ข้อควรรู้เกี่ยวกับภาษีรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
ภาษีรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ รองลงมาจากการ
ตรวจเช็คสภาพรถ หากละเลยในการต่อภาษีรถยนต์ จะถือเป็นการทำผิดกฎหมายโดยทันที!
อัตราภาษีรถยนต์กำหนดโดย พ.ร.บ การขนส่งทางบก พ.ศ.2552 โดยมีข้อบังคับให้ต่อภาษีทุกปี ซึ่งสามารถต่อภาษีล่วงหน้าได้ก่อนที่ทะเบียนจะหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน หากทำการต่อภาษีล่าช้า อาจทำให้ถูกปรับได้
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ชวนปวดหัวภายหลัง พี่หมีมีข้อควรรู้เกี่ยวกับภาษีรถยนต์มาบอกครับ
ในกรณีที่ขาดการชำระภาษีรถยนต์
หากขาดชำระภาษีรถยนต์เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ส่งผลให้ทะเทียนรถถูกระงับใช้ เจ้าของรถต้องคืน
แผ่นป้ายทะเบียน รวมถึงนำสมุดคู่มือมาให้กับทางราชการ เพื่อบันทึกการระงับทะเบียนภายใน 30 วัน หลังจากนั้นต้องทำเรื่องขอทะเบียนใหม่ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถใช้รถได้
ต้องมีใบตรวจสภาพรถยนต์
หากรถยนต์มีสภาพการใช้งานเกิน 7 ปี ต้องทำการตรวจเช็คสภาพรถยนต์เพื่อขอใบ ต.ร.อ โดยจะเป็นการยืนยันว่ารถยนต์มีมาตรฐานผ่านการรับรองจากรมการขนส่งทางบก
เอกสารสำคัญที่สำหรับการต่อภาษีรถยนต์
- หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถยนต์ หรือใบแทน
- หลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ
- เอกสารรับรองการตรวจสภาพรถยนต์
สถานที่สำหรับการต่อภาษีรถยนต์
- สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ
- ที่ทำการไปรษณีย์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
ข้อควรรู้สำหรับผู้เสียภาษีครั้งแรก
- อย่าลืมตรวจสภาพรถล่วงหน้าก่อนวันหมดอายุ 3 เดือน
- ทำประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ โดยเป็นประกันภัยที่คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์
- สามารถฝากต่อภาษี และมารับป้ายวงกลม ภายใน 2 วันได้เลย
ปัจจุบันสามาถต่อภาษีผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย โดยเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา โดยประเภทรถยนต์ที่สามารถต่อภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ มีดังนี้
- รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
- รถเก๋ง รถตู้ และรถกระบะ ที่จดทะเบียนไม่เกิน 7 ปี
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่จดทะเบียนไม่เกิน 5 ปี
- รถยนต์จดทะเบียรที่จังหวัดใดก็ได้
- ต้องเป็นรถยนต์ที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี และสามารถชำระภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
ถ้าไม่อยากเกิดปัญหาที่ชวนปวดหัวภายหลัง เกี่ยวกับภาษีรถยนต์ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนให้ถูกต้อง คือเสียภาษีให้ตรงเวลาที่กำหนด รวมถึงเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือหลักฐานการตรวจเช็คสภาพรถว่ามีมาตรฐานตามที่กฏหมายกำหนดหรือไม่ โดยสามารถทำการตรวจสภาพรถยนต์ได้ผ่าน TQM โดยพร้อมค้นหา
อู่ซ่อมที่มีคุณภาพและอยู่ในระแวกที่เจ้าของรถสะดวกเข้าไปรับการบริการ หากสนใจสามารถ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737
READ MORE :