01/06/62

|

อ่านแล้ว 695 ครั้ง

รู้ไว้ เป็นไข้เลือดออกทำไมถึงตาย

มาทำความเข้าใจกับโรคนี้แบบเคลียร์ ๆไข้เลือดออก ทำไมถึงตาย 

     ไข้เลือดออก ถือเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยมียุงเป็นตัวพาหะนำโรค มักระบาดในช่วงหน้าฝน เนื่องจากฝนตกทำให้เกิดน้ำขัง ยุงลายจึงไปวางไข่ และเกิดการแพร่พันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ  สำหรับผู้ปป่วยที่มีภูมิต้านทานแข็งแรง ก็สามารถรักษาได้ง่าย แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหนัก ก็ต้องให้น้ำเกลือ หรือให้เลือด และหากร่างกายไม่มีสามารถรับได้ไหว ก็จะเข้าสู่สภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด มีความเสี่ยงเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่วัน! ถือเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขทางการแพทย์ของประเทศไทย เนื่องจากยังพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเป็นจำนวนมากเกือบทุกปี มักเกิดกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี 
 
สำหรับอาการของโรคไข้เลือดออก หลังจากที่ได้รับเชื้อประมาณ 5-8 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการตั้งแต่คล้ายเป็นไข้ จนถึงเกิดภาวะช็อค และเสี่ยงเสียชีวิตได้ โดยมีอาการดังนี้
 
 เป็นไข้เลือดออกทำไมถึงตาย
 

อาการไข้เลือดออก

1. ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลันประมาณ 2-7 วัน ซึ่งจะมีอุณหภูมิสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส จนถึง 40-41 องศาเซลเซียส และสำหรับเด็กที่เคยมีประวัติชัก มีความเสี่ยงทำให้เกิดอาการชักได้
2. เส้นเลือดเปราะ แตกง่าย และมีจุดเลือดออกขนาดเล็กกระจายอยู่ที่บริเวณแขน ขา ลำตัว และรักแร้ รวมถึงมีเลือดกำเดาสีดำ หรือมีเลือดออกตามไรฟัน ในกรณีที่อาการรุนแรง จะทำให้ถ่ายเป็นเลือด มีอาการเลือดออกในทางเดินอาหาร และมีภาวะช็อก
3. มีอาการตับโต กดแล้วเจ็บ มักคลำพบอาการตับโตช่วงประมาณวันที่ 3-4 นับตั้งแต่วันที่ป่วย
4. มีภาวะการไหลเวียนเลือดล้มเหลว รวมถึงมีความเสี่ยงเกิดการไหลเวียนของเลือดล้มเหลว หรือเกิดภาวะช็อก โดยสาเหตุมาจากมีการรั่วของพลาสมาออกไปที่บริเวณช่องท้องหรือช่องปอดในจำนวนมาก จึงทำให้เกิด Hypovolemic Shock โดยมักเกิดขึ้นพร้อมกับไข้ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งภาวะการช็อกจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มีไข้ อาจเกิดได้ในวันที่ 3 หรือวันที่ 8 เมื่อเกิดโรค โดยผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลงตามลำดับ อีกทั้งมีความดันโลหิตที่เปลี่ยนแปลง กระสับกระส่าย ชีพจนไม่คงที่ และมือเท้าเย็น
 
ไข้เลือดออกถึงตายจริงหรือ!
     ผู้ป่วยแต่ละคนมีอาการต่างกันออกไป บางคนอาจเกิดอาการไข้ขึ้นสูง โดยในกรณีที่ไข้ลดลงก็สามารถกลับบ้านได้ แต่หากมีอาการหนักมีความเสี่ยงทำให้เกิดเหตุถึงชีวิตได้เช่นกัน สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจเกิดอาการช็อก หรือมีเลือดออกตามร่างกาย สาเหตุมาจากการขาดน้ำ โดยน้ำในหลอดเลือดไหลไปอยู่ที่บริเวณเนื้อเยื่อข้างเคียง มีส่วนทำให้ความดันเลือดลดลง ส่งผลให้เกิดอาการช็อก รวมถึงมีความเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิต!
 
วิธีป้องกันไข้เลือดออก
1. กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย อาทิ แหล่งที่มีน้ำขังต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน
2. ปิดฝาภาชนะที่เก็บน้ำให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงวางไข่
3. หมั่นเปลี่ยนน้ำที่อยู่ในแจกันดอกไม้ หรือภาชนะอื่นๆ ที่เป็นประเภทขวด แก้ว ถัง
4. ใช้สารไล่ยุงเพื่อป้องกันการระบาดของโรคไข้เลือดออก
5. หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่เป็นมุมมืด มีแสงสว่างน้อย
6. อาบน้ำให้สะอาดเพราะเหงื่อมีส่วนดึงดูดยุงให้มากัด
7. ติดตั้งมุ้งลวดบริเวณห้องนอน
 
     หากพบอาการผิดปกในร่างกาย พี่หมีแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นการดีที่สุดครับ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ หรือรอให้หายเอง เพราะคิดว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา อาจทำให้อาการลุกลาม เสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิต! และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามและควรป้องกัน คือการทำประกันสุขภาพ เพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลต่างๆ โดยที่ TQM มีประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ดีไลท์ จากวิริยะประกันภัย ที่ให้การคุ้มครองสูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท และผ่อน 0% สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 
RAED MORE : 
 
 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
สุขภาพ
มะเร็ง
ลดหย่อนภาษี

ชื่อ *

นามสกุล *

เพศ *

วัน/เดือน/ปีเกิด *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล