ซ่อมบ้านหลังน้ำท่วม เริ่มต้นอย่างไรดี?

หลังน้ำท่วมต้องซ่อมบ้านอย่างไรดี

     ตอนนี้ในประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตน้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีระดับน้ำท่วมขังสูงถึง 4 เมตร มิดหลังคาบ้านเรือนของชาวบ้าน บางพื้นที่ก็ท่วมสูงถึงเกือบชั้น 2 จากตัวบ้าน ซึ่งถือเป็นวิกฤตหนักที่ชาวจังหวัดอุบลราชธานีต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยชาวบ้านต้องได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นปัญหาน้ำท่วมใหญ่ รองจากเมื่อปี 54 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุของน้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานีครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และ เกิดมวลน้ำจาdแม่น้ำต่างๆไหลมารวมกันเนื่องจากอุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำสายหลัก ๆ ไหลลงมารวมกันคือ แม่น้ำชีและลำน้ำมูล ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น รวมถึงแม่น้ำโขงที่มีการหนุนสูงขึ้นอีกด้วย ที่ถึงแม้จะมีปริมาณน้ำที่เริ่มลดลงแล้วก็ตามแต่ความเสียหายนั้นก็มีมากไม่น้อยเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบ้านเรือน พื้นที่ทำมาหากิน รถยนต์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงต่างๆ

 

 

     จากความเสียหายที่เกิดขึ้น สิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญสำหรับการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่จะได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งได้รับผลกระทบที่มากหรือน้อย เช่น ความเสียหายรอบตัวบ้าน อาทิ ประตู หน้าต่าง พื้นบ้าน เชื้อรา คราบน้ำต่าง ๆ ที่ต้องทำความสะอาด ของใช้หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งชาวบ้านหลายครัวเรือนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำท่วมสูงและนานขนาดนี้ได้รับความเสียหายหนัก กลับไปอาศัยอยู่ไม่ได้แน่นอน

 

โดยวันนี้พี่หมีก็มีวิธีเตรียมรับมือหลังน้ำลดกับการ ซ่อมบ้านหลังน้ำท่วม เริ่มต้นอย่างไรดีมาฝากครับ....

 

     
     หลังน้ำท่วม หรือหลังน้ำลดมีหลายอย่างที่เราต้องจัดการเช็คเพื่อ เริ่มต้นในการจัดซ่อมบ้านโดยควรจัดลำดับความสำคัญในการเริ่มซ่อมเตรียมเพื่อวางแผนการใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกด้วย

 

เช็คระบบไฟฟ้าในบ้าน

เช็คระบบไฟในบ้านว่าได้รับความเสียหายขนาดไหน หรือ มีจุดไฟฟ้ารั่ว หรือ ลัดวงจรตรงไหนหรือไม่ เพราะเมื่อน้ำท่วมระบบไฟฟ้าจะถูกตัด พร้อมดูมิเตอร์ไฟว่ามีการหมุนหรือไม่ หากมีการหมุนแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านไม่ได้รั่วไหล และหากกลัวจะเกิดน้ำท่สมซ้ำก็ควรเปลี่ยนตำแหน่งของไฟให้สูงขึ้น

เช็คระบบน้ำ

เมื่อตรวจสอบไฟ แล้วควรตรวจสอบระบบน้ำปะปาในบ้านหลังจากเกิดน้ำท่วม ว่าช่วงที่เกิดน้ำท่วมน้ำบ้านเรามีจุดไหนที่ท่อประปาแตกหรือไม่ ซึ่งอาจดูได้จากมิเตอร์น้ำ อีกทั้งควรตรวจสอบปั๊มน้ำว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่

เช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นในบ้านอย่าง เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้าที่อาจได้รับความเสียหาย ว่ามีสิ่งไหนได้รับความเสียหายบ้าง และเสียหายขนาดไหน สามารถซ่อมแซมได้หรือไม่

สำรวจความเสียหายของตัวบ้าน

เมื่อน้ำลดควรตรวจสอบตัวบ้านว่าได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน เช่น ฝ้าเพดานได้รับความเสียหายจากน้ำหรืไม่ ผนังบ้านได้รับความเสียหายขนาดไหน พื้นเป็นพื้นไม้ หรือ พื้นพรม หรือไม่ พร้อมส่วนอื่นๆ เช่น ประตู หน้าต่าง ว่าทำด้วยไม้ หรือ เหล็กซึ่งความเสียหายของสิ่งของจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัสดุของสิ่งของนั้น ๆ หากเป็นเหล็กแช่น้ำนานๆ ก็อาจทำให้เกิดสนิทได้ รวมถึงอาจต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์และทาสีบ้านใหม่ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และถึงแม้จะมีในส่วนของเงินเยียวยา ที่ทางระเบียบกระทรวงการคลังได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 สำหรับค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำหลังละไม่เกิน 33,000 บาท

 

 

     อีกทั้งการเลือกทำ ประกันบ้าน และ ประกันอัคคีภัย ที่มีในส่วนของความคุ้มครองน้ำท่วม และภัยธรรมชาติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้แบบที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพื่อได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับที่อยู่อาศัย ซึ่งสามารถปรึกษาความคุ้มครอง และ แผนประกันภัยบ้านกับพี่หมีได้ที่ TQM 1737 หรือ LiveChat ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ

 

ที่มา : สาเหตุน้ำท่วมอุบล หนักสุดรอบ 17 ปี รับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ เที่ยงคืนวันนี้ https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1659261

 

READ MORE :

 

►  ประกันรถน้ำท่วม จ่ายเท่าไหร่?

►  น้ำท่วม ไฟไหม้ มีประกันแบบไหนคุ้มครอง?

►  ประกันอัคคีภัย คุ้มครองน้ำท่วมบ้าน