นไม้

     หลีกเลี่ยงการจอดรถในที่ที่ฝนตกกระทบโดยตรง หรือจอดรถใต้ต้นไม้ที่มีน้ำหยดจากใบไม้และยางไม้ ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบฝังแน่นได้ง่าย และอาจมีเศษขยะหรือขี้นกตกใส่ที่ทำลายผิวสีรถ

 

5. ล้างช่วงล่างด้วย

     โคลนและฝุ่นจากถนนมักเกาะที่ซุ้มล้อ ใต้ท้องรถ หรือกระโปรงล้อ ควรล้างเป็นประจำเพื่อป้องกันสนิมใต้ท้องรถและลดความเสียหายต่อสีรถในระยะยาว

 

6. ใช้น้ำยาเคลือบกระจกป้องกันคราบน้ำฝน

     นอกจากดูแลสีรถแล้ว กระจกก็เป็นส่วนสำคัญ หากคราบน้ำฝังแน่นบนรถยนต์จะบดบังทัศนวิสัยและทำให้ขับขี่ยาก การเคลือบกระจกเป็นประจำจะช่วยให้น้ำไหลออกง่าย ปลอดภัยในทุกการเดินทาง

วิธีดูแลสีรถยนต์ ช่วงหน้าฝน ให้สีเงางามอยู่เสมอ

     การดูแลรถในหน้าฝน ไม่ใช่แค่การล้างแล้วจบ แต่ต้องมี วิธีดูแลสีรถยนต์ อย่างถูกต้อง ตั้งแต่การล้าง การเคลือบสี การจอดรถอย่างเหมาะสม รวมถึงการเช็ดรถให้แห้งทุกครั้ง ทั้งหมดนี้คือวิธีที่ช่วยให้รถของคุณยังคงเงางาม ปราศจากคราบ และยืดอายุการใช้งานของสีรถให้คงทนยาวนาน

 

     นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของรถไม่ควรมองข้ามในช่วงหน้าฝนก็คือ การทำประกันรถยนต์ เพราะแม้คุณจะดูแลรถดีแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนถนนลื่น หรือจากคราบโคลนที่บดบังวิสัยทัศน์ การมีประกันคุ้มครองไว้ล่วงหน้า ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ น้ำท่วม หรือความเสียหายต่อสีรถได้อย่างครอบคลุม หากสนใจสามารถเข้ามาเช็คราคาประกันรถยนต์ กับ TQM พร้อมบริการเสริมผ่อนได้ 0% หรือสามารถกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันที่ตรงใจคุณ หรือทักแชทหาพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ 

เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง